Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ณัฐมาคุย
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
25 ธ.ค. 2022 เวลา 06:30 • คริปโทเคอร์เรนซี
เมื่อ Financial Inclusion ในโลกคริปโต Backfired
ผมเคยได้เล่าไปบ้างแล้วว่า การเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) ไม่ได้ดีเสมอไป จริงอยู่ที่การมี “โอกาส” และ “สิทธิ” ที่จะเข้าถึงนั้นมักจะดีเสมอ แต่ไม่ได้แปลว่า การเข้าถึงเองนั้นจะดีเสมอ
ในสหรัฐอเมริกา มีความเหลื่อมล้ำในหลาย ๆ ด้าน เช่น รายได้ ฐานะทางการเงิน โอกาสทางธุรกิจ และการลงทุน โดยเฉพาะในกลุ่มคนผิวสี เช่น คนผิวดำ และคนกลุ่มละติโน ซึ่งหลาย ๆ คนเชื่อว่า หากเราแก้ไขปัญหา การเข้าถึงบริการทางการเงิน คนเหล่านี้ก็จะมีฐานะดีขึ้นเอง
ซึ่งชาวคริปโตมักจะอ้างว่า คริปโตนี่แหล่ะที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว จนจะทำให้โลกการเงินเป็นโลกประชาธิปไตย (Democratize Finance)
แต่ความเป็นจริง เรื่องราวกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ถ้าคริปโตจะทำให้โลกการเงินเป็นประชาธิปไตยจริง ๆ ล่ะก็ มันน่าจะทำให้คนจนลงอย่างทั่วถึงเสียมากกว่า
ผลการศึกษาของ Charles-Schwab พบว่าคนผิวดำสนใจในการลงทุนครอปโตมากกว่าคนผิวขาวมาก ส่วน Pew Research ก็สรุปว่า คนผิวสีดำ คนละติโน และคนเอเชียในสหรัฐอเมริกาก็มีสัดส่วนการลงทุนในคริปโตที่มากกว่าเช่นกัน
ซึ่งหากราคาคริปโตปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างที่ทุกคนฝันกัน โลกก็คงจะมีความเหลื่อมล้ำน้อยลงบ้าง
แต่ความเป็นจริง โลกกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น คนกลุ่มใหญ่นี้ลังเลที่จะเข้าไปซื้อในช่วงต้นของการเกิดขึ้นของคริปโต เพราะขาดความรู้ แต่กลับเข้ามาลงทุนในช่วงที่เป็นตลาดขาขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้คนเหล่านี้เข้าซื้อในต้นทุนที่สูง (แถวบ้าน น่าจะเรียกว่า ติดดอย)
คนกลุ่มนี้เลือกลงทุนในคริปโตมากกว่าที่ลงทุนในหุ้นเสียอีก เพราะมันดูเหมือนว่าจะให้โอกาสในการได้ผลตอบแทนที่หวานหอมกว่ามาก และไม่ได้มีสินทรัพย์จำนวนมากให้ลงทุน พอตลาดคริปโตเกิดความเสียหาย จึงส่งผลกระทบกับความมั่งคั่งของครอบครัวเป็นอย่างมาก
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก ในปี 2008 ที่งมีวิกฤติการณ์ทางการเงินในตลาดเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ก็เกิดปัญหานี้เช่นกัน
นวัตกรรมทางการเงินอย่าง Mortgage-Backed Securities และ Credit Default Swap รวมไปถึง Collateralized Debt Obligations ทำให้ลูกหนี้ที่มีคุณภาพต่ำ (Subprime) สามารถกู้ยืมเงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยได้ แม้ต้องจ่ายดอกเบี้ยที่สูงกว่า และต้องผ่อนในสัดส่วนที่มากกว่าเมื่อเทียบกับรายได้
ซึ่งสร้างผลตอบแทนให้กับสถาบันการเงินมากกว่า ดังนั้นจึงเกิดความพยายามในการผลักดันให้คนเหล่านี้มากู้เรียกสิ่งนี้ว่า Predatory Inclusion พอตอนเกิดวิกฤติการณ์ กลับกลายเป็นว่าคนกลุ่มนี้กลับเสียหายมากกว่ามาก ไม่สามารถผ่อนบ้านต่อไปได้ ขาดความรู้ในการต่อรอง และมีรายได้ที่ไม่พอให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ประกอบกับที่อยู่อาศัยเป็นบ้านคุณภาพต่ำ และมีปริมาณมาก
ราคาจึงปรับตัวลดลงมากกว่า กลุ่มคนผิวสีที่ซื้อบ้านในข่่วงนั้น จึงกลับมีฐานะทางการเงินที่แย่ลง เพราะสูญเสียทั้งบ้านจากการขายทอดตลาดของธนาคาร และสูญเสียเงินเก็บที่ลงทุนไปกับการกู้ยืมอีกด้วย
น่าจะเห็นกันได้ชัดว่า การเข้าถึงบริการทางการเงินไม่ใช่สำหรับทุกคน โดยเฉพาะถ้าไม่พร้อม ทั้งในเรื่องของฐานะทางการเงิน และความรู้ทางการเงินครับ
อ้างอิง :
https://www.schwabmoneywise.com/tools-resources/ariel-schwab-survey-2022
https://www.pewresearch.org/fact-tank/2021/11/11/16-of-americans-say-they-have-ever-invested-in-traded-or-used-cryptocurrency/
https://journals.sagepub.com/doi/abs/10.1177/2329496516686620
การเงิน
cryptocurrency
4 บันทึก
5
3
4
5
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย