26 ธ.ค. 2022 เวลา 06:11 • กีฬา
ทาคุมิ มินามิโนะ การเดิมพันครั้งสำคัญ
เมื่อเสียงนกหวีดเป่าจบเกมกลายเป็นทีมชาติโครเอเชียเข้าสู่รอบ 8 ทีมต่อไป เมื่อทัพซามูไรสีน้ำเงินยื้อและต่อสู้จนมาถึงช่วงต่อเวลายิงลูกโทษและเป็นพวกเขาที่ไม่นิ่งพอ นักเตะสามคนของชุดนี้ยิงจุดโทษไม่เข้า ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับผู้รักประตูโครเอเชีย แต่อีกส่วนหนึ่งหลายคนมองว่าเป็นเพราะพวกเขากดดันตัวเองมากเกินไปจนทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้
แต่ถึงอย่างไรในบอลโลก 2022 นี้ ทีมชาติญี่ปุ่นได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ฟุตบอลของพวกเขากระโดดไปอีกขั้นหนึ่งแล้วและพร้อมที่จะเจอกับทุกทีมบนโลก ด้วยผลงานขนาดนี้การวิ่งสู้ฟัดแบบไม่ยอมแพ้ รู้ตัวอีกทีก็ตกหลุมรักในฟุตบอลของทีมชาติญี่ปุ่นแบบที่ลุ้นจนตัวเกร็งไปตามๆกัน
ทาคุมิ มินามิโนะ เป็นหนึ่งในนั้นที่ยิงจุดโทษไม่เข้า มันช่วงเวลาที่ยากลำบากและกดดันมากๆสายตาทุกคู่ในสนามจ้องมาที่เขา ยังไม่รวมสายตาอีกทั่วทุกมุมโลก ความคาดหวังของคนญี่ปุ่นถูกส่งไปที่เขา ณ เวลานั้น
หลายคนต่างตำหนิเขาว่าการลงมาในช่วงหลังของเกมการแข่งขันแทบจะไม่สามารถช่วยทำให้ทีมมีแต้มต่อได้หรือลงมาสร้างความแตกต่างได้เลย ยังไม่รวมหมายเลขเสื้อข้างหลังที่เขาใส่ หมายเลข 10 หมายเลขแห่งจอมทัพ หมายเลขที่ใครๆก็ต่างรู้ว่านี่จะเป็นกำลังหลัก แต่ทำไมกลับไม่สามารถโชว์ผลงานส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมออกมาได้ แพ้ก็แพ้ด้วยกันชนะก็ชนะด้วยกัน นี่คือฟุตบอลไม่สามารถโทษคนใดคนหนึ่งได้
การพัฒนาและปรับตัวกับฟุตบอลสมัยใหม่ตั้งแต่เด็กของเขา มินามิโนะ ถูกปลุกปั้นมาอย่างทะนุถนอมบวกกับโอกาสแจ้งเกิดในนัดกระชับมิตรที่เจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เซเรซโซ โอซาก้า คือทีมฟุตบอลของญี่ปุ่นที่ต่างมุ่งเน้นการสร้างดาวรุ่งและออกไปเติบโตในเวทียุโรป ถ้าจะนึกให้เห็นภาพก็คงเป็น ชินจิ คากาวะ อดีตนักเตะปีศาจแดงและโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่เคยค้าแข้งกับทีม
สำหรับ มินามิโนะ ขึ้นชุดใหญ่มาตั้งแต่อายุ 17 ปี เขาเติบโตมากับหมายเลข 13 บนหลังเสื้อของเขา เขาคือคนที่ฉีกความเชื่อในอดีตที่ว่า ถ้าใครใส่หมายเลข 8 ให้กับทีมจะมีแนวโน้มไปค้าแข้งที่ยุโรปสูง แต่เป็นเขาที่ถูกส่งออกด้วยขาสองข้างที่เขามีกับความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ
เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก คือทีมที่มีหลายๆอย่างคล้ายกับ เซเรซโซ โอซาก้า การดึงดาวรุ่งเข้าสู่ทีมและไม่ปิดกั้นการซื้อขายระหว่างทีมอื่นกับนักเตะ พวกเขาพร้อมที่จะเปิดรับข้อเสนอที่น่าสนใจอยู่เสมอ การไปยุโรปในครั้งนั้นในช่วงเวลาแรก เขาต้องปรับตัวเกือบทุกอย่างทั้งเรื่องฟุตบอล อาหารการกินรวมถึงภาษา เพราะสิ่งเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของฟุตบอลทั้งนั้น ครั้งหนึ่งตัวเขารู้สึกว่าอาหารของที่นี่ไม่ค่อยถูกปากเขาสักเท่าไหร่
เขาจึงต้องกลับไปหุงข้าวเองที่บ้านเพื่อความอยู่รอดแต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป ทุกเรื่องที่ต้องปรับตัวเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของเขาในทันที เพราะผลงานในสนามได้เป็นคำตอบที่ออกมาว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 6 ปี 129 นัดกับอีก 41 ประตู พูดตามตรงมันเยอะมากสำหรับนักเตะเอเชียและในตำแหน่งกลางรุก เขาเป็นนักเตะที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่งในเกมรุก
การลงมาเชื่อมเกม พาบอลไปยังด้านหน้าเพื่อส่งบอลให้กับ เออริ่ง ฮาแลนด์ ทำประตู บางครั้งเมื่อเขาได้โอกาสเขาก็จะทำมันแบบที่ไม่ต้องลังเล ด้วยผลงานที่ยังคงตราตรึงใจในนัดที่เจอกับลิเวอร์พูล มันจึงทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ สนใจที่จะดึงเขาเข้ามาร่วมทัพหงส์แดง
การมาของเขาตอนนั้นสื่อหลายที่ต่างมองว่า ต้องเป็นดีลที่คุ้มค่าทั้งเรื่องในสนามและด้านการตลาดอย่างแน่นอน เพราะ ทาคุมิ คือคนญี่ปุ่นคนแรกที่มาค้าแข้งยังถิ่นแอนฟิลด์ ในช่วงแรกเขายังไม่ได้รับโอกาสลงสนามเลย เพราะว่า คล็อปป์ นั้นมองว่าต่อให้ซื้อมาแพงขนาดไหนก็ยังต้องปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษให้ได้เป็นอันดับแรก ภาษาคงไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเขาอีกต่อไป แต่ตอนนี้มันคือผลงานในตอนฝึกซ้อมว่าเขา จะเอาของที่มีออกมาให้ผู้จัดการเห็นได้อย่างไร
การลงเล่นบอลถ้วยคือโอกาสที่ดีที่สุดของเขาในเวลานั้น แฟนบอลหลายคนมองว่า ทำไมในทีมดูเหมือนจะไม่ไว้วางใจเขา ทำไมถึงไม่ยอมส่งบอลให้กับทาคุมิเลย บางจังหวะน่าจะสร้างโอกาสที่ดีได้มากกว่าแต่สีหน้าของเขาก็ยังไม่มีท่าทีที่ไม่พอใจออกมา เขายังคงวิ่งและเชื่อว่าความไว้ใจเดียวในสนามที่จะซื้อมาได้ ก็คือการทำประตูและแอสซิสต์ โดยเฉพาะในบอลถ้วยเขาเป็นดาวซัลโวของทีมจนพาได้แชมป์เอฟเอ คัพ
ระยะเวลาประมาณสองปีที่เขาอยู่กับทีม ในแง่ของผลงานอาจมีบ้างที่ไม่ค่อยได้รับโอกาสเท่าไหร่ เพราะนักเตะหงศ์แดงในชุดที่เขาอยู่มันเป็นอะไรที่เบียดแย่งตำแหน่งลงได้ยาก การหาความท้าทายและเวลาในการลงสนามจึงจำเป็นสำหรับเขา ก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีสัญญากับลิเวอร์พูล เขาถูก เซาท์แทมตัน ยืมตัวไปเพื่อเรียกความมั่นใจและความฟิต ตอนนี้สิ่งที่ต้องการกลับเป็นเวลาที่มากขึ้นและโอกาส
การย้ายไปอยู่โมนาโกเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะศักยภาพทีมไม่ได้ด้อยไปกว่าทีมที่เขาเคยอยู่มา แต่เมื่อสื่อที่ฝรั่งเศษเปิดเผยและคิดเอาเองว่าการมาของ ทาคุมิ เป็นดีลยอดแย่ มีคำถามมากมายต่อจากนั้นว่าจริงหรือที่สื่อมองอย่างนั้น เพราะการย้ายแบบข้ามฟากแต่ละทีก็ต้องมีการปรับตัวกันบ้าง
ความอ่อนน้อมถ่อมตน คือสิ่งที่เราเห็นมาตลอดและยิ่งรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้า ต่างทำให้เราหลงรักชายคนนี้และไม่เคยโกรธเขาเลย การค่อยๆปรับตัวในแต่ละที่และทำมันออกมาได้อย่างดีแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป คือสิ่งที่ทาคุมิเป็น
ถึงแม้ทีมชาติญี่ปุ่นในบอลโลกผลงานจะมาได้ถึงแค่รอบ 16 ทีม บางคนอาจผิดหวังจนเสียใจไม่ใช่ในเชิงเสียดาย แต่สิ่งที่เรามองข้ามก็คือ พวกเขาคือชาวเอเชียที่ก้าวกระโดดและมีผู้เล่นไปเล่นในยุโรปเยอะมาก
กลายเป็นที่จดจำไปแล้วว่า ฟุตบอลของพวกเขาสนุกแค่ไหน เพราะเป้าหมายของพวกเขาชัดเจนว่าอยากไปถึงจุดไหน มินามิโนะคือตัวอย่างที่หยิบยกขึ้นมาพูด ว่าความมุ่งมั่นและการมีสมาธินั้นสำคัญแค่ไหและการไม่ยึดติดกับอดีตนำข้อเสียหรือจุดอ่อนมาแก้ไขเพื่อตัวเองและเพื่อทีม ถึงเวลาที่เราต้องมาทบทวนฟุตบอลของพวกเราเองแล้วหรือยังและควรเอาบทเรียนไหนของ ทาคุมิ มินามิโนะ รวมถึงทีมชาติญี่ปุ่นมาพัฒนาต่อ
โฆษณา