28 ธ.ค. 2022 เวลา 03:26 • การศึกษา
ต้องรู้ว่าธรรมะคืออะไรก่อนค่ะ ธรรมะคือสิ่งที่มีจริงๆ เกิดขึ้นจริงๆ แต่เกิดแล้วดับไม่กลับมาอีก ตรงนี้จะสังเกตว่า เรื่องในอดีตตั้งแต่เมื่อนับล้านเสี้ยววินาทีลงไปไม่ใช่ธรรมะ เรื่องในอนาคตแม้จะอีกล้านเสี้ยววินาทีถัดไปก็ยังไม่ใช่ธรรมะ
เริ่มแบบมนุษย์ธรรมดา ก็คือฝึกการอยู่คนเดียว แล้วสังเกตตัวเองไปเรื่อยๆ เช่น กำลังเห็นอะไร ได้ยินอะไร ได้กลิ่นอะไร สัมผัสอะไรอยู่ รู้สึกนึกคิดอะไรอยู่ ลองดูว่าเสี้ยววินาทีถัดมาทุกอย่างเหมือนเดิมหรือไม่ ตรงนี้จะเห็นได้ว่าไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเลยสักนิด มันเกิดแล้วดับทันที...ไวจนไม่มีอะไรจะเปรียบ แต่ด้วยเหตุที่มันเกิดดับสืบต่อเนื่องกันไป ทำให้เรา "หลงคิดว่าเป็นเราทำ" ซึ่งที่จริงไม่ใช่เรา ไม่มีเรา มีเพียงปัจจัยที่ทำให้เกิดสืบต่อเนื่องกันไป มันจึงลึกซึ้งละเอียด ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้จริงๆค่ะ
ปัจจัยที่กิดจากกรรมต่างๆ ซึ่งเราไม่สามารถทราบได้ ว่าทำไว้อย่างไร ที่ไหน เมื่อไหร่ (ซึ่งพระพุทธองค์ทรงกล่าวว่าเป็นเรื่องอจินไตย รู้ได้ยาก ไม่มีทางรู้ได้ จึงไม่ควรฟุ้งซ่านไปหาทางจะรู้ให้ได้) ตัวอย่างหยาบๆ ณ ขณะนี้ คือมีเหตุมีปัจจัย ให้คุณมาตั้งคำถาม และให้เรามาตอบคำถามคุณ
จึงไม่มีเรา เราไม่ได้ทำ มีปัจจัยอะไรบางอย่าง
มาทำให้เป็นเรา ให้เราได้เห็นแบบนี้
ได้ยินแบบนี้ ได้พ่อแม่แบบนี้ ได้เพื่อนแบบนี้
ที่ไม่อยากเห็น หากมีผลของวิบากกรรมมาเป็นปัจจัย
ให้ต้องได้เห็น คุณก็ต้องได้เห็น
ที่ไม่อยากรู้ ก็ต้องได้รู้ ที่อยากเห็นมากๆ
ก็อาจไม่เคยได้เห็น
จนตายไปแล้วก็ไม่เคยได้เห็น
โฆษณา