Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Thai VI
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
30 ธ.ค. 2022 เวลา 14:12 • หุ้น & เศรษฐกิจ
#ร้อยคนร้อยหุ้น หุ้น TOG : สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
ขออนุญาติแชร์สรุป TOG Oppday Q3/2565 นะคร้าบ
ไตรมาสนี้ทำยอดขายได้ all time high
ยอดขายที่เพิ่มมานั้นเติบโตทุกภูมิภาค
สัดส่วนยอดขายแบ่งตามภูมิภาค : America 18.5%, Europe 28.5%, Asia pacific and Middle east and africa 19.2%, Australia and New zealand 33.8%
สัดส่วนยอดขายแบ่งตามสินค้า : เลนส์ Rx 34.6%, เลนส์ Standard 30.2%, Value-added 26.4%
ปัจจัยที่ทำให้ยอดขายเลนส์ Rx เติบโตคือ ลูกค้าในกลุ่ม ANZ มีความต้องการเพิ่มขึ้น และได้ลูกค้าจาก US และ Canada เพิ่มมา ส่วนเลนส์ Standard ที่เติบโตเพราะโควิดผ่อนคลายลง ส่วนเลนส์ Value-added มียอดขายลดลงเพราะลูกค้าในกลุ่มภูมิภาค EU มีกำลังซื้อที่ลดลง
ปัจจัยการเติบโต
ขยายฐานลูกค้าไปทุกภูมิภาค
ให้บริการรวดเร็ว และจำหน่ายให้บริการให้ตรงกลุ่มเป้าหมายโดยผ่านศูนย์กระจายสินค้าใน US และ EU
ได้มีการปรับระบบการทำงานให้เป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น และขยายกำลังการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ลงทุนขยายกำลังการผลิตเลนส์ Rx
พัฒนาผลิตภัณฑ์และระบบการทำงานอยู่ตลอดเวลา
Q&A
แนวโน้ม Q4 คาดว่าน่าจะสูงกว่า Q3/2565 อยู่ประมาณนึง เนื่องจากเป็น Peek period ของออสเตรเลีย และคาดว่าทั้งปี 2565 โต 20% และรักษา NPM ได้พอๆกับปีที่ผ่านมา
ในเรื่องกำลังการผลิต ในส่วนของการหล่อเลนส์ประมาณ 3 ล้านชิ้น/เดือน ซึ่งใกล้พีคเกือบสูงที่สุด ในส่วนเลนส์ Rx เดินกำลังผลิตเต็ม 100% อยู่ที่ 5000 job/วัน หรือ 10,000 เลนส์/วัน
ปี 2566 จะไม่มีการ M&A เกิดขึ้น จะไปโฟกัสเรื่องขยายกำลังการผลิต
ปี 2566 ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 12% โดยจะไปโฟกัสภูมิภาคกลุ่มอเมริกาเหนือ middle east africa ส่วนในยุโรปยอดขายน่าจะทรงตัว เพราะสงครามยังมีอยู่ และคาดว่ายอดขายออสเตเรียและนิวซีแลนด์น่าจะเติบโต ซึ่งสมมุติฐานการเติบโตทั้งหมดตั้งอยู่บนที่ 35 บาท/ดอลล่า
แนวโน้มยุโรปน่าจะมีการชะลอตัว และการซื้อ product mix ที่มีราคาสูงจะเปลี่ยนไปเป็น product ที่มีราคาต่ำ ส่วน US ลูกค้าเก่า จะเป็น organic growth และจะมีการเติบโตเพิ่มเติมจากการหาลูกค้าใหม่
แผนการลงทุนในปี 2566 เป็นแผนใหญ่มาก งบราวๆ 800 ลบ. แบ่งเป็น 500 ลบ.ลงทุนในเครื่องจักร ตึก facility และ solar roof ของสายการผลิตเลนส์ ส่วน 200 ลบ. จะไปขยายกำลังการผลิตในกลุ่มเลนส์ casting และ solar roof และอีก 60 ลบ. จะลงทุนในระบบ IT และ platform infrastructure ซึ่งผลจากการลงทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี 2567
กำลังเจาะตลาดในภูมิภาคอเมริกาใต้อยู่โดยใช้ฐานการจัดจำหน่ายสินค้าใน US อยู่ในระหว่างการขอใบอนุญาติต่างๆ คาดว่าจะเริ่มงานในปี 2566
ในส่วนของสายการผลิต Rx อัตราการเพิ่มของแรงงานจะไม่มากเมื่อเทียบกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่ปัญหาจะอยู่ที่สายการผลิต casting ซึ่งกำลังทำระบบ Automation อยู่ เป้าหมายในด้านแรงงานคือจะพยายามไม่ให้ค่าแรงที่เพิ่มขึ้นมากระทบกับต้นทุนค่าแรงของบริษัท คือการลดคนตามค่าแรงที่เพิ่มขึ้น
โดยเฉลี่ยแล้วบริษัทจะเจอการขึ้นของวัตถุดิบประมาณ 12% ตอนนี้ต้นทุนวัตถุดิบสั่งสต็อคให้พอใช้ 4-5 เดือน หลังจากนั้นก็จะใช้วัตถุที่มีราคาสูงขึ้นตามต้นทุนใหม่
ในยุโรปเลนส์สายตาเฉพาะบุคคลมีคำสั่งซื้อน้อยลง แต่ใน ANZ มีการสั่งซื้อที่สูงขึ้นกว่าที่คาดไว้
ตอนนี้พื้นที่ที่จะสร้างโรงงานใหม่ได้มีการเคลียร์แล้ว เริ่มก่อสร้างมกราคมตามแผนที่เคยวางไว้ ส่วนเครื่องจักรที่สั่งไป ได้รับการคอนเฟิร์มแล้วว่า 85% จะส่งมอบตามแผน ส่วนที่รายได้รับผลกระทบจากชิบที่ขาดแคลนทำให้กำหนดส่งคลาดเคลื่อนบ้าง ซึ่งจากการคาดการแล้วจะน่าดำเนินการผลิตได้ในเดือนสิงหาคม และอาจจะไม่เต็มกำลังการผลิตดีนัก
วัตถุดิบที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นก็มีการปรับขึ้นทุกบริษัทในอุตสาหกรรมหมด เลยไม่ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทด้อยลงแต่อย่างใด ส่วนสิ่งที่เป็นความเสี่ยงคือเรื่องค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเรามีแผนจัดการอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้
ลูกค้าที่ย้ายมาจากจีนนั้น เมื่อจีนเปิดเมือง คิดว่าลูกค้าคงไม่ย้ายกลับไป เพราะลูกค้าต้องมีการบริหารกระจายความเสี่ยง
กำลังการผลิต Rx ที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้ขาย capacity หมดไปแล้ว 70% อีกที่เหลือกำลังขายอยู่ ซึ่งถ้าขายถึง 85% เราอาจจะพิจารณาขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม
ในปี 2567 ที่จะเติบโตก้าวกระโดด คาดว่ารายได้จะเพิ่มในส่วนของเลนส์สายตาเฉพาะบุคคลอีก 50% ซึ่งเลนส์ Rx มีมาจิ้นสูงกว่าตัว casting แต่หากลูกค้าซื้อปริมาณเยอะขึ้น ก็อาจจะต้องมีส่วนลดให้ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างเจรจาอยู่
ในเรื่องของค่าเงิน เนื่องจากเรามีรายได้เป็น USD และมีรายจ่ายวตถุดิบหลักเป็น USD เช่นกัน ทำให้มี Natural Hedge อยู่จำนวนหนึ่ง แต่ปีนี้ที่เกิด outstanding ขึ้นมาเนื่องจาก inventory ของเราอยู่บนต้นทุนเก่า เมื่อนำมาขายเลยทำให้เกิดเป็นบาทที่สูงขึ้น
ลูกค้าที่มาจากจีน เป็นลูกค้าหลักของเราอยู่แล้ว โดยปกติลูกค้าต้องสั่งซื้อจาก Vender 2-3 รายอยู่แล้ว แต่พอจีนมีปัญหา ลูกค้าก็มาสั่งที่เรามากขึ้น
กำลังการผลิตใหม่คาดว่าจะเดินเต็มกำลังการผลิตที่เดือนสิงหาคม แต่มีเครื่องจักรบางเครื่องส่งล่าช้า อาจจะเดินเต็มกำลังได้ในเดือนกันยายน ซึ่งกำลังเจรจากับ supplier อยู่
มองเห็นโอกาสอะไรถึงเพิ่มกำลังการผลิต : 1. ลูกค้าต่างๆต้องการกระจายความเสี่ยงจากการสั่งซื้อสินค้าในจีน 2. คู่ค้าของบริษัทมีการขยายตัวไปยังภูมิภาคใหม่ๆ
สาเหตุที่คำสั่งซื้อจากออสเตเรียเพิ่มขึ้นเพราะปัญหาล็อคดาวที่จีนทำให้ลูกค้าสั่งของจาก TOG มากขึ้น
มีการปรับเพิ่มราคาสินค้าจากรายการสินค้าที่มีการเพิ่มของวัตถุดิบที่สูงขึ้น ซึ่งมีการปรับบางรายการ ไม่ได้ครบทุกรายการ
หากผิดพลาดตรงไหน รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะครับ
สามารถเข้าไปอ่านกระทู้ "ร้อยคนร้อยหุ้น" อย่างละเอียดต่อได้ที่
https://board.thaivi.org/viewtopic.php?p=1961229#p1961229
เป็นกระทู้พิเศษสำหรับสมาชิกเท่านั้น สามารถสมัครทดลองใช้ฟรี 30 วันก่อนอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้ครับ
https://board.thaivi.org
3 บันทึก
7
1
3
7
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย