31 ธ.ค. 2022 เวลา 11:30 • ประวัติศาสตร์

ตำนานปั๊ปปี้เลิฟ Puppy Love 🥰

ของเด็กน้อยโนเนมแห่งชั้นประถมปลาย ที่วันๆเอาแต่ล้อเพื่อนผู้หญิงแล้ววิ่งหนี ก่อนโดนวิ่งไล่หยิกไล่ตีด้วยกรงเล็บกับฝ่ามืออำมหิตของพวกหล่อน แต่ริอ่านไปแอบชอบสาวสวยข้างห้องจอมแก่นประจำรุ่น ตั้งแต่ ป.5-7 สักคำยังไม่เคยคุย แต่รู้ชื่อ/นามสกุลพ่อเขาเฉย (ฮา) ประหนึ่ง
สุนัข🐕มองเครื่องบิน✈️
หรือ
เก้า โถย ปวย กี
狗看飛機 Gǒu kàn fēijī
Linxikun
เธอคนนั้น..เป็นลูกสาวตำรวจยศนายร้อยโรงพักในพื้นที่ สาวไทยแท้ตาคม ซึ่งมีเพียงไม่กี่คนในโรงเรียนของเรา เนื่องจาก ส.พ.ช. ตั้งอยู่ในย่านที่เรียกได้ว่าเป็นไชน่าทาวน์เช่นกัน คือ ย่าน โหง่ว กั๊ก เท้า 五角头 Wǔjiǎo tóu หรือห้าแยกพลับพลาไชย เด็กนักเรียนที่นี่ ร้อยละเกิน 90 ก็ว่าได้จึงเป็น
ลูกจีนที่เกิดในไทย
หรือ
ตึ่ง หนั่ง เกี้ย 唐人仔 Tángrén zaǐ
เสียเป็นส่วนใหญ่ จึงมีทั้งตี๋หมวยชื่อจีนและใช้แซ่เป็นเรื่องปกติ
ในเวลานั้น..เราชอบใคร ถ้าเพื่อนรู้ เวลาเรียกเรา เพื่อนจะแกล้งเรียกเป็นชื่อสาวที่เราแอบชอบ แหม..ปากก็ต่อว่าเพื่อนที่เรียกเราเป็นชื่อคนอื่น แต่ดันหันควับเฉย พร้อมกับใบหน้าที่แดงกร่ำยังกับลูกตำลึง ฮ่าๆๆ
หลังเลิกเรียนของทุกวัน ต้องมาเจอกับเพื่อนแถวบ้านที่เรียนพลับพลาชัยด้วยกัน เพราะบังเอิญเรียนห้องเดียวกับสาวที่แอบหลงรัก ที่
ศูนย์สาธารณสุขปทุมวัน
ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้าน
ที่บันไดทางขึ้นศูนย์ฯเราจะนั่ง ต้า อ่วย 呾话 Dá huà พูดคุยกัน ผู้เขียนจะไต่ถามว่าวันนี้เธอทำอะไรบ้าง เพื่อนก็จะเล่าเรื่องราวความเคลื่อนไหวต่างๆ วันนี้เธอทำอะไร เจอใคร มีใครมาจีบ นู่นนี่นั่น แบบนี้ทุกวัน ผู้เขียนจะนั่งฟังไปอมยิ้มไป เพราะเพียงเท่านี้ก็มีความสุขเหลือหลายสำหรับเด็กชายขี้อายในวันนั้น เป็น
ปั้ปปี้เลิฟ
ในวัยซนอันสดใส
ผู้เขียน
จำได้ไม่ลืมอยู่ครั้งหนึ่ง ตอน ป.7 ผู้เขียนอยู่ห้อง 14 ห้องริมสุดชั้น 3 หน้าบันไดทางขึ้นลง
สถานที่จากในเนื้อเรื่อง หน้าห้อง 7/14 บริเวณทางขึ้นลง ชั้น 3
เธอคนนั้นเรียนห้อง 13 ถัดเราไป ผู้เขียนเล่นล้อต๊อกอยู่หน้าห้องกับเพื่อน โดยเอายางลบหมึกทอยแทนเหรียญ(ยางลบหมึกก้อนหกเหลี่ยมสีฟ้า) ถึงตอนเราทอยมันดันกลิ้งหล่นไปตรงบันได ร่วงลงไปถึงชั้นล่าง พอดีกับเธอคนนั้นกลับจากเรียนการเรือนที่ตึกเล็ก แล้ว
ช่างชะตาฟ้าลิขิต
นักเรียนหญิงเดินแถวกลับมาทั้งห้อง แต่ดันเป็นเธอที่ก้มหยิบยางลบก้อนนั้น และเป็นจังหวะที่ผู้เขียนมองลงไปจากชั้น 3 เลยเห็นพอดี
ตึ้ก..ตึ้ก..ตึ้ก..
เสียงหัวใจเต้นรัวราวเสียงกลอง🥁
พอเธอเดินขึ้นมาถึงชั้น 3 หัวใจของหนุ่มน้อยขี้อายก็ยิ่งเต้นแรง💓 เลือดสูบฉีดขึ้นมาบนใบหน้าจนเป็นสีแดงอมชมพู ก่อนรวบรวมความกล้าเดินไปขวางหน้า หยุดยืนตัวแข็งทื่อ แล้วยื่นมือแบออกไปขอยางลบคืน ก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไรเลยสักคำ เธอคนนั้นทำหน้างงๆ เพราะตอนนั้นเธอคงยังไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของยางลบ เลยยื่นคืนแบบยัดใส่มือ
พร้อมกับส่ายหน้า
และ
ถอนหายใจด้วยความระอา
กับความซื่อบื้อของผู้เขียน ฮ่าๆ สุดท้ายก็ไม่เคยได้คุยกันสักคำ
สมกับตำนาน สุนัขมองเครื่องบิน ของแท้ ได้แต่เห็นเธอถูกพวกขาใหญ่ประจำโรงเรียนแกล้งวิ่งไล่จับเป็นประจำ จนต้องวิ่งหนีไปทั่วโรงเรียน ด้วยความเจ็บแปลบแอบช้ำอยู่ลึกๆภายในใจ ที่ไม่สามารถปกป้องสาวที่เราหมายปองได้😥
40 กว่าปี ที่ไม่ทราบข่าวคราวกันเลย โชคดีเมื่อตอนงานเลี้ยงรุ่นครั้งแรกเมื่อปี 2559 ได้รับการอนุเคราะห์ภาพถ่ายที่ใช้แลกกันตอนจบประถม 7 เมื่อปี 2519 จากเพื่อนสาวร่วมห้องของเธอ จึงนำมาเขียนขึ้นเป็นภาพลายเส้นการ์ตูน เค้าโครงมาจากภาพจริง เพื่อบอกความในใจว่า
ความรู้สึกเก่าๆ
ยังไม่จางหาย
แต่ได้กลับกลายแปลงเป็นความห่วงใยฉันท์เพื่อน..
ในปัจจุบัน ได้แต่หวังว่าเธอคนนั้น คงมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ใช้ชีวิตเกษียณอย่างมีความสุข แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ท่ามกลางลูกหลานในบ้านที่อบอุ่น เพื่อนคนนี้..แม้จะไม่เคยคุยกันเลยสักคำ แต่ยังคงจดจำทุกภาพความร่าเริง สดใส..ในวันนั้น
ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
สักวันหนึ่ง..เราคงได้พบกัน
ขออภัย🙏ครอบครัวและตัวเธอคนนั้นหากพาดพิงถึง ผู้เขียนมิได้มีเจตนาอื่นใด นอกจากบอกเล่าความทรงจำในวัยเด็กวัยเรียน เรียบเรียงเป็นตัวหนังสือ ถ่ายทอดความทรงจำที่ยังคงชัดเจนกับ
ภาพจำที่..ไม่มีวัน..ลบเลือน!!
ภายนอกอาจเปลี่ยนไปแต่หัวใจ💖ยังดวงเดิม
เรากลับไปแก้ไขอดีต..ไม่ได้
แต่
เราทำวันนี้ให้ดีที่สุด..ได้
Linxikun
เขียนเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2565
#เพื่อนกันตลอดไป
#อาลั้นเด็กหลังตลาด
#เตี่ยงหม่อโผ่วตาโปวเกี้ย
โฆษณา