1 ม.ค. 2023 เวลา 02:02 • การเมือง
ตะวันตกหนุนหลังยูเครน
หวังกำจัด “รัสเซีย” ศัตรูหมายเลข 1
2
นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยกับ Money Chat ว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครน ถือว่าผ่านมากว่า 300 วัน นับตั้งแต่เดือน ก.พ.2565 ที่รัสเซียเข้ามาเต็มสูบ
2
ซึ่งในช่วงแรกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organisation - NATO) ไม่กล้าทำอะไรเลย เพราะยังเห็นความแข็งแกร่งของสหภาพโซเวียตในอดีต และเห็นความแข็งแกร่งของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งเป็นคนที่กอบกู้สหภาพโซเวียตที่ล่มสลายไปแล้วกลายมาเป็นรัสเซียที่เข้มแข็ง
1
โดยปูตินทำให้รัสเซียเป็นรัสเซียในวันนี้ และทำให้โลกทั้งโลกกลัว กังวล รัสเซียกึ่งๆ สหภาพโซเวียต ถึงแม้ว่าสหภาพโซเวียตจะล่มสลายไปแล้วก็ตาม เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครนในช่วงแรก คือ กลัว และปูตินก็ออกมาประกาศว่าพร้อมที่จะใช้นิวเคลียร์ถ้ามีความจำเป็น ยิ่งทำให้คนยุโรปกลัวมากขึ้น เพราะว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เกิดขึ้นที่ยุโรป และตอนนี้กำลังจะมีสงครามโลกครั้งที่ 3 (สงครามนิวเคียร์) หรือไม่ ส่งผลให้ทุกคนไม่กล้าทำอะไรเลย เพราะกลัวสถานการณ์จะบานปลาย
2
อย่างไรก็ตาม มองว่ารัสเซียเริ่มทำไม่ได้ตามที่พูดไว้ ทำให้รู้สึกว่าตะวันตกเริ่มมีความรู้สึกแทงกั๊ก หลังจากประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เป็นผู้นำคนเดียวในโลกที่ไปพูดในรัฐสภาทั่วโลกภายในระยะเวลาไม่ถึงปี ล่าสุด ได้ไปกล่าวปราศรัยต่อรัฐสภาสหรัฐ โดยทุกคนปรบมือชื่นชม นอกจากนี้ สหรัฐ อังกฤษ และ NATO ได้ให้การสนับสนุนเงิน และอาวุธ ทำให้เซเลนสกีมีกำลังใจ
3
ดังนั้นขณะนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของสหรัฐที่เซเลนสกี สู้เพื่อยูเครน ยูเครนจะต้องชนะ ทหารรัสเซียทุกคนจะต้องถอนกำลังออกไป แผ่นดินทุกตารางนิ้วจะต้องกลับคืนสู่ยูเครน ทำให้ถูกใจประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน เพราะสหรัฐยอมให้รัสเซียขึ้นมาทาบรัศมีไม่ได้ หลังจากเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ปูติน เป็นคนสร้างความเป็นบึกแผ่นให้กับรัสเซีย
4
“ทุกคนคิดว่าโลกมันแย่มาก และกลัวที่จะเกิดสงรามโลกค่อนช้างจะมาก เพราะการตัดสินใจของรัฐเซียมีคนเดียว คือ ปูติน ไม่เหมือนสหรัฐที่จะต้องผ่านรัฐสภา และผ่านอีกหลายๆ คน ตรงนี้จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนที่เซเลนสกีไปสหรัฐในฐานบอนไซรัสเซียที่รุกเข้าไป เพราะฉะนั้นตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนจากเดิมที่สหภาพโซเวียตน่าเกรงขาม ปูตินออกมาพูดเรื่องอาวุธ และขู่ใช้นิวเคลียร์น่ากลัว
4
ตอนนี้ผ่านมากว่า 300 วัน แล้วทำไมยึดยูเครนไม่ได้สักที และพยายามใช้วิธีการโรงไฟฟ้า น้ำประปา ไปทำลาย เพื่อให้ยูเครนแข็งตาย ดังนั้นมองว่าความได้เปรียบของยูเครน ความแทงกั๊กของตะวันตกให้ยูเครนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ความเข้มแข็งของเซเลนสกีเพิ่มขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มสูบ”
6
ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของตะวันตกที่จะทำลายรัสเซีย โดยยูเครนจะทำอย่างไรให้รัสเซียแพ้ ซึ่ง เซเลนสกี ไม่ยอมเจรจากับปูติน จะเจรจาก็ต่อเมื่อปูตินต้องถอนทหารทุกคนออกจากยูเครน และคืนแผ่นดินที่ปูดตินยึดไป พอเซเลนสกีประกาศเป้าหมายแบบนั้น ตะวันตกก็ถือโอกาสอาศัยยูเครนจัดการกับรัสเซีย ที่เป็นศัตรูหมายเลข 1 ทางด้านทหาร รองมาเป็น เกาหลีเหนือ และจีน
4
ทั้งนี้ มีโอกาสสูงที่ปูตินพ่ายแพ้ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์โลกเปลี่ยน จะเกิดสงครามในแง่พลังงาน ซึ่งขณะนี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว ส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และปูตินอาจจะถูกประจารว่าเป็นอาชญากรสงคราม
7
“คิดว่าเซเลนสกีต้องการชนะปูตินให้ได้ โดยเชื่อว่าไบเดนต้องคุยกันแบบใต้โต๊ะกับเซเลนสกีว่าจะสนับสนุนเต็มที่ ขอให้ทำเรื่องเดียว คือ จัดการเก็บปูติน ทำให้เซเลนสกีได้นกหลายตัว 1.จะเป็นฮีโร่ของโลก ถ้าเซเลนสกีสามารถทำให้ปูตินแพ้ 2.สหรัฐ แทบจะอุ้มเซเลนสกี เพราะถ้าใช้ยูเครนไปจัดการทำให้รัสเซียพ่ายแพ้ ถือเป็นการเจาะยางรัสเซียอย่างเต็มที่ ทำให้หมดเซี้ยนหนามในแผ่นดิน
2
โดยที่รัฐบาลสหรัฐไม่ต้องมีความเสี่ยงเหมือนสงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามเวียดนาม สงครามเกาหลี และบริษัทขายอาวุธของสหรัฐ ตอนนี้หุ้นขึ้น เพราะงบประมาณของทั้งโลกเกี่ยวกับกลาโหม มีมูลค่าประมาณ 1.5-1.6 ล้านล้านเหรียญ/ปี โดยเฉพาะสหรัฐประเทศเดียว มีมูลค่าถึง 775,000 ล้านเหรียญ และกำลังจะเพิ่มงบ”
3
ปัจจุบันรัสเซียไม่มีใครที่จะสามารถมาค้ำจุนเท่ากับ จีน เพราะจีนทุกอย่างที่รัสเซียต้องการ ทั้งมีเงินซื้อแก๊ส น้ำมัน วัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม จีนกำลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และเศรษฐกิจภายใน ทำให้จีดีพีปีนี้ น่าจะเติบโต 2.7% จากในอดีตที่เคยเติบโต 6-9% และหากถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเหมือนรัสเซีย ดังนั้นจีนต้องระวังตัว เพราะการพูดการแสดงออกของจีนอาจส่งผลกระทบในเรื่องของการคว่ำบาตร
6
นอกจากนี้ สหรัฐออกเป็นกฎหมายความปลอดภัยให้ไต้หวัน เป็นเรื่องของสหรัฐกำลังจะจัดการจีน และขณะนี้จีนยังไม่พร้อมที่จะก้าวไปสู่ตรงนั้น เพราะในสถานการณ์แบบนี้จีนยังต้องใช้เศรษฐกิจ โดยอาศัยตลาดจากตะวันตกซื้อของจากจีน ทำให้จีนคิดหนัก ดังนั้นคาดว่าอย่างน้อยอีก 5 ปี ที่จีนจะเข้มแข็งได้ในโลกนี้ได้
4
ทั้งนี้ จีนมีงบประมาณกลาโหมประมาณกว่า 200,000 ล้านเหรียญ ขณะที่สหรัฐมีอยู่ที่ 775,000 ล้านเหรียญ ฉะนั้นในแง่ของความเข้มแข็งด้านกลาโหมจีนเทียบไม่ติดสหรัฐ สหรัฐมีเรือบรรทุกเครื่องบินใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดประมาณ 110,000 ตัน แต่จีนยังใช้ 50,000 ตัน และยังใช้เครื่องยนต์ต่างจากสหรัฐที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ ดังนั้นสถานการณ์ สถานภาพของจีนที่จะมาสู้กับสหรัฐในแง่ของสงคราม คาดว่าต้องใช้เวลาอีก 10-15 ปีขึ้นไป ทำให้ตอนนี้จีนยังไม่สามารถต่อกรกับตะวันตกได้เลย
5
“ดูจากสถานการณ์แล้ว ตอนนี้ตะวันตกกำลังขย่มปูตินแบบสุดๆ ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 คิดว่าเป็นการร่วมมือที่จะรุมกินโต๊ะรัสเซียมากที่สุด คือตอนนี้เป็นการซ่องสุมอาวุธที่จะส่งให้เซเลนสกี และเซเลนสกี ส่งทหารออกมาฝึกในยุโรป สหรัฐ เพื่อกลับไปใช้อาวุธที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้น ตรงนี้สถานการณ์จะเปลี่ยน ซึ่งต้องดูว่าปูตินจะหน้ามืดจนนำอาวุธหนักออกมาเล่น จะทำให้สถานกาณณ์โลกน่าเป็นห่วง ส่งผลตลาดหุ้นทรุดทันที”
2
นอกจากนี้ จากสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ทำให้มีการย้ายฐานการผลิตไปยังเวียดนาม เนื่องจากการเมืองของเวียดนามมีเสถียรภาพ ค่าแรงเวียดนามน้อยกว่าไทย 50% และคนเวียดนามขยัน ปีที่แล้วจีนไปลงทุนผ่านฮ่องกง สิงคโปร์ มีสัดส่วนประมาณ 52% ของ FDI แต่ในปีนี้ไทยก็มีโรงงานจากจีนเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อน อุตสาหกรรมรถ เครื่องจักร พีซีบอร์ด โซลาเซลล์ ซึ่งในอมตะ มีโรงงานจีนอยู่เกือบ 200 โรงงาน มีประชากรกว่า 6,000 คน ใหญ่ที่สุดในโลก การลงทุนโดยรวมของคนจีนในอมตะคิดเป็น 50% ของเม็ดเงินที่จีนเข้ามาลงทุนในไทย
4
โฆษณา