1 ม.ค. 2023 เวลา 11:29 • สุขภาพ

ส.ค.ส. ส่งความสุข ปี 2566

สวัสดีปีใหม่ 2566
+ คำอวยพรที่เรามักได้ยินเสมอๆ ไม่ว่าในโอกาสวันปีใหม่ วันเกิด หรือวันครบรอบแต่งงาน คือ ขอให้มีความสุข
+ ‘ความสุข’ เป็นสิ่งสากลที่มนุษย์ทุกคนปรารถนา ไม่ว่าจะยากดีมีจน ไม่ว่าจะมีหน้าที่การงานใด ไม่ว่าจะเชื้อชาติเผ่าพันธ์ุใด ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่
+ ความสุขเป็นสิ่งสากลที่มนุษย์ทุกคนปรารถนา ความสุขเป็นสิ่งที่เรามีเองสร้างเองได้ โดยไม่ต้องรอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลหรือรอขอคำอวยพรจากผู้อื่น
+ ความสุขที่ยั่งยืน เกิดจากสิ่งที่อยู่ภายในตัวเรามากกว่าปัจจัยภายนอก โดยมีฐานจากร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์
+ และเกิดจากความเห็นที่ถูกต้อง, เกิดจากคิดที่ดีงาม, เกิดจากจิตใจที่มองเห็นความสุข, และลงมือปฎิบัติเพื่อให้ได้ความสุขนั้นด้วยตัวเอง
 
+ คนที่มีความสุขเสมอๆ จึงมักจะลงมือทำอะไรด้วยตัวเอง มากกว่าจะพึ่งพาปัจจัยจากผู้อื่น ดังนั้นหากอยากมีความสุขอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องหาจากปัจจัยภายนอก ไม่ต้องเรียกร้องจากผู้อื่น ก็ต้องหันมาปรับเปลี่ยนตัวเองและลงมือทำทั้งทางกาย ทางวาจา ทางความคิด และทางจิตใจ
และเรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องที่คนมีความสุขทำอย่างสม่ำเสมอ
.
1) ให้อภัย และลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจ :
+ คนมีความสุขรู้ว่า การให้อภัยและลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการมีความสุข
+ เพราะหากยังเก็บความรู้สึกแย่ๆ ไว้ นั่นหมายถึง ตัวเรายังรู้สึกไม่พอใจ โกรธ เสียใจ ฯลฯ ซึ่งเป็นอารมณ์ทางลบที่ขัดขวางหนทางแห่งความสุข
+ หากขุ่นข้องหมองใจอย่าปล่อยให้เกิดข้ามวันข้ามคืน
2) มีความรักความเมตตา :
+ คนมีความสุข มักเป็นคนที่มีความรักความเมตตา เรียนรู้ที่จะรักตัวเองด้วยการทำสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นกับตัวเองเสมอ
+ การรักตัวเองไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว เมื่อรักตัวเองได้มากเกินพอจะเผื่อแผ่ความรักความเมตตาไปยังคนรอบข้าง
+ ซึ่งไม่เพียงทำให้ผู้อื่นมีความสุข แต่ยังทำให้ตัวเองมีความสุขไปด้วย เพราะเมื่อมีความรักความเมตตาต่อผู้อื่น สมองจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา
3) เข้าใจตัวเอง และเข้าใจผู้อื่น :
+ คนมีความสุข เข้าใจดีว่า ตัวเราเองมีข้อบกพร่องได้ ผิดพลาดได้ และเมื่อเข้าใจตัวเองได้ดีย่อมเข้าใจคนอื่นได้ดีเช่นกันด้วย
+ คนเราล้วนมีทั้งสิ่งดีและไม่ดีในตัวเอง เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน ดังนั้นเมื่อพยายามเข้าอกเข้าใจผู้อื่นให้ได้มากขึ้น ซึ่งนั่นก็หมายถึงความสุขที่เพิ่มขึ้นด้วย
4) มองว่าปัญหาเป็นสิ่งท้าทาย :
+ คนมีความสุข รู้จักปรับเปลี่ยนทัศนคติว่า ปัญหาเป็นเรื่องท้าทายสติปัญญา เมื่อใดก็ตามที่เจอปัญหา ให้รู้สึกสนุกที่ได้หาวิธีแก้ปัญหานั้นๆ
+ หรือเป็นโอกาสใหม่ๆ ที่อาจทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
+ คนที่เห็นปัญหาแล้วท้อถอยมักมีความสุขน้อยลง
5) พอใจในสิ่งที่มี :
+ คนมีความสุข จะพึงพอใจกับสิ่งที่มีในชีวิต ทำให้มีอารมณ์ดี สามารถจัดการความเครียด และไปถึงเป้าหมาย ได้ดีกว่าคนที่ไม่พอใจในสิ่งที่มี ซึ่งทำให้ดิ้นรนทุกวิถีทางจนทำให้เกิดความทุกข์
+ แต่ความพึงพอใจในสิ่งที่มี ไม่ได้ถึงการไม่ขวนขวายหาสิ่งอื่นเพิ่มเติม
+ คนมีความสุขจะถือคติว่า ‘หาเพิ่มก็ดี มีแค่นี้ก็พอ’
6) พูดถึงผู้อื่น และรู้จักชื่นชมคนอื่นในแง่ดี :
+ คนมีความสุขไม่ชอบนินทาผู้อื่น เพราะเห็นว่าการนินทาว่าร้ายเป็นเรื่องทางลบ ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึง และคนที่ชอบนินทาผู้อื่นมักไม่มีใครคบ
+ ดังนั้นจึงควรพูดและรู้จักชื่นชมคนอื่นในแง่ดีเสมอ คนมีความสุขมองข้ามแง่ไม่ดีของผู้อื่น
7) อยู่ท่ามกลางคนคิดบวก :
+ คนมีความสุข จะพาตัวเองเข้าไปคลุกคลีกับกลุ่มคนที่มองโลกในแง่ดีและมีความสุข เพราะการอยู่ท่ามกลางคนเหล่านี้ จะได้รับพลังด้านดีจากพวกเขามาโดยไม่รู้ตัว
+ ในทางตรงข้ามการอยู่กับคนคิดลบคนที่เรารู้สึกว่า toxic เราจะถูกบั่นทอนพลังงานจากคนคิดลบด้วย
8] ไม่เสียเวลากับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ รู้จักปล่อยวาง :
+ คนที่มีความสุข ไม่มัวหมกมุ่นเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แม้ว่าเรื่องนั้นจะผ่านมาเป็นปี เป็นเดือน หรือแม้แต่แค่วันเดียว
+ เพราะถ้าเราไม่รู้จักปล่อยวางเรื่องกวนใจทั้งหลายไว้ข้างหลัง เราจะเสียเวลาเสียพลังไปกับเรื่องเหล่านั้น
+ การปล่อยวางมันได้ จะทำให้หลุดพ้นจากอารมณ์ด้านลบ และเปิดทางให้ความสุขเข้ามาแทนที่
9) ไม่โทษใคร ไม่ตำหนิใคร ทุกคนผิดพลาดกันได้ :
+ คนมีความสุข เต็มใจยอมรับเมื่อตัวเองทำผิดพลาด และถือเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้ เพื่อทำให้ดียิ่งขึ้นในครั้งหน้า ดีกว่าการเพ่งกล่าวโทษผู้อื่นหรือปัจจัยอื่นว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้ล้มเหลว
+ เนื่องจากการทำเช่นนั้น เท่ากับว่ายังจมปลักกับมันอยู่ ไม่ใช่หนทางของการแก้ปัญหา
10) ไม่เปรียบเทียบกับชีวิตคนอื่น :
+ คนมีความสุข รู้ว่าชีวิตของใครก็ของมัน แต่ละคนล้วนมีวิถีทางของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่นำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
+ หากจะคิดเปรียบเทียบก็เพื่อเป็นแรงบันดาลใจหรือเพื่อกระตุ้นตัวเอง แม้จะมองว่าตัวเองดีกว่าก็ตาม
+ เพราะการกระทำเช่นนั้นไม่ได้ทำให้มีความสุข แต่กลับเป็นการบ่มเพาะนิสัยไม่ดีที่ชอบตัดสินผู้อื่น และคิดว่าตนเองเหนือกว่า
11) จดจ่ออยู่กับปัจจุบัน :
+ คนมีความสุข มีใจจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ขณะนั้น โดยหยุดคิดวนเวียนถึงเรื่องราวในอดีต หรือวิตกกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
+ เพราะการรับรู้และกระทำในสิ่งที่เป็นไปในปัจจุบันขณะนั้น มีความสำคัญมากกว่าอดีตและอนาคต
+ ‘ไม่กังวลกับอดีต เลิกวิตกกับอนาคต’
12) ทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ :
+ คนมีความสุข บ่อยครั้งมักทำตามฝันและเสียงเรียกร้องของหัวใจ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ใจปรารถนาอย่างแท้จริง การได้ลงมือทำสิ่งนั้นๆ ย่อมนำความสุขมาให้อย่างมิต้องสงสัย
13) ตั้งใจรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น :
+ คนมีความสุข รู้ว่าการรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นมีข้อดีเช่นกัน เพราะทำให้เราเข้าใจผู้อื่น และช่วยให้ความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันดีขึ้น
+ บางครั้งมันยังทำให้ได้ไอเดียใหม่ๆ หลายอย่างที่แตกต่างออกไป ซึ่งจะช่วยต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองออกไปไม่รู้จบ
14) ถนอมความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง :
+ คนมีความสุข มักหาเวลาไปเยี่ยมเยียน หรือใช้เครื่องมือสื่อสารกับคนในครอบครัวและญาติสนิทมิตรสหาย เพราะการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีทางสังคมนั้น
+ การมีกัลยาณมิตร เป็นกุญแจไขไปสู่ความสุข
15) ซื่อสัตย์สุจริตทั้งต่อผู้อื่นและต่อตนเอง :
+ คนมีความสุข ตระหนักดีว่าทุกครั้งที่โกหกหลอกลวงจะทำให้เกิดความเครียดเพิ่มขึ้น ซ้ำร้ายเมื่อมีคนจับได้ย่อมส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ทั้งด้านส่วนตัวและสังคม
+ ในทางตรงข้าม ความซื่อสัตย์สุจริตจะช่วยให้จิตใจสบาย ไม่หวาดผวา และได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้อื่น
16) ตื่นนอนเวลาเดิมทุกเช้า :
+ คนมีความสุข จะเข้านอนและตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน เพราะการทำเช่นนั้นจะช่วยควบคุมนาฬิกาชีวิตให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
+ ข้อสำคัญ คนมีความสุขรู้ว่าการตื่นนอนแต่เช้าเป็นหนึ่งในนิสัยของคนที่ประสบความสำเร็จ เพราะจะทำให้มีเวลาและสมาธิมากขึ้นในการทำงาน
17) กินถูกหลักโภชนาการ :
+ คนมีความสุข เลือกกินอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกายและสมองให้อยู่ในภาวะที่พร้อมจะทำงาน และเข้าใจดีว่าอาหารที่กินแต่ละมื้อนั้น มีผลกระทบโดยตรงต่อระดับอารมณ์และพลังงานทั้งในระยะสั้นและยาว
+ รวมถึงงดกินพวก Junk food หรืออาหารขยะที่ไม่มีประโยชน์และมีแนวโน้มก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง
18) ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ :
+ คนมีความสุข มองว่าการออกกำลังกายมีความสำคัญเทียบเท่ากับการกินและการนอน จึงต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
+ การออกกำลังกายช่วยป้องกันโรค ทำให้ชีวิตยืนยาว และยังช่วยในเรื่องจิตใจ ทำให้มีความสุขในปัจจุบันมากขึ้น
+ เพราะการออกกำลังกายช่วยเพิ่มระดับสารเคมีในสมอง ช่วยลดความเครียดและคลายอาการซึมเศร้าได้
19) มีสติและมีสมาธิ :
+ คนมีความสุข หาเวลาทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้เกิดความรู้สึกสงบสุขภายใน รวมถึงการฝึกสติรู้ทั่วตัวพร้อม
+ มีงานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า การทำสมาธิสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสมองที่ช่วยทำให้คนเรามีความสุขมากขึ้น
20) ยอมรับในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ :
+ คนมีความสุข รู้สัจธรรมว่า ทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์ทั้งหมด ไม่มีอะไรคงทนอยู่ถาวรได้ ไม่มีขาวไม่มีดำ มีแต่เทาอ่อนเทาแก่
+ การเรียนรู้และยอมรับความจริงที่ตนเองมิอาจไปเปลี่ยนแปลงได้นั้น ย่อมนำความทุกข์มาให้น้อยกว่า #มันเป็นเช่นนั้นเอง
สุดท้ายนี้ ;
+ จง’เห็นความสุขรอบตัว’เราได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด และ
+ ขอให้ลงมือทำเพื่อหา ’ความสุขรอบตัว’ ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องรอความสุขจากผู้อื่น ไม่ต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือพึ่งคนอื่น
+ ขอให้ทุกท่าน ‘เห็นถูก คิดถูก และทำถูก’
+ ขอให้มี ‘พลังกาย พลังใจ’ ในการดำเนินชีวิต
+ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ตลอดปี 2566 และตลอดไป
สวัสดีปีใหม่ 2566
Cr : บางส่วนจากข้อเขียนของท่าน พระไพศาล วิสาโล
โฆษณา