1 ม.ค. 2023 เวลา 15:13 • ไลฟ์สไตล์
ชีวิตสบายขึ้นแต่ความสุขน้อยลง
ชาร์ลี มังเกอร์ นักลงทุนมหาเศรษฐีของโลก อายุ 98 ปี และเป็นเพื่อนสนิทของปู่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ กล่าวกับกลุ่มนักทุนคนรุ่นใหม่ ว่า ผู้คนสมัยนี้มีความสุขน้อยลงทั้งๆที่สิ่งอำนวยความสะดวกมีมากขึ้นมาก และแนะนำให้เลิกบ่นและพอใจกับสิ่งที่มี
มีมากแต่สุขน้อย
เอาจริงๆ ถ้าลองเปรียบเทียบสภาพแวดล้อมชีวิตของเราแต่ก่อนเทียบกับปัจจุบัน
...แต่ก่อนไม่มีไฟฟ้า มีแต่แสงเทียนไข
...แต่ก่อนไม่มีรถไฟฟ้า มีแต่รถเมล์/แท็กซี่
...แต่ก่อนไม่มีอีเมล์หรือChat app ต้องส่งไปรษณีย์โทรเลข
...แต่ก่อนไม่มี Internet banking / mobile banking จำทำรายการอะไรต้องไปเขียนเอกสารที่สาขาตลอด
...แต่ก่อนไม่มี Laptop มีแค่คอมเครื่องใหญ่ๆ
...แต่ก่อนไม่มี Smart phone มีแต่โทรศัพท์บ้าน
...แต่ก่อนไม่มี Delivery app อยากกินต้องไปหา ไปรอคิวเอง อยากซื้อของก็ต้องออกไปหาซื้อเอง
มาลองคิดดู การใช้ชีวิตของเราแสนจะสะดวกสบายมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะ innovation ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผู้บริโภคเป็นคนหลักที่ได้รับผลประโยชน์
แต่ ... ทำไม หลายคนพูดว่าสังคมโลกปัจจุบัน “คนมีความสุขน้อยลง” ?
ต้นเหตุอยู่ที่
สังคมปัจจุบันทำให้คนมี “เกณฑ์ความพึงพอใจ” ที่ลดลง เพราะยิ่งคุ้นเคยกับชีวิตที่มีความสะดวกมาก ก็ยิ่งมี “ความคาดหวัง” มาก
คนที่คุ้นเคยกับความสะดวกสบาย ก็คาดหวังที่จะได้อะไรสบายๆ รวดเร็ว อย่างที่มีหลายคนบอกว่า สังคมสมัยนี้สร้างความเป็นวัตถุนิยม และยังเป็นสังคมความอดทนต่ำ มีปัญหา ไม่พอใจอะไรก็ระบายลงโซเซียล แต่สมัยก่อนไม่มีช่องทาง ก็ต้องเก็บวนไว้ที่ตัวเอง ไม่ในหัว ก็ในเล่มไดอารี่ของตัวเอง สักพักอารมณ์ดีขึ้น ความคิดที่อยากระบายพวกนั้นก็หายไป และก็คิดว่าโชคดีที่ไม่ไประบายใส่ใคร แต่สมัยนี้อารมณ์ขึ้นปุ๊บก็ไถนิ้ว ลงระบายในโซเซียลภายในหนึ่งนาที
หรือกระทั่งการสั่งอาหาร สั่งของแบบออนไลน์ เดี๋ยวนี้ก็คาดหวังให้ได้เร็วที่สุด
รูปแบบสังคมสมัยใหม่เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อความคาดหวังและความพึงพอใจอย่างมาก ซึ่งเราคงไปเปลี่ยนรูปแบบสังคมเหล่านี้ไม่ได้ ดังนั้น จึงอยู่ที่ “ตัวเรา” นี่แหละ ที่จะปรับเปลี่ยนความคิดตัวเองเพื่อที่จะมี “ความสุขเพิ่มขึ้น” รู้จักอด รู้จักรอ รู้จักความเพียงพอและพอเพียง
โฆษณา