2 ม.ค. 2023 เวลา 06:21 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ค่าเหล่านี้ Win Rate, DD, MaxDD, RR ถ้ายังไม่รู้จัก อย่าเพิ่งเทรดเงินจริงเด็ดขาด
ก่อนที่เราจะไปเริ่มเทรดให้เสียเงิน ผมแนะนำก่อนว่าให้สร้างระบบเทรด
จากการทำ Backtest ให้ได้เสียก่อน และจะต้องตอบว่า ระบบเทรดที่ใช้ คืออะไรให้ได้
ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจคำว่าระบบเทรดให้ได้เสียก่อนนะครับ
ระบบเทรดก็คือ เงื่อนไขก่อนที่เราจะ Buy, หรือ Sell เราจะใช้วิธีการเดิมทุกครั้ง
ไม่มีการนำวิธีการเทรดแบบอื่นมาผสม หรือ มาปน , และ ใช้ TimeFrame เดียวกัน
เช่น สมมุติ ว่าถ้าผมมีระบบเทรดดังต่อไปนี้
ระบบเทรดแบบระยะสั้น
เครื่องมือที่ใช้ MACD และการเทรดแบบ Price Pattern
1. ดู Trend ที่ M30, M15
2. หาจุดเข้า: Divergence M3
3. หาจุดเข้า: Discount Premium M15
4. หาจุดเข้า: Demand Supply M15
5. หาจุดเข้า: Price Pattern M3
6. กำหนด Stop Loss: Price Pattern + (50 จุด)
7. กำหนด Take Profit: Order Block ที่มี RR มากกว่า 1:1 ขึ้นไป
การเทรดทุกครั้ง ก็ใช้เริ่มตั้งแต่ ข้อ 1 ไปจนถึง 7 ทุกครั้ง
จะไม่มี การนำวิธีอื่นๆ มาผสมเด็ดขาด และทดสอบการจำลองเทรด (Backtest)
ย้อนหลังให้ได้ 2-3 ปี เป็นอย่างน้อย
เราก็จะได้ ค่าที่เราต้องมาตอบตัวเองดังต่อไปนี้ คือ
1. Win Rate เป็นเท่าไหร่ เช่น ถ้าชนะ 65 ครั้ง จาก 100 ครั้ง, Win Rate = 65%
2. Daily DrawDown (DD) คือ ค่าที่เราขาดทุนต่อครั้งต่อเงินทุนต่อวัน ที่มีเป็นเท่าไหร่ เช่น เรามีทุน $100 เทรดแล้วขาดทุน $1 ดังนั้น เราจะมี DD = 1/100 = 1% ต่อวัน
3. Max DrawDown (Max DD) คือ ค่าที่เราขาดทุนรวมการเทรดตั้งแต่เริ่มต้นแบบสะสมจนถึงปัจจุบัน เป็นเท่าไหร่ เช่น Max DD = 4% เป็นต้น
4. Risk/Reward (RR) คือ การที่เราจะเทรด เราจะต้องตั้งค่า Stop Loss (SL) ต่อ Take Profit (TP) อย่างน้อย 1:1 เสมอ นั้นหมายถึงว่า ถ้าลงทุนไป $1 อย่างน้องถ้ากำไร ต้องได้ $1 แต่ถ้าเสีย เราจะเสียไป $1 เป็นต้น ยิ่ง RR ใครเป็น 1:2, 1:3 ก็จะดีมาก
ถ้าเราจะสอบกองทุน ให้ผ่านทุกกอง แนะนำว่า
ระบบเทรดควรจะมี DD <= 1%, Max DD 4% , และ RR >= 1:1 ขึ้นไป
ส่วนกำไรนั้น แค่เดือนแรกที่ต้อง Over Trade ให้ได้กำไร 6-10% ต่อเดือน
หลังจากนั้น แค่ 1-5% ต่อเดือน ก็เพียงพอแล้วในการทำกำไร
การพัฒนาระบบเทรด ก็แนะนำที่เดิมคือ Trading View ครับ
โฆษณา