8 ม.ค. 2023 เวลา 02:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
กระแสเงินสดอิสระ
ในการประเมินมูลค่าหุ้นแบบ Absolute Approach ตัวแปรสำคัญ คือ กระแสเงินสดที่ได้จากธุรกิจ การเติบโตของกระแสเงินสด (Growth, g) และอัตราคิดลด (Discount Rate)
โดยเราจะคิดลดกระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow, fcf) ในอนาคตกลับมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน ทำให้เราประเมินมูลค่าหุ้นได้
ซึ่งในการประเมินมูลค่าหุ้นค่อนข้างมีรายละเอียดมาก ดังนั้นเรามาเริ่มต้นจากการรู้จักกับกระแสเงินสดอิสระกันก่อนดีกว่า และบทความต่อไปเราจะมารู้จักกับการประมาณการเติบโตของกระแสเงินสด และ อัตราคิดลดกันต่อไป
กระแสเงินสดอิสระคืออะไร
กระแสเงินสดอิสระ คือ เงินสดที่เหลือจากการใช้จ่ายที่จำเป็นทุกอย่างแล้ว
โดยการคำนวณกระแสเงินสดอิสระเราสามารถคำนวณได้หลายวิธี แต่ในบทความนี้จะแสดงวิธีคำนวณจากกระแสเงินสดจากการดำเนินการ (Cash Flow Form Operation, CFO)
โดยเราสามารถคำนวณกระแสเงินสดอิสระได้โดย
นำกระแสเงินสดจากการดำเนินการมาลบเงินลงทุนสำหรับการขยายธุรกิจ (Capital Expenditure, CAPEX) ออก ก็จะได้กระแสเงินสดอิสระ
FCF = CFO – CAPEX
CFO คือ กระแสเงินสดจากการดำเนินการ
สำหรับกระแสเงินสดจากการดำเนินการ คือกระแสเงินสดที่เหลือจากการใช้จ่ายเพื่อให้กิจการดำเนินกิจการต่อได้
โดยคำนวณมาจาก กำไรสุทธิปรับด้วยส่วนที่ไม่ใช่เงินสดที่เพิ่มหรือลด (NCC) และลบกับเงินที่ใช้หมุนเวียนในกิจการ (CWC)
CFO = Net Profit + NCC – CWC
โดยที่ Net Profit หรือ กำไรสุทธิ คือ รายได้ที่หักต้นทุนขาย ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีแล้ว
NCC คือ รายการที่ไม่ใช่เงินสดจริงๆ (Non Cash Charge)
NCC คือ รายการที่บันทึกว่ามีรายได้หรือการใช้จ่าย แต่เป็นรายการทางบัญชีไม่ได้มีเงินสดที่รับมาหรือใช้ไปจริงๆ
ดังนั้นเราจะบวกกลับกรณีที่บันทึกในงบการเงินว่าเป็นค่าใช่จ่าย และลบออกถ้าบันทึกเป็นรายได้
เช่น บวกกลับค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (Depreciation and Amortization หรือ DA) ที่เป็นค่าใช้จ่ายทางบัญชีแต่ไม่ได้มีเงินสดจ่ายไปจริงๆ หรือ ลบผลกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการแปลงค่าเงินต่างประเทศ เป็นต้น
WC (Working Capital) หรือเงินทุนหมุนเวียน
WC คือเงินที่เราใช้เพื่อให้ธุรกิจดำเนินกิจกรรมต่างๆ ต่อไปได้ ยกตัวอย่างธุรกิจร้านค้าปลีก ร้านค้าต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้ามาเก็บไว้เพื่อรอขาย
ก่อนที่จะขายสินค้าได้ เงินที่จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้า
จะเป็นเงินลงทุนจมไปกับสินค้าคงคลัง จนกว่าจะขายสินค้าได้แล้วจึงมีรายได้จากการขายสินค้าเข้ามาเป็นเงินสำหรับหมุนเวียนในร้านต่อไป
ถ้ามีเงินในส่วนนี้น้อยไปก็จะไม่สามารถซื้อสินค้ามา
สต็อกไว้เพื่อขายได้อีก ทำให้ร้านอาจจะต้องใช้การกู้มาเพื่อหมุนเวียนแทน
เราสามารถคำนวณ WC ได้จากผลต่างของ
ทรัพย์สินหมุนเวียนและหนี้สินหมุนเวียน
WC = ทรัพย์สินหมุนเวียน – หนี้สินหมุนเวียน
การเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน CWC (Change in Working Capital)
CWC คือ การเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน
ใน 1 รอบบัญชี
พูดง่ายๆ คือ เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นหรือลดลง
จากปีก่อนเท่าไหร่
เราสามารถคำนวณการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียนได้ง่ายๆ ดังนี้
CWC = WC ปีนี้ – WC ปีก่อน
**อย่างไรก็ตาม เราจะไม่นำเงินสดมาคำนวณรวมในการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียนนะครับ
เงินลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ (Capital Expenditure, CAPEX)
ตัวอย่าง CAPEX เช่น เงินลงทุนเพื่อสร้างสาขาใหม่
กระแสเงินสดอิสระเป็นกระแสเงินสดที่เหลือจากการใช้งานจริงๆ ที่สามารถนำไปใช้อะไรก็ได้ เช่น นำไปจ่ายเงินปันผล
บริษัทที่มีกระแสเงินสดจากการดำเนินการเป็นบวก
ก็มีโอกาสที่กระแสเงินสดอิสระจะเป็นบวกด้วย
บริษัทที่สร้างกระแสเงินสดอิสระได้มากและมีการเติบโตของกระแสเงินสดอิสระสูงจะทำให้มูลค่าบริษัทสูงตามไปด้วย
ดังนั้นเราควรเลือกลงทุนในบริษัทที่มีกระแสเงินสดจากการดำเนินการและกระแสเงินสดอิสระเป็นบวก เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีครับ
เนื้อหาบางส่วนจากหนังสือ THE LITTLE BOOK OF VALUATION โดยมีฉบับแปลไทยชื่อ การประเมินมูลค่าหุ้น และ finnomena

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา