4 ม.ค. 2023 เวลา 00:23 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เครื่องบินอวกาศ พร้อมห้องโดยสารเครื่องบินที่ขยายได้ขนาดเท่ากับอาคาร 3 ชั้น✈️
4
Sierra Space สตาร์ทอัพในโคโลราโดกำลังพัฒนา Dream Chaser
1
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่จะกลายเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในอวกาศ
ควบคู่ไปกับ Blue Origin คาดว่าเครื่องบิน Dream Chaser
1
จะออกปฏิบัติภารกิจขนส่งผู้โดยสารครั้งแรกในปี 2569
1
เครื่องบินความเร็วเหนือเสียงนี้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ประมาณ 15 ครั้ง
1
บรรทุกสินค้าได้ 5,440 กิโลกรัมหรือผู้โดยสาร 12 คน
1
Blue Origin บริษัทการบินและอวกาศของ Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon
ได้ร่วมมือกับ Sierra Space ในโครงการสถานีอวกาศเชิงพาณิชย์ Orbital Reef
ทั้งสองบริษัทเพิ่งเปิดตัวต้นแบบโมดูลสถานีอวกาศในแคมเปญทดสอบ Orbital Reef
ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีอวกาศนานาชาติที่มาแทนที่สถานีอวกาศนานาชาติ (ISS)
มีโรงแรมอวกาศ ร้านอาหาร และสถานที่วิจัยสำหรับบริษัทและนักวิทยาศาสตร์
หลังจากที่สถานีอยู่ในวงโคจรในปี 2570 ผู้คนสามารถย้ายไปยังสถานีได้
โดยเครื่องบินอวกาศความเร็วเหนือเสียงที่เรียกว่า Dream Chaser
นอกเหนือจากการขนส่งผู้โดยสารไปยัง Orbital Reef แล้ว Dream Chaser
ยังบรรทุกสินค้าและลูกเรือไปยัง ISS ภายใต้สัญญามูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์
กับ NASA สัญญาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มของ NASA
เพื่อลดการพึ่งพา SpaceX ซึ่งเป็นบริษัทเดียวของสหรัฐฯ ในปัจจุบันที่สามารถส่งนักบินอวกาศไปยังสถานีอวกาศนานาชาติได้
Dream Chaser จะสั้นกว่ากระสวยอวกาศของ NASA ถึง 4 เท่า โดยมีความยาวรวมมากกว่า 9 เมตร
อย่างไรก็ตาม เครื่องบินลำดังกล่าวจะรวมสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นได้ขนาดใหญ่ (LIFE)
นี่คือที่อยู่อาศัยที่พองลมได้เองซึ่งสามารถขยายได้ถึงเส้นผ่านศูนย์กลาง 8.2 ม.
เทียบเท่ากับอาคาร 3 ชั้น วัสดุที่อ่อนนุ่มของ LIFE สามารถเบี่ยงเบนอุกกาบาตขนาดเล็กและเศษซากอวกาศอื่นๆ
เป้าหมายคือการให้ Dream Chaser ลงจอดบนรันเวย์เชิงพาณิชย์ที่สนามบินนานาชาติ
Sierra Spaceกำลังสร้างเครือข่ายท่าเรืออวกาศสำหรับ Dream Chaser
รวมถึง Spaceport America ในนิวเม็กซิโก คอร์นวอลล์ สหราชอาณาจักร
และโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อใช้งานแล้ว Dream Chaser สามารถบินไปยังสถานี Orbital Reef ในวงโคจรต่ำได้เป็นเวลา 3 วัน
2
โฆษณา