5 ม.ค. 2023 เวลา 01:10 • ท่องเที่ยว

กลุ่มปราสาทสมโบร์ไพรกุก เมืองกำปงธม (3) .. กลุ่มปราสาทเยียปวน (2/2)

กลุ่มปราสาทเยียปวน .. ปราสาทบริวารอีก 6 หลังที่ตั้งเรียงรายโดยรอบประสาทองค์ประธานนั้น ... มีผังเป็นรูปแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของ “สถาปัตยกรรมแบบสมโบร์ไพรกุกห์”
ปราสาทฤาเซ็ย โรเล๊ยก .. เท่าที่เห็น ผู้เขียนรู้สึกว่า เป็นปราสาทที่สวยงามมากกว่าปราสาทแปดเหลี่ยมหลังอื่นๆในหมู่ปราสาททางทิศใต้ทั้งหมด แม้จะมีลักษณะโดยทั่วไปเหมือนกัน เช่น
.. ลักษณะของปราสาท ที่จะเห็นได้ที่เดียวในเขมร คือ เป็นปราสาท 8 เหลี่ยม ซึ่งสื่อถึงทิศทั้งแปด ที่มีเทพเจ้าประจำทิศที่เรียกว่า ‘ทิกปาลกะ’ พิทักษ์อยู่
.. มีประตูให้เข้าถึงด้านในเพียงด้านเดียว
ภายในมักจะประดิษฐานรูปเคารพชั้นรองที่ไม่ได้ประดิษฐานอยู่ในปราสาทประธาน เช่น รูปชายาของเทพเจ้า
ผนังด้านนอก ในส่วนเรือนธาตุของปราสาทแปดเหลี่ยมทุกหลังประดับด้วย ภาพสลัก “วิมานลอย” (Flying Palaces)
… ที่มีภาพสลักบุคคล ทั้งผู้คนชาย หญิง สัตว์ อยู่ภายในวิมานลอย มีซุ้มกูฑุ ที่ผนังอิฐของปราสาทจัดเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะขอมแบบสมโบร์ไพรกุกที่ไม่สามารถพบเห็นได้ในศิลปะขอมยุคอื่น ๆ เลย และยังแสดงถึงรูปแบบทางวัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียที่นิยมทำมาก่อนแล้วเช่นกัน
วิมานลอย .. การใช้ภาพสลักครุฑแบก และสัตว์ปีกที่กำลังกระพือปีกอยู่ใต้ฐานของวิมาน เพื่อสื่อให้เห็นว่า วิมานกำลังลอยอยู่ในอากาศบนลมที่สัตว์เหล่านี้กระพือปีก สื่อให้เห็นว่า วิมานอยู่ในสรวงสวรรค์ ลอยอยู่ในอากาศ
ปราสาทหลังนี้มีความวิจิตรในเชิงช่าง และงานศิลป์ .. ที่ถ่ายทอดผ่านฝีมือประติมากรชั้นครู ที่ใส่ใจในรายละเอียด และสามารถถ่ายทอดออกมาได้อลังการ สมจริงในแบบวิมานย่อส่วน
ภายในกลางวิมานมีเทพเจ้าประทับอยู่ .. ในขณะที่มีบริวารนั่งเฝ้าประตูทางขึ้นอยู่ด้านล่าง มีสิงห์ที่กำลังแลบลิ้นเป็นราวบันได
ด้านบนของวิมาน สลักเป็น กูฑุ .. ที่มีรูปบุคคล และสัตว์ต่างๆประดับ
ทับหลังของวิมาน ซึ่งอยู่ระหว่างตัววิมานที่ประทับของเทพเจ้า และ กูฑุ .. ภาพสลักมีส่วนประกอบและรายละเอียดของลวดลายที่ชัดเจน งดงาม ทั้งลวดลายกนกก้ามปู และการนำเอาส่วนของหัวเสาสี่เหลี่ยมอันเป็นส่วนประกอบของอาคารแบบอินเดียจริง ให้ปรากฏในภาพสลัก
ปราสาท S7-8 ..
ผนังด้านนอก ในส่วนเรือนธาตุของปราสาทแปดเหลี่ยมนี้ประดับด้วยภาพสลัก “วิมานลอย” (Flying Palaces) ที่มีภาพสลักบุคคล ทั้งผู้คนชาย หญิง สัตว์ อยู่ภายในวิมานลอย ..
แต่ทั้ง 2 ปราสาทนี้ได้ลดความละเอียดของรูปสลักลง
.. อย่างไรก็ตาม การแกะสลักแม้จะลดทอนรายละเอียดลง แต่ยังคงใส่ใจในการแกะสลักอยู่ เห็นได้จากการแกะสักรายละเอียดของตัววิมานบน
… ลวดลายบนกรอบประตู เสาประดับกรอบประตู ทับหลังของวิมาน ที่มีลายก้ามปู อันประกอบด้วยภาพสลัดดอกบัวบาน สลับกับลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน มีกนกผักกูดอยุ่รอบๆ เป็นต้น
ปราสาทบางหลังของกลุ่มปราสาทเยียปวน .. พังทลายลงแทบไม่หลงเหลือแต่กลับมีต้นไม้ขึ้นยึดครองพื้นที่แทนก็ทำให้เกิดมนต์ขลังที่น่าถ่ายรูปได้เหมือนกัน
ปราสาทสมโบร์ไพรกุกตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าโปร่ง มีทางเดินนำไปสู่ปราสาทต่างๆที่ซ่อนตัว หลีกเร้นสายตาของผู้คนอยู่หลังแนวป่า
ตลอดทางเดิน .. มีต้นไม้ประเภท ต้นเสลา ไทร และอื่นๆขึ้นอยู่มาก แต่ไม่ถึงกับทึบ .. ทำให้การเดินชมเปี่ยมไปด้วยความรื่นรมย์ เพลิดเพลิน
ต้นไม้บางต้นมีรูปลักษณ์ที่แปลก แต่โดดเด่นมากเมื่อส่งสายตาไปกระทบ ..
เกิดความน่าตื่นตา ตื่นใจ และดึงดูดให้คนที่รักการถ่ายภาพต้องเดินเข้าไปใกล้เพื่อเก็บภาพประทับใจ
ลวดลายคดเคี้ยวของรากไม้ที่เรี่ยรายไปตามพื้น .. ส่วนของลำต้นที่สูงชลูด สง่างามเมื่อตาเพ่งมอง
… ล้วนเป็นเสน่ห์ของแนวไพร ที่จะสัมผัสได้ ก็ต่อเมื่อก้าวเท้าออกเดินเอง
บารายในระหว่างทาง .. เป็นสระน้ำสี่เหลี่ยมที่ขุดลึกลงไป มีบันไดหินทรายเป็นชั้นๆทอดตัวจากด้านบนลงไปจนถึงระดับผิวน้ำ
… คาดเดาว่า น่าจะเป็นสระสรงที่กษัตริย์ใช้ชำระร่างกาย ก่อนที่จะเข้าไปทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ในปราสาทประธาน เฉกเช่นเดียวกันกับคติความเขื่อในการสร้างปราสาทเขมรอื่นๆ
.. ใบไม้เปลี่ยนสี สวยงาม
…ใบไม้ที่ร่วงหล่น กลายเป็นพรมบนพื้น บ่งบอกการเปลี่ยนผ่านของฤดูกาล ได้อารมณ์โรแมนติกในพงไพรมากเลยทีเดียว
โฆษณา