Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Supawan’s Colorful World
•
ติดตาม
5 ม.ค. 2023 เวลา 05:29 • ท่องเที่ยว
กลุ่มปราสาทสมโบร์ไพรกุก เมืองกำปงธม (4) .. กลุ่มปราสาทโตว์ (C)
กลุ่มปราสาทตอนกลาง (C) หรือ กลุ่มปราสาทโตว์ (สิงโต) ตั้งอยู่ท่ามกลางดงไม้
ผู้มาเยือนต้องเดินตามทางเดินถนนดินแดง ผ่านเข้าไปชั้นใน .. ทางเข้ามีป้ายอธิบายความเป็นมา พอให้รู้ถึงภูมิหลังของปราสาท
ตัวปราสาทตั้งอยู่ภายในบริเวณที่มีแนวกำแพงล้อมรอบ 2 ชั้น แต่แนวกำแพงส่วนใหญ่พังทลายเกือบหมดแล้ว
ยังคงมองเห็นร่องรอยกำแพงที่เคยโอบกอดบริเวณปราสาทเอาไว้
ปราสาทประธานของกลุ่มปราสาทโตว์ .. เป็นปราสาทอิฐขนาดใหญ่ ผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า (ขนาด 13 x 15เมตร) ..
ปราสาทประธาน … เป็นปราสาทแห่งเดียวในกลุ่มปราสาทนี้ ที่ได้รับการบูรณะขึ้นมา.. ส่วนปราสาทบริวารที่เรียงรายอยู่โดยรอบนั้นปัจจุบันพังทลายลงหมดแล้ว
ปราสาทที่ปรากฏในสายตา แม้จะผุพังไปบ้างตามกาลเวลาที่ผ่านไป .. แต่ยังเห็นได้ถึงความสง่างาม และความศรัทธาและตั้งใจของผู้สร้าง ในการที่จะให้เป็นศูนย์รวมของพลังแผ่นดินในช่วงนั้น
ข้างบันไดทางขึ้นมีรูปสิงห์โตสองตัวแกะสลักลอยตัว .. ในวันที่เราไปเยือน ปราสาทแห่งนี้ยังอยู่ในระหว่างการบูรณะ เราจึงเข้าไปในตัวปราสาทไม่ได้ แต่อยู่ในระยะที่มองเห็นชัดเจน และถ่ายภาพด้านนอกได้
ทั้งฐานที่ตั้งและตัวสิงห์เป็นหินขนาดใหญ่ก้อนเดียวกัน จึงทำให้ปราสาทองค์ประธานนี้มีชื่อเรียกว่า “ปราสาทโตว์” หรือแปลว่า “ปราสาทสิงห์โต”
ในอดีตบันไดทุกด้านทั้ง 4 ทิศของปราสาทจะมีรูปสิงห์แกะสลักลอยตัว ประดับอยู่เช่นเดียวกับที่เหลืออยู่เพียงคู่เดียว
มีการเล่าขาน ตำนาน และเรื่องเล่ามากมายที่เป็นความเชื่อเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ และอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์ของสิงห์โตที่เฝ้ารักษาปราสาทตาวตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบันนี้
ปราสาทโตว์ หันหน้ามีประตูเปิดออกไปสู่ไปทางทิศตะวันออก .. ส่วนอีก 3 ประตูที่เหลือในแต่ละทิศเป็นผนังทึบมีประตูหลอกทั้ง 3 ทิศ .. ประตูทั้ง 4 ด้านมีเสาเหลี่ยม เหนือประตู มีทับหลังเป็นแผ่นหินทั้ง 4 ประตู โดยทับหลังด้านประตูเข้าทางทิศตะวันออกลบเลือนไปเกือบหมดแล้ว
เรือนธาตุของปราสาท .. เลือนหายไป กัดกร่อน ถูกกลืนกินจนเกือบหมดสภาพเดิม
.. ร่องรอยที่เห็นในวันนี้แม้จะไม่ชัด้จน แต่ยังบอกได้ถึงลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์แบบสมโบร์ไพรกุก
.. วิมานลอย ก็ยังพอเห็นได้ แต่ไม่สามารถบอกถึงรายละเอียดต่างๆ
ทับหลังของปราสาทโตว์เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจเพราะมีลักษณะแตกต่างไปจากทับหลังแบบสมโบร์ไพรกุก
ทับหลังทางด้านทิศใต้และทิศตะวันตก .. นักประวัติศาสตร์ศิลปะ เรียกกันว่า “ศิลปะแบบไพรเกมง” อ่านว่าไพร-กะ-เม็ง เป็นรูปแบบทับหลังของศิลปะขอม ในยุคถัดมาจากยุค “ศิลปะแบบ สมโบร์ไพรกุกห์” .. มีการสลักเป็นลายพวงอุบะเต็มทับหลังอันเป็นลักษณะของทับหลังแบบไพรกเมงที่ถือว่าเป็นสมัยหลังต่อมาจากสมโบร์ไพรกุก
ส่วนทับหลังทางด้านทิศเหนือ เป็นศิลปะขอมที่เรียกกันว่า“ศิลปะแบบกำปงพระ” (หรือแบบกำพงพระ) ซึ่งเป็นยุคถัดมาจาก “ศิลปะแบบไพรเกมง” ทำให้นักโบราณคดีมีข้อสันนิษฐานว่า ปราสาทตาวน่าจะสร้างขึ้นหลังรัชสมัยของพระเจ้าอิศานวรมัน โดยมีความสอดคล้องกับข้อมูลทางโบราณคดีอื่นๆที่ชี้ว่าปราสาทตาวน่าจะสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 ซึ่งครองราชย์อยู่ในช่วงปี ค.ศ. 650-680 (ราวพ.ศ. 1193-1223)
“ปราสาทโตว์” จึงได้รับการอนุมานว่า .. สร้างหลังกลุ่มปราสาทสมโบร์ไพรกุกและกลุ่มปราสาทเยียปวนเล็กน้อย เห็นได้ชัดจากทับหลังของปราสาทจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบลายพวงอุบะอันเป็นรูปแบบที่เด่นชัดของทับหลังแบบไพรกเมง
ภายในปราสาทตาวไม่หลงเหลือรูปเคารพเก่าไว้ มีเพียงแท่นบูชาบายศรีแบบเขมรที่คนท้องถิ่นยังถือว่าที่นี่เป็นศาสนสถานจึงมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองดูแลอยู่
ชั้นหลังคาก่ออิฐสอบเข้าไปสู่ยอดบนของปราสาท เดิมส่วนยอดสุดอาจทำเป็นรูปบัวตูมหรือรูปอมลกะที่สลักด้วยหินทรายก็ได้
บันทึก
1
1
4
1
1
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย