7 ม.ค. 2023 เวลา 15:00 • ศิลปะ & ออกแบบ

นิวยอร์กกู New York Kitchen University ตอน งานศิลปะระดับโลก Edward Hopper

สวัสดีครับ วันนี้นิวยอร์กกู New York Kitchen University ขอนำเสนอนิทรรศการภาพวาดของจิตรกรระดับโคตรบรมครู Edward Hopper ที่จัดขึ้นที่ Whitney Museum ในเมือง New York นะครับ
Edward Hopper Exhibition @Whitney Museum
Edward Hopper เป็นศิลปินรุ่นใหญ่ แต่หากใครไม่รู้จัก Edward Hopper ก็ไม่ผิดอะไร แต่ผมเชื่อว่า ถ้าได้เห็นงานของปู่แกล่ะก็ ต้องมีร้องอ๋อ กันมาบ้างแน่ๆ อย่างที่ดังๆ ก็เช่น Nighthawks, Automat, Early Sunday Morning.
สารภาพตามตรงว่า ผมเองก็ไม่รู้จักชื่อแกเหมือนกันครับ 555 แต่รูมเมทเขาชวนไปดูงานนี้ บอกว่า นานๆ จะมีงานระดับ Masterpiece มาให้ดู ถ้าไม่ไปดู ก็ถือว่าเสียโอกาสมากๆ ยิ่งได้มาเมืองนอกเมืองนา มาอยู่ที่นิวยอร์กแบบนี้แล้ว จะไม่ไปเปิดหูเปิดตา มัวแต่ทำงานอยู่ในห้องครัวก็ตามใจ!
พวกเราไปถึงงานกัน ในวันศุกร์ ตอน 7 PM พอเข้าไป ก็เจอกับกลุ่มฝรั่งมุง ยืนออกันอยู่แถวทางเข้างาน พอไปชะโงกดูก็รู้ว่า มีไกด์ อาสาสมัครมาเดินให้คำอธิบาย สำหรับคนที่สนใจด้วย
ไอ้ผมที่ไม่รู้ต๋งรู้ตี๋อะไรอยู่แล้วนั้น พอเห็นว่ามีไกด์พาทัวร์ก็ชอบใจ บอกเพื่อนๆ รูมเมทว่า เราน่าจะเดินตามไกด์ไปนะ จะได้รู้เรื่องราวของ Hopper ไปเลยด้วย ไม่ต้องเสียเวลาเปิดดูลุงกู ซึ่งทุกคนก็เห็นดีเห็นงามตามนั้น!
ไกด์สาวรุ่นพี่ครับ น่ารักมาก
ไกด์ทัวร์สาวเริ่มเปิดทัวร์ด้วยการพาเราไปเปิดงานด้วยภาพแรกชื่อ New York Nun Baby เป็นภาพของแม่ชี เข็นรถเด็กทารก พี่ไกด์ทัวร์อธิบายว่า Hopper นั้นแกเป็น New Yorker ตัวจริงเลยครับ เพราะบ้านแกเป็นตึก ไม่มีลิฟท์ Hopper อาศัยอยู่ชั้น 4 เดินขึ้นลง บันได 87 ขั้นทุกวันเวลาออกไปไหนมาไหน จนกระทั่งแกตายตอนอายุ 87 ปี โดยแกอาศัยอยู่แถว Washington Square ฉะนั้นงานวาดของ Hopper ถ้ามีตึกในนั้น ส่วนมากก็จะเป็นงานของตึกแถวบ้านแกเนี่ยแหละครับ
New York Nun Baby
ภาพ New York Nun Baby นี้เป็นตึกทรงเก่า ที่เป็นเอกลักษณ์ของ New York ข้างบน โดยลายเซ็นต์อีกอย่างของ Hopper ก็คือ การที่มีตัวละครในภาพน้อย เหมือนกับชาว New Yorker ที่อยู่กันแบบตัวใครตัวมัน บางทีก็ไม่มีตัวละครในภาพเลย ให้ภาพมันเล่าของมันเอง ออกมาน้อยๆ แต่เน้นๆ
ส่วนหน้าต่างที่เปิดทางขวานั้น สีดำสนิท ซึ่งเหมือนจะเปิดให้เห็นถึงความน่าสงสัยอะไรบางอย่างที่แอบซ่อนเอาไว้ในนั้น พี่ไกด์บอกอีกว่า งานของ Hopper นั้น มีความคล้ายกับหนังของ Standley Kubrik ที่มีความเป็นฟิลม์นัวๆ มักจะมีมุมมืด มีความดาร์กซ่อนอยู่ในนั้น
อย่างภาพนี้ ก็จะมีขอบมืดๆ แอบแพล่มๆ มาเป็นเหมือนหน้าต่าง เพราะต้องการบอกให้รู้ว่า ข้างบนมีคนอาศัยอยู่นะ แต่ไม่ต้องเห็นคนอยู่ในนั้นก็ได้ แต่รู้สึกได้ถึงความดำทะมึนที่ซ่อนอยู่ในนั้น
โดยความ Dark ที่ Hopper พูดถึงในภาพวาดนั้น ส่วนมากก็จะเป็น Modernism ที่ค่อยๆ แผ่ขยายเข้ามาในนิวยอร์กครับ พวกตึกรามที่สูงเสียดฟ้า หรือลักษณะของเมืองอุตสาหกรรม ซึ่งลุง Hopper ไม่ปลื้มครับ กับพวกนี้
งานของ Hopper นั้นจะคล้ายกับงาน Collage ที่ประกอบเอาภาพเล็กๆ น้อยๆ มารวมกัน โดยลุง Hopper นั้นจะทำการ Sketch ภาพเอาไว้ก่อน เป็นชิ้นๆ แล้วก็ค่อยๆ ประติดประต่อ เข้าด้วยกัน จนกลายเป็นภาพใหญ่สมบูรณ์
และงานของลุงนั้น หากมีตัวคะครในนั้น ตัวแบบภาพ Sketch ทั้งหมดก็จะมาจากที่ภรรยาของแก ชื่อ Jo ที่ย่อมาจาก Josephine เป็นแบบให้แกได้ลองลงไม้ลงมือว่า Sketch นะครับ แหม่ ได้ภรรยาแถมนางแบบด้วยเว้ย
สาวตรงมุมขวานั่น Sketch มาจาก Jo นะครับ
โดย Jo นั้น จริงๆ แล้วแกก็เป็น Painter นะครับ มีฝีมือทีเดียวแหละ แต่ว่าเมื่อดอกไม้สองดอกบานในแจกันอันเดียวกันไม่ได้ และ Jo ก็รู้ได้ถึงความสามารถของตัวเอง เลยเลือกที่จะปลีกตัวออกมา ช่วยดูแลและสนับสนุนให้ Hopper ได้ทำงาน ได้ใช้ความสามารถของตัวแกนั้นให้เต็มที่ เรียกว่า โคตรจะเสียสละเลยครับ
งานของ Jo ครับ
เบื้องหลังของผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ ล้วนแล้วแต่มีผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่กว่าอยู่เสมอ ลุง Hopper ก็เลยวาดภาพเหมือนของนางให้ 1 ใบครับ แต่ให้เห็นแค่ด้านข้างกับกกหูอันสวยงามเท่านั้นเองนะครับ 555 โดยภาพนี้ พี่ไกด์บอกว่า Hopper วาดให้นางดูเด็กกว่าอายุจริงครับ เพราะตอนวาด เข้า 50 แล้ว ขืนวาดเท่าอายุจริง ลุง Hopper อาจอยู่ไม่ถึง 80 เป็นได้ครับ 555
ภาพเหมือนของ Jo วาดโดย Hopper ครับ
แล้วก็พาไปดูงานประจำของ Hopper ตอนสมัยหนุ่ม คือ แกทำงานพวก วาดภาพประกอบให้กับนิตยสาร หรืองาน Commercial, Advertising ประมาณนี้ ซึ่งพอดูแล้ว เห็นแล้วนึกถึงงานของ Hirohiko Araki คนวาด Jojo’s มากครับ เอ๊ะ! ภรรยาแกชื่อ Jo ด้วย หรือว่า....!
งานของลุง Hopper นั้น จะมีการใช้สีที่ค่อนข้างคล้ายๆ กัน พี่ไกด์บอกว่า แกเป็นคนที่มีความเป็นอเมริกันสูง เลยชอบใช้สีธงชาติอเมริกัน สีน้ำเงิน สีฟ้า สีแดง หากนึกไม่ออกลองนึกถึง Captain America ก็ได้ครับ นั่นแหละ โทนสีประมาณนั้นเลย
Jo นั้นรัก Hopper มาก เรียกว่า รักจนวันสุดท้ายของชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจาก Hopper เสียชีวิตตอนอายุ 87 Jo ก็เสียตามกันไปในเวลาอีกหนึ่งปีต่อมาครับ
Self Portrait ของ Hopper เองครับ
ภาพสีภาพสุดท้าย ที่ Hopper ทำการลงไว้ ชื่อภาพว่า Two Comedians เป็นภาพที่พี่ไกด์บอกว่า ตัวละครนักแสดงตลกทั้ง 2 คนในภาพนั้น กำลังจะลาจากเวทีไป เลยยืนจับมือกัน เหมือนกับ กำลังขอบคุณผู้ชมที่มาดูงานเป็นครั้งสุดท้าย เปรียบเสมือนกับ Hopper และก็ Jo ที่อายุมากแล้ว เหมือนกับเป็นไม้ใกล้ฝั่ง และแน่นอนว่า เบื้องหลังของทั้งคู่ เป็นฉากมืด ลึกลับ เหมือนกับมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้นเหมือนเคย!
พอไกด์ทัวร์จบลง พวกเราก็พากันเดินดูงานต่างๆ อย่างละเอียดเพิ่มขึ้นอีกสักรอบนึง คราวนี้ พอเรามีความเข้าใจเกี่ยวกับตัวงาน หรือ Background ของ Hopper มาก่อนแล้ว ก็ยิ่งอิน เข้าใจความหมายของภาพของศิลปินชื่อดังคนนี้ได้มากขึ้นครับ
กว่าจะเป็นภาพ Nighthawks อันโด่งดัง เสียดายไม่มีรูปจริงมาในงานครับ T-T
แล้วค่าบัตรเข้าชมงานของ Hopper นี่เท่าไหร่เหรอ? ลองเดาไหมครับ 

ผมถามรูมเมท นางยิ้ม ตอบมาว่า $3 เพราะเฉพาะ วันศุกร์ และต้องเป็นหลัง 7 PM ที่ทาง Whitney Museum จะเปิดให้เข้าชมงาน แบบจ่ายค่าเข้าได้ตามอัตถยาสัย พวกเรามากัน 3 คน เลยจ่ายไป $3 OMG! เฉพาะ New Yorker ตัวจริงเท่านั้นที่รู้นะเนี่ย 555
มีขายของที่ระลึกด้วยครับ
รู้สึกว่า เมืองนิวยอร์กหรือเมืองฝรั่งจะมีแบบนี้มาก พวกลดราคา หรือเข้าฟรี คือเหมือนส่งเสริมให้คนท้องที่ได้เปิดหูเปิดตา รับชมอะไรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ งานบันเทิงครับ
หวังว่า นิวยอร์กกู New York Kitchen University ตอนนี้ จะพอช่วยให้เพื่อนๆ คนที่สนใจงานศิลป์ ได้รู้ถึงเรื่องราวและ แรงบันดาลใจที่ซ่อนอยู่ข้างหลังภาพของบรมครู Edward Hopper ได้นะครับ
หากชอบใจ ฝากกดติดตาม กดไลค์ อ่านเรื่องราวอัพเดทของ นิวยอร์กกู NYKU: New York Kitchen University เรื่องวุ่นๆ ของพวกเราพี่น้องคนไทย ที่แปลงร่างเป็นมนุษย์ห้องครัวในมหานครนิวยอร์กได้ที่นี่นะครับ ขอบคุณครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา