7 ม.ค. 2023 เวลา 06:34 • ไลฟ์สไตล์
ยิ่งอยากลืม ยิ่งจดจำ
ธรรมชาติความทรงจำของเรา จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ความทรงจำระยะสั้น (SHORT-TERM MEMORY) ซึ่งเป็นความทรงจำที่มีพื้นที่จำกัด สมองจึงจำเป็นต้องเลือกว่าจะจำอะไร ทำให้บ่อยครั้งเราลืมสิ่งที่เรียกว่าการ “ท่องจำ” หรือว่าสิ่งที่เราไม่ได้ใส่ใจชั่วขณะไปอย่างง่ายดาย
ความทรงจำ
จึงเป็นเหตุผลว่า…เราลืมว่าจะพูดว่าอะไร หรือหาแว่นตาที่เพิ่งถือมาไม่เจอ ซึ่งในคนปกติทั่วไปความทรงจำระยะสั้นจะหายไปใน 30 วินาที แต่ความทรงจำระยะสั้นนี้ ก็สามารถถูกย้ายไปเป็น ความทรงจำระยะยาว (LONG-TERM MEMORY) หากเรามีการทบทวนความทรงจำ
หรือเรียกความทรงจำนั้นมาใช้อยู่เป็นประจำ ซึ่งสมองของเราก็ดูจะมีพื้นที่สำหรับเก็บความจำระยะยาวได้อย่างไม่มีขีดจำกัด โดยสมองอันแสนฉลาดของเราก็จะจัดเอาความทรงจำระยะยาวเหล่านี้ ไปเชื่อมโยงกับบุคคล เหตุการณ์ สถานที่ เพื่อการเรียกใช้งานที่ง่ายขึ้น แถมยังสามารถเก็บได้นานเป็นปีๆ หรือบางทีก็เก็บไว้ได้ตลอดชีวิตเลย
จึงอธิบายได้ว่าเหตุผลที่เราลืมเนื้อหาที่ “ท่องจำ”ไว้ ก็เพราะว่าเราไม่ได้ทำความเข้าใจกับเนื้อหาตรงนั้น แค่เราท่องจำในชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น ในทางกลับกันในเรื่องราวที่เราอยากลืมกลับจำ เพราะเรา “พยายาม” ที่จะลืมเรื่องเหล่านั้นมากจนเกินไป จนทำให้สมองวนเวียนคิดแต่เรื่องนั้นซ้ำ ๆ จนถูกย้ายไปไว้ในส่วนของทรงจำระยะยาวโดยไม่รู้ตัว
ปลดปล่อย
หากชีวิตมีแต่เรื่องที่น่ายินดี เราจะเรียกมันว่าชีวิตได้อย่างไร บางครั้งชีวิตต้องพบเจอเรื่องราวที่เราไม่ได้รับเชิญ บ้างก็จดจำ บ้างก็พยายามจะลืม ความศรัทธาบางครั้งก็เกิดขึ้นในยามที่เราผิดหวังที่สุด เพราะยังมีฝัน..ชีวิตจึงต้องเดินต่อไป
อย่าถามว่าเราต้องการอะไรจากชีวิต แต่จงถามชีวิตว่าต้องการอะไรจากเรา การได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา ได้อยู่กับคนที่รัก ได้หัวเราะ และยินดีกับเรื่องง่ายๆ..ชีวิตอาจจะต้องการเพียงแค่นี้ แต่เป็นเพราะเราที่ต้องการมากเกินไป จนทำให้ชีวิตทุกข์ กับสิ่งที่อยากมีอยากได้ ได้สิ่งนี้แล้วก็อยากได้มากไปอีก เลยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ชีวิตเราจะมีความสุขสักทีอยู่กับปัจจุบันบ้าง ฟังหัวใจตัวเองบ้างว่าจริง ๆแล้ว ชีวิตต้องการอะไรจากเรา
จริง ๆแล้วความทุกข์ ส่วนมากมาจากสิ่งที่เราพยายามต้องการมีความสุข เมื่อไม่สมหวังไม่มีความสุขเราจะทุกข์ จริงๆแล้ว ทุกอย่างที่ในชีวิตที่เกิดขึ้นคือเรื่องธรรมดา ถ้าเราเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตเราจะไม่รู้สึกทุกข์มาก หรือ สุขมาก สิ่งที่เราควรเรียนรู้คือการอยู่กับปัจจุบัน ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ว่าเราจะอยู่ในบทบาทไหนก็ตาม เพียงเท่านี้ชีวิตก็คือชีวิตที่สมบุรณ์แล้ว
ชีวิตเราไม่สั้น ไม่ยาวนัก ฝึกให้ตัวเองเป็นคนง่ายๆ ยิ้มง่ายๆ มีความสุขง่ายๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว เข้าใจว่าบริบทของแต่ละชีวิต แตกต่างกันแต่เชื่อว่าทุกคนรู้ว่าความพอดีอยู่ตรงไหน เพียงแต่หลายครั้งเราพยายามเพิกเฉยกับมัน จนเป็นนิสัยเมื่อเราเดินทางมาถึงช่วงหนึ่งของชีวิต เราจะรู้ว่าการมีเวลาให้กับตัวเองมากพอ และมีเวลาอยู่กับคนที่เรารัก สำคัญกว่าการไขว่ขว้าหาสังคมฉาบฉวย ปัญหาที่ว่าใหญ่ก็คงไม่เกินกว่าที่เราจะคุมควบมัน ชีวิตก็แค่นี้ทุกข์หรือสุข อยู่ที่เราคิด
photo credit by : istockphoto
โฆษณา