รู้หรือไม่ว่าที่อังกฤษ คนขับอยู่ด้านขวาและขับรถชิดซ้ายเหมือนกับที่ไทย
แต่ที่ไม่เหมือนคือ วินัยของคนขับรถ วงเวียนเยอะมาก และถนนส่วนใหญ่แคบมาก
ที่อังกฤษ คนขับอยู่ด้านขวาและขับรถชิดซ้ายเหมือนกับที่ไทย
คนไทยถ้าอยากขับขี่ในอังกฤษก็ต้องมีใบขับขี่สากล
ถ้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าเยี่ยมญาติ หรือวีซ่าระยะสั้น
ก็ใช้ใบขับขี่สากลได้เลยถึง 1 ปี
แต่เราอยู่ยาวกว่านั้น และเราไม่สะดวกที่จะเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ
อีกอย่างสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆ ที่ อยู่นอกเมือง ห่างจากสถานีรถไฟ รถบัสไปไม่ถึง เดินทางด้วยรถส่วนตัวดูจะตอบโจทย์มากสุด
เราเริ่มเตรียมความพร้อมของตัวเอง ใช้เวลา 1 ปี กับใบขับขี่สากลที่มีนั้น
สำรวจเส้นทาง สร้างความเคยชินกับถนนและสภาพอากาศ
ไม่ง่ายเลยจริงๆ ทั้งๆ ที่ขับรถเป็นมาก่อน เพราะกฎจราจรที่นี่เข้มงวด ถนนส่วนมากแคบ เรื่องจำกัดความเร็วสำคัญมากๆ แล้วยังมีวงเวียนเยอะๆ ยั๊วเยี๊ยแทบทุกแยก
ถนนส่วนใหญ่ในอังกฤษแคบ เพราะเป็นถนนที่ถูกสร้างมานานมากแล้ว ตั้งแต่ยังใช้รถม้ากันอยู่ และเป็นเส้นทางสัญจรมาจนถึงปัจจุบัน
วงเวียนเยอะมาก มีเกือบทุกแยก ทุกมุมเมือง
เคยถามสามีว่าทำไมที่อังกฤษถึงมีวงเวียนเยอะแยะนัก
คำตอบที่ได้ ก็เพื่อให้จราจรคล่องตัว เออ มานึกๆ ดู มันก็ใช่จริงๆ ด้วย
เพราะไม่ต้องหยุดรถรอสัญญาณไฟจราจร แค่ชะลอๆ พอรถว่างก็ขับต่อไปได้
ด้วยติดนิสัยขับรถที่ไทย เวลาเข้าวงเวียน เราจะมองขวาและพยายามกระดึ๊บๆ
แล้วรถที่ด้านขวา ที่มีน้ำใจก็จะหยุดหรือชะลอให้ผ่าน เข้าเลนไหนก็ได้ ออกเลนไหนก็ได้ แต่จะมาทำแบบนี้ที่อังกฤษไม่ได้!
เราลองมาแล้ว และเหตุการณ์นั้นทำให้อกสั่นขวัญผวาจนไม่กล้าขับรถไปเลยช่วงนึง นี่คือเรื่องจริง
การขับรถเข้าวงเวียนใน UK ไม่ยาก แต่ต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎที่ถูกต้อง
แต่ก็ทนอยู่ได้ไม่นาน เพราะการมีสามีขับรถพาไปไหนๆ มันก็ดี แต่เค้าก็ไม่ว่างบ้าง เราเกรงใจ กลัวเค้าจะเหนื่อยบ้าง และที่สำคัญเลยคือ อยากไปคนเดียว ดังนั้น ใบขับขี่จึงจำเป็น สำหรับใครที่ย้ายมาอยู่ต่างประเทศระยะยาว ถ้าบ้านไม่ได้อยู่ในเมือง การขับรถได้ ไปไหนมาไหนเองได้ มันจะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นมากจริงๆ
ช่วงนั้น อยู่อังกฤษได้หลายปีแล้ว และใช้ใบขับขี่สากลก็ไม่ได้แล้วด้วย ถ้าอยากขับรถ คือ ต้องสอบใบขับขี่เท่านั้น
อยู่ที่นี่ อยากฝึกขับรถ ก็ขับเลยไม่ได้นะ แล้วถ้ายังสอบใบขับขี่ไม่ผ่าน จะขับรถคนเดียวก็ไม่ได้ด้วย จะต้องมีคนนั่งไปด้วยข้างๆ และคนที่นั่งไปด้วยก็ต้องมีใบขับขี่ด้วย
ถ้าไม่มีใบขับขี่สากล แล้วอยากฝึกขับรถและเตรียมสมัครสอบใบขับขี่ต้องขอ Provisional Driving Licence ก่อน สมัครเองผ่านเวปของ GOV ได้เลย ตามลิ้งค์
ไม่จำเป็นต้องจ้างเอเจ้นท์ให้เสียเงิน เสียทอง เก็บเงินนั้นไว้จ่ายครูสอนขับค่ะ เพราะมันไม่ถูกเลย มุงแงงงงง
พอเราได้ Provisional Driving Licence แล้วก็เตรียมตัวอ่านและฝึกทำข้อสอบ Theory Test หลายคนอาจจะจองวันสอบไว้ก่อนล่วงหน้าก็ได้ จองที่เวป https://www.gov.uk/book-theory-test ได้เลย เลือกสถานที่สอบใกล้บ้าน และจองวันสอบที่เราสะดวก ในเวปจะมีระบุเอกสารที่ต้องเตรียม และค่าสอบไว้อย่างชัดเจนค่ะ
เราไม่ได้จองสอบทันที ตอนนั้นไม่อยากพลาด เพราะถ้าสอบไม่ผ่านก็ต้องจองวันสอบใหม่และเสียค่าสอบอีก จนกว่าจะผ่าน เราเลยไม่รีบจอง ค่อยๆ อ่านและฝึกทำแบบทดสอบจนมั่นใจว่าตัวเองผ่านแน่ๆ ถึงไปสอบ เราสอบผ่านรอบแรกแบบฉลุย เราไม่เก่ง แต่เราฝึกทำแบบทดสอบเยอะจนจำได้
บางคนมีเวลาไม่มากก็จองวันสอบ Theory Test ไปเลย ในระหว่างรอวันสอบ ก็อ่านหนังสือและเรียนขับรถไปด้วย แล้วพอสอบ Theory Test ผ่านแล้วก็จองสอบ Practical Test ต่อเลย หลายคนสอบผ่านนะ เก่งมากๆ เลย
Theory Test หรือ ข้อสอบภาคทฤษฏี จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนที่เป็นคำถามให้เลือกคำตอบ ข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ เวลาในการทำข้อสอบ 57 นาที และต้องตอบถูกอย่างน้อย 43 ข้อถึงจะผ่าน
และ Hazard Perception Test จะเป็นคลิปวีดีโอสั้นๆ เราจะต้องคลิกเม้าท์ ช่วงที่เห็นว่าจะมีอะไรที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ พาร์ทนี้คะแนนเต็ม 75 ต้องทำได้อย่างน้อย 44 คะแนน ถึงจะผ่าน
หลังจากที่สอบ Theory Test ผ่านแล้ว ถึงจะสามารถจองวันสอบ Practical Test ได้นะ และก็จ่ายค่าสอบอีกรอบค่ะ เราเรียนขับรถเกือบ 30 ชม. เพราะติดช่วงโควิดด้วย ปรับนิสัยขับรถไม่ระมัดระวังมาจากที่ไทยด้วย หลายอย่างที่ต้องเรียนรู้ใหม่หมด
วันสอบขับตื่นเต้นมาก เราเลือกเวลาสอบช่วง 10 โมงเช้า มีคนคุมสอบนั่งไปด้วย แต่ครูสอนขับไม่ได้นั่งไปด้วย ใช้เวลาสอบประมาณ 40 นาที ขับถนนปกติเลย ในศูนย์สอบไม่มีสนามสอบขับใดๆ
ระหว่างสอบขับ คนคุมสอบจะถามคำถามเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรถที่ขับ เรียกว่า Show Me, Tell Me Questions. เราก็ขับไปด้วย ตอบคำถามไปด้วย แล้วก็ดู Satnav ดูทางไปด้วย
เราได้ 1 Minor Fault ผ่านทั้งๆ ที่คิดว่าตกตั้งแต่ขับไปได้ 5 นาทีแรกแล้ว เพราะตื่นเต้น อะไรที่เคยทำได้ก็ดันลืม แถมขับเลยทางเลี้ยวไปอีก พอคนคุมสอบบอกว่าผ่านนี่กรี๊ดเลย ดีใจสุดๆ
ตอนสอบใบขับขี่ที่ไทย คือมันง่ายมาก นานมากแล้วแต่จำได้ว่าเรียนขับรถ 2 วัน ตอนนั้นไม่เคยขับรถมาก่อนด้วย วันสอบก็ไม่ได้อ่านอะไรไปล่วงหน้าเลย เข้าฟังอบรมช่วงเช้า แล้วอ่านชีทที่ได้มา 5 นาทีก่อนเข้าห้องสอบ เราได้คะแนนเต็ม แบบเหลือเชื่อ และบ่ายวันนั้นก็สอบปฏิบัติต่อเลย ผ่านแบบงงๆ ความรู้อะไรไม่มีเลย
พอมาสอบใบขับขี่ที่อังกฤษ มันยากกว่ามาก เราเห็นคุณค่าของความยากในการได้มา แล้วมันก็คุ้มค่า เพราะทุกครั้งที่ขับรถ เราพยายามขับด้วยความระมัดระวังมากขึ้น เพื่อให้เราเองปลอดภัย แล้วยังคิดถึงความปลอดภัยของคนรอบข้างด้วย ไม่ว่าจะเป็น คนที่นั่งรถไปกับเรา รถคันอื่นที่ใช้ถนนร่วมกัน และคนเดินถนน
ตอนแรกคิดว่าจะเป็นโพสสั้นๆ เขียนไปไหงกลายเป็นว่ายาวมากซะงั้น ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
ด้วยรัก
เล่าให้ฟังอังกฤษ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
