ทิศทางของระบบ Security ปี 2022 ที่ผ่านมา
สิ่งที่กำลังเป็นทิศทางที่เป็นที่สนใจมากที่สุดคืองานแบบ Hybrid และมีการควบคุมการเข้าถึงจากระยะไกลอันเป็นรูปแบบในด้านความปลอดภัยรูปแบบใหม่ ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและการผสมผสานการทำงานร่วมกับในสถานที่จริงมาตั้งแต่ปี 2020 แล้ว
คนส่วนใหญ่มีความต้องการให้นำทั้งระบบศูนย์ข้อมูลเข้าสู่ระบบ Cloud คนบางส่วนมีความต้องการให้ย้ายเข้าสู่ระบบ Cloud เป็นบางระบบ คนส่วนใหญ่เข้าใจถึงประสิทธิภาพในการควบคุมทางความปลอดภัยของระบบ Cloud ได้ดีแล้ว
เมื่อเกิดการระบาดของโรค องค์กรส่วนใหญ่ปรับตัวเข้าสู่การทำงานแบบ Hybrid และส่วนใหญ่เป็นการทำงานลักษณะเช่นนี้มาถึงปัจจุบัน มีเพียงจำนวนน้อยที่ต้องการกลับไปทำงานเหมือนตอนก่อนเกิดการระบาด
แนวทางที่เด่นชัดคือเกือบทุกองค์กรได้มีการปรับปรุงเทคโนโลยีขององค์กรให้รองรับการทำงานแบบ Hybrid สิ่งที่มีการปรับปรุงมากที่สุดคือ การจัดการการเข้าเยี่ยมชม, รวมถึงการควบคุมและจัดการการเข้าออก, การควบคุมการเข้าถึงที่บูรณาการกับแอปพลิเคชั่นใหม่และไบโอเมตริก รวมทั้งการแก้ปัญหาคุณสมบัติที่ไม่ปลอดภัยโดยใช้การแชร์แพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่น Property Technology ด้วย
สิ่งที่เป็นคำถามสำคัญคือแผนการการจัดการพื้นที่ของเจ้าของสำนักงานหรือผู้เช่า ไม่ใช่ทุกธุรกิจที่จะสามารถมีการทำงานจากระยะไกลได้ทั้งหมด และบางทีการได้ทำงานร่วมกันและการมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันของผู้บริหารและพนักงานก็เป็นผลดีกับธุรกิจเหมือนกัน
ในการทำงานแบบ Hybrid Work ต้องการการปรับปรุงด้านความปลอดภัยให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการทำงาน ในขณะที่พนักงานส่วนหนึ่งตั้งใจจะพึ่งพาโซลูชั่นทางเทคโนโลยี นอกจากนี้การทำงานแบบ Hybrid Work มีผลต่อการตัดสินใจในการเพิ่มหรือการลดขนาดของพื้นที่ในการทำงานขององค์กรด้วย
พนักงานที่ทำงานแบบ Hybrid มักจะกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางกายภาพและทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น การเข้าถึงที่ไม่เหมาะสมและสิ่งที่คาดเดาไม่ได้
นอกจากนั้นพวกเขายังกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางสุขภาพจิตและการขาดการเอาใจใส่เช่นกันกิจการต่างๆเริ่มเห็นความสำคัญของการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย โดยเฉพาะข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ถูกสร้างขึ้นในแต่ละวันรวมถึงกิจกรรมที่ผิดปกติ ตลอดจน Streaming Video ที่ถูกวิเคราะห์ไม่ครบถ้วนในระบบการรักษาความปลอดภัยแบบเดิม
องค์กรต่างๆยังคงพยายามหาวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมด้านความปลอดภัย ทั้งในทางกายภาพเช่นวิดิโอและข้อมูลประกอบในการตรวจจับการบุกรุกเพื่อประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ ปัญหาที่พบคือการขาดข้อมูลในเชิงลึกและเพียงพอรวมถึงการเข้ากันไม่ได้ของแหล่งข้อมูล บางส่วนมีความเชื่อว่าการวิเคราะห์จะช่วยปรับปรุงนโยบายและขั้นตอนด้านความปลอดภัยทางกายภาพ
นอกเหนือจากการได้มาซึ่งข้อมูลด้านความปลอดภัยแล้วองค์กรยังมีเป้าหมายด้านความปลอดภัยทางกายภาพอื่นๆ อีกหลายประการและมีแผนที่จะรวมระบบรักษาความปลอดภัยให้เชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นและทำความเข้าใจกับการใช้งานเทคโนโลยีที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น
ส่วนอุปสรรคในการทำงานด้านความปลอดภัยที่พบมากที่สุดคืองบประมาณ การขาดการเชื่อมโยงด้านความปลอดภัยกับหน่วยงานอื่นและความเข้าใจในโซลูชั่นที่มีอยู่ในปัจจุบัน
นอกจากนั้นยังพบว่าพนักงานจำนวนน้อยแทบไม่ต้องการความปลอดภัยทางกายภาพเนื่องจากพวกเขาอยู่ห่างไกล นอกจากนี้การขาดความเข้าใจเรื่อง ROI (Return of Investment) และการสนับสนุนจากผู้บริหาร
จากข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการทำงานแบบ Hybrid ไม่ได้ทำให้ความจำเป็นทางด้านการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพและการควบคุมการเข้าถึงลดลงเลย ในความเป็นจริงการควบคุมการเข้าถึงมีความจำเป็นในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบ Hybrid มากกว่าเดิมด้วย
การบูรณาการเป็นการรวมการทำงานร่วมกันระหว่างระบบและแอปพลิเคชั่นโดยการแบ่งปันข้อมูลและการผสานรวมกับระบบอื่นและแอปพลิเคชั่นของบุคคลที่สามจะเป็นการขยายการทำงานของแพลตฟอร์มในการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอื่นเพื่อให้มีความเป็นอัตโนมัติและเพิ่มความสามารถทางธุรกิจและประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีขึ้น
ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิตอล ข้อมูลแบบรวมศูนย์ทั้งระบบนิเวศน์ที่ใก้ลจุดปลายสุดที่สุดและมีความพียงพอจะช่วยในการตัดสินทางธุรกิจอย่างสูง
อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในในการนำระบบใหม่ไปใช้งานคือการทำงานร่วมกับระบบเดิม ความสามารถในการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการในการควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพและการรักษาความปลอดภัย เช่นกล้องวงจรปิด, โซลูชั่นในการจัดการข้อมูลการเข้าถึง, แอปพลิเคชั่นการทำงานแบบ Hybrid, แอปพลิเคชั่นในการจัดการการเยี่ยมชม เป็นต้น
เนื่องจากการระบาดใหญ่จึงจำเป็นต้องใช้โซลูชั่นของสมาร์ทโฟนสำหรับควบคุมการลงทะเบียนการเข้าถึงระบบทางเข้าออกต่างๆแบบไม่ต้องสัมผัส เนื่องจากสมาร์ทโฟนมีความปลอดภัยกว่าและมีการจัดการได้งายกว่า
นอกจากนี้สมาร์ทโฟนยังมีความสะดวกและประหยัดต้นทุนโดยไม่ต้องใช้คีย์การ์ด แต่อุปสรรคก็คือข้อมูลประจำตัวสำหรับสมาร์ทโฟนยังไม่ได้มีการผสานรวมอย่างทั่วถึงทั้งองค์กร
การนำระบบ Cloud มาใช้ก็มีความสำคัญต่อการรักษาความปลอดภัยและมีความทันสมัยมากขึ้น ระบบ Cloud มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมการเข้าถึง โดยการใช้ระบบ Cloud ยังช่วยให้สามารถทำงานร่วมกันกับแอปพลิเคชั่น Cloud อื่นๆ ได้ง่ายขึ้นตั้งแต่วันแรก
ในมุมขององค์กรนั้นมองว่าการจัดการระยะไกลและการควบคุมการเข้าถึงผ่านสมาร์ทโฟนมีคุณค่ามากที่สุด ตามมาด้วยการทำงาน, การอับเดตซอฟต์แวร์, และความปลอดภัยในระบบไซเบอร์ของผู้ให้บริการระบบ Cloud ส่วนคุณค่าอันดับสามในมุมของผู้ใช้บริการคือประโยชน์ของการควบคุมการเข้าถึงบน Cloud ในด้านการรักษาความปลอดภัยที่ส่งผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับความท้าทายทางด้านความปลอดภัยที่ผู้บริหารให้ความสำคัญสูงสุดสามอันดับแรก คือการป้องกันการสูญหายและการโจรกรรม การฝึกอบรมพนักงาน และการปฏิบัติตามข้อกำหนดโดยเคร่งครัด
ระบบที่มีความสำคัญต่อความปลอดภัยขององค์กรต้องอยู่บนแพลตฟอร์มการควบคุมการเข้าถึงบน Cloud ที่แข็งแกร่ง การเปิดใช้งานการทำงานแบบ Hybrid ที่เหมาะสม มีการให้ข้อมูลในเชิงลึกที่นำไปใช้งานได้จริงเพื่อการตัดสินใจในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลทั่วทั้งระบบนิเวศขององค์กร ระบบอัตโนมัติ การจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ นอกจากนั้นยังควรมี API แบบเปิดที่สามารถรวมเข้ากับแอบพลิเคชั่นได้ไม่จำกัด ตลอดจนการให้ความสำคัญกับบุคคล พนักงานมีการทำงานร่วมกันได้ดีและมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีเช่นกัน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
