11 ม.ค. 2023 เวลา 11:05 • ข่าวรอบโลก
ฮิปโปในโคลอมเบีย!!! เรื่องราวเตือนใจเกี่ยวกับอันตรายจากการลักลอบนำเข้าสายพันธุ์เอเลี่ยน
1
เมื่อเรานึกถึงโคลอมเบีย เราอาจจินตนาการถึงป่าฝนเขียวชอุ่ม วัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา และเมือง Bogota ที่พลุกพล่าน แต่มีอีกด้านหนึ่งของประเทศในอเมริกาใต้นี้ที่คุณอาจคาดไม่ถึง นั่นคือฮิปโป ใช่แล้ว โคลอมเบียเป็นบ้านของประชากรฮิปโปดุร้ายที่เพิ่มมากขึ้น และการปรากฏตัวของฮิปโปดุร้ายเหล่านี้ก็เป็นเครื่องเตือนใจถึงอันตรายของการนำสัตว์ต่างถิ่นเข้ามาในระบบนิเวศ
1
จุดเริ่มต้นแห่งความหายนะของระบบนิเวศโคลอมเบีย
ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นในทศวรรษที่ 1980 และ 1990 เมื่อ Pablo Escobar เจ้าพ่อยาเสพติดชื่อกระฉ่อนลักลอบนำเข้าฮิปโปหลายตัวมายัง The Hacienda Napoles สวนสัตว์ส่วนตัวของเขาเพื่อเสริมบารมีในฐานะสัตว์เลี้ยงหายาก หลังจากการเสียชีวิตของ Escobar ในปี 1993 ฮิปโปเหล่านี้ก็ถูกทิ้งให้หากินด้วยตัวเอง
แต่ปัญหาเริ่มเกิดขึ้นเมื่อฮิบโปบางส่วนหลุดออกมาจากสวนสัตว์ดังกล่าวและเริ่มขยายพันธ์ในแหล่งน้ำธรรมชาติ เริ่มมีรายงานยการพบเห็นฮิปโปในเมือง Puerto Triunfo และเมืองข้างเคียง ทุกวันนี้มีฮิปโปดุร้ายประมาณ 80-100 ตัวอาศัยอยู่ในหุบเขาแม่น้ำ Magdalena ของโคลอมเบีย และจำนวนประชากรของพวกมันก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักวิชาการประมาณการว่าภายในหนึ่งช่วงทศวรรษ ฮิปโปอาจเพิ่มจำนวนได้มากถึง 700 ตัวเลยทีเดียว
เพราะฮิปโป ดุดัน ไม่เกรงใจใคร
ด้วยความอ้วนกลม ดูปลอดภัยทำให้ประชาชนส่วนมากอาจจะคิดว่าการพบฮิปโปในแม่น้ำไม่น่าจะก่อปัญหาอะไรมากมาย แต่ความจริงก็คือฮิปโปเหล่านี้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อระบบนิเวศในท้องถิ่นและเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์และสัตว์อื่น ๆ เปฮิปโปเป็นสัตว์ที่ดุร้ายมาก พวกมันทำลายพืชผล โจมตีเรือ และนำโรคมาสู่ปศุสัตว์ที่ชาวโคลอมเบียเลี้ยงไว้
พวกฮิปโปเริ่มทำลายระบบนิเวศในท้องถิ่นด้วยการกินพืชมากเกินไปและต่อสู้กับสัตว์พื้นเมืองเพื่อแย่งชิงทรัพยากรและที่อยู่อาศัย ฮิปโปโตเต็มวัยตัวเดียวสามารถกินพืชได้มากถึง 150 ปอนด์ในหนึ่งวัน เมื่อมีฮิปโปกว่า 100 ตัวอาศัยในแม่น้ำของเมืองต่างๆ ความเสียหายต่อระบบนิเวศจึงเพิ่มเป็นทวีคูณ
ทางออกหนึ่งที่ทางรัฐบาลโคลอมเบียเสนอคือการอนุญาตให้มีการล่าฮิปโปอย่างยั่งยืนในพื้นที่ แต่ก็พบกับความขัดแย้งและการต่อต้านมากมาย นอกจากนี้ยังมีการเสนอทางเลือกอื่น เช่น การทำหมัน การย้ายถิ่นฐาน หรือแม้แต่การสังหารบางตัวทิ้ง แต่ยังไม่ได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมมากนัด
สถานการณ์นี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพิจารณาผลกระทบระยะยาวของการนำสัตว์ต่างถิ่นเข้ามาในระบบนิเวศ เป็นการเตือนใจว่าการกระทำของคนๆ หนึ่งอาจส่งผลที่กว้างไกลและไม่ได้ตั้งใจ และเป็นการเรียกร้องให้เรารับผิดชอบต่อการกระทำของเราและหาทางแก้ไขก่อนที่จะสายเกินไป
1
โฆษณา