12 ม.ค. 2023 เวลา 13:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

📊REIT & INFRA FUND โดดเด่นในปี 2566

✅โดดเด่นในปี 2566
👉กองทรัสต์ REIT และ IFF ภายใต้การวิเคราะห์ของเรา คาดว่าจะฟื้นตัวในปี 2565 (+15.3% YoY) จากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 กองทรัสต์ในกลุ่ม transport IFF และ retail REIT เป็นสองกลุ่มย่อยที่ทำให้กองทรัสต์ REIT และ IFF เติบโต
👉ขณะเดียวกัน กองทรัสต์ในกลุ่ม industrial REIT และ telco IFF เป็น 2 กลุ่มย่อยที่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ในแง่ของกำไรปกติ หากมองไปข้างหน้าในปี 2566 เรายังคาดว่ากองทรัสต์ REIT และ IFF จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก
1) การเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าและกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
2) GDP ของไทยเติบโต 3.2% และ 3.7% ในปี 2565 และ 2566
3) การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยกลยุทธ์การออกตัวอย่างราบรื่น (smooth take-off) ของ ธปท.
✅ผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ในเชิง YTD อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อยู่ที่ 3.53% (+202bps) และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี TH อยู่ที่ 2.64% (+74bps) Gap เป็นบวกที่ 89bps เราเชื่อว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดที่ประมาณ 4.3% ในเดือน ต.ค.2565 และของไทยที่ประมาณ 3.4% ในเดือน พ.ค.2565
👉เรามองว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และ ไทย อายุ 10 ปี ในปี 2566 น่าจะยังอยู่ในระดับสูงจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อที่สูง
แต่คาดว่าน่าจะกดดันการประเมินมูลค่าของกองทรัสต์ REIT และ IFF เพียงเล็กน้อย เนื่องจากเราคาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้แตะระดับสูงสุดไปแล้ว ทั้งนี้ เราคาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี ณ สิ้นปี 2566 จะอยู่ที่ประมาณ 2.7-3.0% จาก
1) การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ช้าลงของธนาคารสหรัฐฯ (เฟด) ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย
2) การเติบโตของ GDP ไทยในปี 2566
3) การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท แบบค่อยเป็นค่อยไป
👉ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน จนถึงขณะนี้ ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (yield spread) ของ SETPREIT อยู่ที่ 3.39% (เทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 3.41%) ขณะเดียวกัน ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของ SETIFF ภายใต้การวิเคราะห์ของเราอยู่ที่ 5.98% (เทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 5.22%)
เราเข้าใจว่าส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของ SETPREIT ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยน่าจะมาจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ขณะที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของ SETIFF ข้างต้นน่าจะเกิดจากราคาที่ร่วงลงจากการปรับสมดุลผลตอบแทนของนักลงทุน
✅มุมมองที่เป็นกลาง เราคงมุมมองที่เป็นกลางต่อกลุ่ม โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของโมเมนตัมกำไรปี 2566 (+8.5% YoY) และอัตราตอบแทนเงินปันผลที่น่าดึงดูดใจมากขึ้นภายใต้การคาดการณ์ของตลาดที่ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะช้าลงและเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญกับภาวะถดถอย
👉อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงจะทำให้ความน่าดึงดูดใจของอัตราผลตอบแทนของกองทรัสต์ REIT และ IFF ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับพันธบัตรรัฐบาล และความยากลำบากในการได้มาซึ่งทรัพย์สินใหม่จากการระดมทุนใหม่ หุ้นเด่นของเรา คือ ALLY
เปิดพอร์ตลงทุน >> https://bit.ly/3eC98sz
⛳️Follow us :
📲 Facebook: http://bit.ly/2XwGoaa
📲 Instagram: http://bit.ly/332OqIT
📲 Twitter: http://bit.ly/344OVng
📲 YouTube: http://bit.ly/2QAdiFp
#KS #KBankLive
โฆษณา