กฎในการไหว้พระจันทร์
เทศกาลไหว้พระจันทร์มีมาอย่างยาวนานและแพร่หลาย ในหลายๆประเทศ และแต่ล่ะที่ก็มีการจัดงานที่แตกต่างกันไปตามความเชื่อ ตามยุคสมัย
แต่สำหรับครอบครัวผม ตะกูล มูนไลท์ ซึ่งเป็นตะกูลเก่าแก่กว่า 200 ปี ที่บรรพบุรุษของผมได้สร้างขึ้น
จากที่ผมทราบมา ประวัติศาสตร์ของตะกูลจะถูกเล่าเป็นรุ่นสู่รุ่น ทั้งแบบปากต่อปาก และแบบที่มีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร และเป็นสิ่งที่ผู้นำตะกูลทุกรุ่นต้องจดบันทึกเล่าเรื่องของตนเองไว้ให้รุ่นต่อๆไปอ่าน
และอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้นำตะกูลทุกคนต้องทำคือ เข้าร่วมพิธีของเทศกาลไหว้พระจันทร์ โดยจะเริ่มตรงกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ของปกติสากลได้เลย แต่ธรรมเนียมปฏิบัติจจะแตกต่างกันกับที่อื่นอย่างสิ้นเชิง เพราะมันมีกฎที่จะต้องทำตาม
อย่างเคร่งครัดและห้ามลืมทำโดยเด็ดขาด
จากบันทึกของผู้นำตะกูลรุ่นแรกได้เขียนไว้คือ ตะกูลของเราก่อตั้งมาจากการที่ท่าน ได้ไปวิงวอนขอพรจากพระจันทร์ด้วยพิธีกรรมโบราณบางอย่าง ซึ่งเป็นพิธีกรรมนอกรีตที่ไม่มีที่มาที่ไป ในตอนแรกท่านก็ไม่ได้เชื่อหรอก เพราะตัวเองก็เป็นแค่กรรมกรแบกหามใช้แรงงานเยี่ยงทาส แค่บังเอิญไปเจอหนังสือพิธีกรรมที่ว่าจากการถูกจ้างไปรื้อถอนบ้านขุนนางเก่าแก่แห่งหนึ่งในสมัยนั้น ท่านเห็นว่าหนังสือมันน่าสนใจดีจึงได้ทำการเก็บกลับมาด้วย เพราะอย่างไรก็ไม่มีใครสนใจหนังสือเก่าๆอยู่แล้ว
และท่านเองก็ลองทำตามเล่นๆดู โดยจัดพิธีตามหนังสือขอวิงวอนให้ตนเองมีฐานะดีขึ้น มีชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง ที่ไม่มีวันใช้หมดทั้งชีวิต เมื่อจบพิธีกรรม ท่านก็ไม่ได้ใส่ใจและลืมไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะท่านต้องตื่นเช้าไปแบกหามตามเดิม
เมื่อเวลาล่วงเลยมา 7 วัน เช้าวันที่ 8 อยู่ดีๆท่านก็เดินไปกุญแจทองตกอยู่โดยบังเอิญ ตนจึงเก็บและไปนำส่งให้กับทหารเฝ้าประตู เมื่อทหารเห็นกุญแจนั่นก็รีบแจ้งท่านเจ้าเมืองว่าเจอกุญแจห้องเก็บสมบัติแล้ว หลังจากนั้นท่านเจ้าเมืองก็ตอบแทนท่านโดยการยกที่ดินให้ส่วนหนึ่งเป็นรางวัล
มันเป็นที่รกร้างและไม่มีใครคิดจะเข้าไปบุกเบิก ถึงแม้จะอยู่ข้างเมืองแต่ก็รกเกินกว่าจะไปทำอะไรให้เกิดประโยชน์ เพราะมันไม่คุ้มค่าที่จะไปบุกเบิก เมื่อท่านได้รับที่ดินตรงนั้น ท่านก็ไปบุกเบิกและไปเจอกับทรัพย์สมบัติมากมายที่ฝังในดิน ท่านจะร่ำรวยขึ้นมา และทำธุรกิจเล็กๆ แต่ธุรกิจนั้นก็ทำกำไรได้มหาศาล และไม่ว่าท่านจะทำอะไรก็มักจะประสบความสำเร็จ ไม่เคยล้มเหลว ไม่เคยเจออุปสรรคใดๆ เวลาผ่านไปเพียง 3 เดือนจากกรรมกรจนๆกลับร่ำรวยขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐี ด้วยความที่ประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจอย่างมาก
ท่านเจ้าเมืองจึงเสนอให้ท่านไปช่วยงานกษัตริย์ที่เมืองหลวง เมื่อท่านไปช่วยด้านธุรกิจที่เมืองหลวงก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งยศขึ้นเป็น บารอน ถึงแม้จะเป็นยศต่ำสุดในยศขุนนาง แต่จากสามัญชนชั้นกรรมกร ได้มาถึงระดับนี้นับว่าโชคดีและคุ้มอย่างมาก
เมื่อเวลาผ่านไปเกือบครบปี ที่เทศกาลไหว้พระจันทร์จะวนมาถึง ท่านก็ได้ฝัน ว่ามีคนใสชุดคลุมดำไม่เห็นหน้าตามาบอกว่าถึงเวลาต้องทำตามธรรมเนียมปฏิบัติของสาวกผู้ซื่อสัตย์ต่อพระจันทร์แล้ว ในฝันชายคนนั้นยื่นกฎแปลกๆมาให้ เมื่อท่านอ่านแล้วจำได้จนหมด ท่านก็สะดุ้งตื่น ใันนั้นเหมือนจริงมาก ท่านได้รีบบันทึกกฎที่จำได้ลงในหนังสือ เพื่อกันลืม และเป็นกฎที่ต้องปฏิบัติสืบต่อๆกันมาดังนี้
กฎในการไหว้พระจันทร์
กฎข้อที่ 1 เมื่อเทศกาลไหว้พระจันทร์วนมาถึง ทุกๆปีคุณต้องปิดบ้านให้สนิท ล็อดทุกประตูและหน้าต่าง หน้าต่างก็ต้องปิดม่านลงให้หมด ปิดให้หมดอย่าให้มีแสงใดๆเล็ดลอดผ่านเข้ามาในตัวบ้านของคุณได้ และดับไฟลงให้หมดทำให้มืดที่สุด
กฎข้อที่ 2 ผู้ที่เป็นผู้นำของบ้าน ( ชื่อผู้ที่เป็นเจ้าของในโฉนดที่ดินและบ้าน ) จะต้องเลือกคนในบ้านมาร่วมทำการไหว้พระจันทร์ด้วย 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ออกมายังนอกตัวบ้าน หลังเวลา 2 ทุ่มตรงเป็นต้นไป แต่ไม่ควรเกิน 5 ทุ่มตรง
กฎข้อที่ 3 ( ปรับปรุงใหม่ ) ให้ทั้ง 3 คนมาทำพิธีที่ลานหลังบ้าน โดยสิ่งที่ต้องเตรียมคือ เกลือจำนวนมาก ขนมไหว้พระจันทร์ (เป็นขนมอะไรก็ได้) ไวน์แดง 1 ขวด
กฎข้อที่ 4 นำเกลือ วาดเป็นวงกลมล้อมทั้ง 3 คนเอาไว้ ขั้นตอนนี้สำคัญมาก อย่าให้เกิดช่องว่างระหว่างวงกลมเด็ดขาด นำขนมไหว้พระจันทร์วางบนแท่นบูชาที่เตรียมไว้ และเปิดไวน์แดง วางไว้ด้วย
กฎข้อที่ 5 เมื่อทำครบแล้ว ให้ทุกคนหลับตาลงให้สนิทและคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้
กฎข้อที่ 5.1 หากได้กลิ่นคาวเลือด ผู้นำ ต้องลืมตาขึ้นและรีบมองหาที่มาของกลิ่นคาวเลือดให้เจอ หากเจอซากสัตว์หรืออะไรก็ตามที่เป็นต้นตอ ให้รีบเอาเกลือไปโรยให้กลบกลิ่นซะ และรีบกลับเข้ามาในวงกลม
กฎข้อที่ 5.2 หากได้ยินเหมือนเสียงแก้วหรือกระจกแตก
ผู้หญิง ต้องลืมตาขึ้น ถ้าไม่พบสิ่งใดแตกให้รีบหลับตาลงต่อไป หากพบกระจกแตกให้เดินไปเก็บเศษกระจกมาชิ้นหนึ่งและกลับเข้ามาหลับตาในวงกลม แต่หากพบเห็นขวดไวน์แตกให้รีบบอกทุกคนวิ่งหนีกลับเข้าบ้านให้ไวที่สุด
กฎข้อที่ 5.3 หากได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังเรียก ผู้ชาย ต้องลืมตาขึ้นและตะโกนออกไปว่า ไสหัวไปซะ ให้ดังสุดเสียง ตะโกนได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้นโปรดตะโกนให้ดังที่สุด
หมายเหตุ หากเผลอตะโกนเกิน 1 รอบให้ทุกคนรีบหนีเข้าบ้านโดยเร็วที่สุด
กฎข้อที่ 5.4 หากหลับตาลงไปแล้วผ่านไป 5 นาที ไม่มีดังที่กล่าวมาข้างต้นให้ลืมและกลับเข้าบ้านได้
หมายเหตุ คุณควรตั้งนาฬิกาปลุกก่อนหลับตาไว้ จะได้ไม่ลืมตาก่อนเวลาหรือหลังเวลาดังกล่าว
กฎข้อที่ 5.5 หากระหว่างที่หลับตาอยู่มีลมพัดกรรโชกแรง ให้ทุกคนลืมตาและสังเกตให้ดีว่าเกลือถูกพัดออกหรือไม่ หากเกลือโดนพัดออกจนไม่ต่อเป็นวงกลม ให้รีบวิ่งหนีเข้าบ้านโดยเร็วที่สุด
กฎข้อที่ 6 ( ปรับปรุงใหม่ ) ไม่ว่าพิธีกรรมจะเป็นเช่นไร เมื่อเข้ามาในบ้านแล้วต้องล็อคประตูให้แน่นหนา และ โปรดอยู่รวมกันให้เงียบที่สุด ควรเลือกห้องที่ใกล้ที่สุดเมื่อเข้ามาภายในตัวบ้าน และล็อคห้องให้ดี
กฎข้อที่ 7 เมื่อเวลามาถึง เที่ยงคืนตรง คุณจะได้ยินเสียงประตูทุกบานในบ้านรวมถึงห้องที่คุณอยู่ปลดล็อคเอง แต่อย่าได้ตกใจไป เพราะประตูยังคนล็อคดีอยู่ทุกบาน ดังนั้นอย่าคลายล็อคเพื่อล็อคใหม่เด็ดขาด เพราะถ้าคลายล็อคไปแล้วจะไม่สามารถล็อคได้อีก
กฎข้อที่ 8 ไม่ว่าเวลานั้นจะมีใครมาเคาะประตูหรือหน้าต่าง หรือได้ยินเสียงอะไร ห้ามออกจากห้องนั้นโดยเด็ดขาด
หมายเหตุ มีแต่ผู้ที่ร่วมพิธีเท่านั้นที่จะพบเจอเรื่องประหลาด แต่คนอื่นๆในบ้านก็ห้ามออกนอกห้องหรือปลดล็อคประตูตั้งแต่เที่ยงคืนตรงเป็นต้นไป และห้ามเปิดไฟหรือจุดเทียนหรือสิ่งใดที่ทำให้เกิดเเสงในคืนนั้นเด็ดขาด
กฎข้อที่ 9 เมื่อเวลาเดินมาถึง ตี 1 ให้คนที่เข้าร่วมพิธีทุกคน ออกจากห้องที่อยู่ในขณะนั้น และย้ายไปยังห้องอื่นภภายใน 10 นาที
กฎข้อที่ 10 ระหว่างการเปลี่ยนห้อง มีโอกาสสูงมากๆ ที่เมื่อออกจากห้องเดิมคุณจะพบกับทางเดินที่ยาวมากๆที่มองไม่เห็นปลายทาง ให้คุณหันหลังเเละเดินถอยหลังจนกว่าจะถึงห้องถัดไป
หมายเหตุ ถ้าคุณไม่หันหลังเดินคุณจะเดินไม่ถึงห้องถัดไปเพราะคุณจะเดินอยู่กับที่
หมายเหตุที่สอง มีโอกาสเพียงเล็กน้อยมากๆที่คุณจะโชคดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คุณก็ยังต้องเปลี่ยนห้องอยู่ดี
กฎข้อที่ 11 เมื่อถึง เวลา ตี 2 ให้คุณเปลี่ยนห้องอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้จะต่างจากครั้งแรก และต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้
กฎข้อที่ 11.1 หากออกจากห้องมาพบหญิงชราที่แต่งตัวคล้ายแม่มด ให้ ผู้หญิง พาเธอไปส่งให้ถึงหน้าประตูรั้ว และรีบกลับเข้ามาในบ้านและไปยังห้องที่กำลังจะไปในตอนแรก
กฎข้อที่ 11.2 หากออกจากห้องมาเจอชายชราถือไม้เท้า ให้ผู้ชาย พาเขาไปส่งห้องแรกที่คุณอยู่ เมื่อเขาเข้าไปแล้วปิดประตูลง ให้คุณรีบไปยังห้องที่ไปจะทันที ไม่ว่าเขาจะเปิดประตูมาเรียกอีกครั้งก็อย่าหันหลังกลับโดยเด็ดขาด
กฎข้อที่ 11.3 หากออกจากห้องมาไม่พบเจออะไร ให้ผู้นำ กลับออกไปยังลานทำพิธีหลังบ้านและเก็บเอาเกลือบนพื้นมา 1 กำมือ และกลับไปในบ้าน เอาเกลือที่กำมา ปาใส่หน้าห้องล่าสุดที่พึ่งออกมา และรีบเข้าไปยังห้องต่อไปทันที
กฎข้อที่ 12 เมื่อเวลามาถึง ตี 3 จะเป็นช่วงที่อันตรายที่สุด ผู้นำจะต้องจุดเทียนขึ้นมา 1 เล่ม และออกจากห้องไป คนที่อยู่ให้ล็อคห้องให้ดี
กฎข้อที่ 13 เมื่อผู้นำออกมาอยู่นอกห้องพร้อมเทียนแล้ว ให้ผู้นำ เดินไปห้องสมุด และค่อยหาสมุดที่สันเป็นสีแดง หลังจากนั้นให้เผาทิ้งด้วยเทียนในมือ
หมายเหตุ หนังสือทุกเล่มในห้องสมุดจะไม่มีเล่มไหนสันปกสีแดง หากเป็นปกแดงก่อนจะเก็บจะทำการแปะเป็นกระดาษสีขาวที่สันปกเสมอ
กฎข้อที่ 14 หากผ่านค่ำคืนของพิธีกรรมไหว้พระจันทร์ไปได้ ในทุกๆคืนจากวันพิธีกรรม ผู้นำและคนในบ้านทุกคนต้องออกมาแก้ผ้าอาบน้ำท่ามกลางเเสงจันทร์ ทุกคืน เป็นเวลา 7 คืน
หมายเหตุ ไม่จำเป็นต้องอาบพร้อมกัน แต่ทุกคนต้องออกมาอาบทุกคืนและทุกคน
หมายเหตุที่สอง ผู้นำตะกูลรุ่นแรกเตรียมลานหลังบ้านที่ใช้ประกอบพิธีกรรมและอาบน้ำตั้งแต่แรก จึงทำให้หลังบ้านมีการต่อเติมให้สูงและมิดชิด เพื่อไม่ให้มีใครมาแอบดูได้
กฎข้อที่ 15 ทุกคนในบ้านจะได้รับการคุ้มครองจากพระจันทร์เสมอ หากคืนไหนไม่มีพระจันทร์ปรากฎ (คืนเดือนมืด) อย่ากลับบ้านดึกและอย่าอยู่ในที่มืดนานเกิน 10 นาที เพราะจะทำให้ตกเป็นเป้าหมายของพวกที่มาออกล่า
ผมที่ได้อ่านผมว่ามันก็ดูออกจะไร้สาระเกินไป ตะกูลของผมคนเป็นพวกคลั่งลัทธิบ้าบอจนขึ้นสมอง ขนาดพ่อของผมเองก็เป็นไปกับเขาด้วย ดีนะผมไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่ยังเด็ก ไม่งั้นมีหวังคงได้เข้าร่วมพิธีแปลกๆพวกนี้แน่ นี่พ่อผมก็พึ่งจะเสียไปเมื่อเดือนก่อน คฤหาสน์หลังนี้จึงเป็นมรดกตกทอดมาถึงผม และกิจการธุรกิจมากมายมูลค่ารวมๆกว่าพันล้าน ก็ตกมาที่ผมเพียงคนเดียว
ผมเป็นคนเดียวที่ยังคงใช้นามสกุล มูนไลท์ ขนาดแม่ของผมหลังจากที่พ่อเสียก็เปลี่ยนใช้นามสกุลเดิมและขอกลับไปอยู่ที่บ้านตายายเลย คนรับใช้ และคนอื่นๆก็ต่างออกไปกันหมด
แต่ผมไม่แคร์หรอก ดีซะอีก ผมจะได้บริหารทุกอย่างอย่างเงียบๆในคฤหาสน์ส่วนตัวสุดหรู
โอะจริงสิ สัปดาห์หน้าก็ถึงวันเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว ดูเหมือนผมต้องหาคู่เดทซักหน่อยล่ะ
1 เดือนต่อมา
ต่อไปเป็นรายงานข่าวสุดช็อค สะเทือนวงการธุรกิจ ธุรกิจในเครือ มูนไลท์ คอเปอเรชั่น หุ้นตกกว่า 95% เนื่องจากการโจมตีทางการตลาดออนไลน์ของบริษัทคู่แข่ง และยังมีการพบว่าสินค้าและผลิตภัณฑ์จากเครือบริษัทต่างไม่ได้มาตราฐานในหลายๆล็อต จึงทำให้มีการเรียกคืนสินค้าและสูญเงินมหาศาล ทายาทเพียงคนเดียวของ มูนไลท์ คอเปอเรชั่น ก็หายตัวไปร่วมเดือน ในตอนนี้ยังไม่อาจติดต่อได้ หากมีความคืบหน้าทางสำนักข่าวจะเเจ้งให้ทราบโดยทันที
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
