14 ม.ค. 2023 เวลา 06:27 • นิยาย เรื่องสั้น

เรื่องเล่าในอดีตของเด็ก 15 ที่หนีออกจากบ้าน

เมฆได้นั่งคุยกับคนๆนึง ที่อายุน่าจะประมาณ 25-26 ปี เขาพูดกับเมฆด้วยใบหน้ายิ้มๆ แต่สายตาเปี่ยมไปด้วย ความสับสน งุนงง? และมี ความกังวล อยู่ในแววตานั้น
เขาเล่าให้เมฆฟังว่า....
ตอนที่เขาทำงานครั้งแรก เขาอายุได้เพียง 15 ปี เขาหนีออกจากบ้านเพราะรู้สึกว่าบ้านเป็นเหมือนคุก
ที่บ้านเขาไม่เคยให้ออกไปเที่ยวไหน จะไปไหนก็ต้องมีเวลากลับ มีรายงานกลุ่มไปทำร่วมกับเพื่อน ก็ต้องตั้งเวลาว่าจะเสร็จกี่โมง จะกลับตอนไหน
ซึ่งที่บ้านจะเป็นคนกำหนดเวลาให้ 1-2 ช.ม. เท่านั้น และต้องกลับให้ตรงเวลา ถ้าเลทหรือสาย ก็จะโดนทำโทษโดยการโดนด่า หรือหนักกว่านั้นคือโดนตี
แล้ว 1 อาทิตย์จะออกไปได้แค่ 1 วัน เท่านั้นไม่มีข้อต่อลอง
เขาใช้เวลาวัยเด็กอยู่กับต้นมะขามหลังบ้านเท่านั้น โดยที่ไม่มีเพื่อนมาเล่นด้วยเหมือนคนอื่นๆ จนอายุได้ 13 ปี
ก็ถูกให้ออกจากโรงเรียนดรอปเรียน 1 ปี แล้วไปต่อใหม่ กศน.ตอนอายุ 14 ปี หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเกเรมาเรื่อย
ได้มาเจอเพื่อนใหม่ หลอกที่บ้านว่าไปทำรายงานแต่จริงๆหนีไปเที่ยว ช่วงแรกที่บ้านก็ยังตามแจ ตามเฝ้าจนจบแล้วรับกลับ
หลังๆมาเขาก็เริ่มมาคนเดียว ขับรถมาเอง โดยไม่ให้ที่บ้านมาตามเฝ้าแล้ว
จนผ่านไปอายุได้ 15 ปี ตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เพื่อ ไปทำงาน ซึ่งมนตอนนั้น งานที่ทำได้ก็คืิอเด็กเสิร์ฟ ร้านเหล้า ข้างทาง ที่มีรุ่นพี่ที่เรียนด้วยกันแนะนำมา
วันแรกที่ทำงานก็ต้องชงเหล้า ซึ่งแน่นอนว่าอายุ 15 ปี ยังไม่เคยผ่านงานมาแล้วมาเจองานนี้ ใครจะทำเป็นหล่ะ
แต่ก็มีพี่ที่ร้านคอยสอนงาน คอยแนะนำลูกค้าให้ ให้ไปนั่งเล่น นั่งคุยกับแขก กินเหล้ากับแขก
ความเด็กในตอนนั้น ก็โดนลูกค้าหลอกให้กินไปหลายแก้ว แต่ไม่รู้เพราะอะไร ถึงไม่รู้สึกว่าเมาเลย กลายเป็นแขกสะอีกที่เมาไปก่อน เพราะชงทีเหมือนกินเพียว
โชคดีที่ไปทำวันแรกก็ได้ทิปมา ประมาณ 500 บาท ในตอนนั้น 500 ก็ถือว่า เยอะสำหรับเด็กที่หนีออกมาจากบ้านครั้งแรก
เสร็จงานตอนเช้าก็ขอให้พี่ที่พาเราหนีเมื่อวานขับรถมาส่งที่บ้าน คนที่บ้านเห็นก็ไม่มีใครพูดกับเขาเลยซักคน
เขาเองก็ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่เอาเงินที่ได้เมื่อวาน ยัดใส่หนังสือที่ยายเปิดอ่านประจำ เอาเงินค่าแรงครั้งแรก ใส่ไว้ในนั้น
และหยิบกุญแจรถเวฟ100คันแดงออกมา ซึ่งรถยางมันรั่วและ ไฟก็เสีย ไม่สามารถขับกลางคืนได้
แต่เขาต้องใช้รถในการทำงาน เลยต้องจำใจเอามันมาซ่อม
เสียค่าเปลี่ยนยางไป 120 บาท
แต่ไฟรถไม่ได้เปลี่ยนเพราะเงินยังไม่มี เลยต้องใช้แบบนั้นไปก่อน
วันที่ 2 ของ การทำงาน เราก็ทำงานปกติ วันที่ 2 ลูกค้าน้อยเลยได้ทริปแค่ 300 บาท หลังจากเสร็จงานจากร้าน ก็กลับไปนอนพักห้องที่อยู่กันก็จะอยู่รวมกัน 5-6 คน เป็นห้องไม้เก่าๆโทรมๆ อยู่ไม่ไกลจากร้านเท่าไหร่ เดินข้ามถนม 4 เลนไปก็ถึงแล้ว
และนั่นก็ทำให้รู้ว่าเขาอยู่ในกลุ่มของเพื่อนขี้ยา.....
เพราะหลังจากกลับจากทำงานตัวเขาเองก็จะนอน แต่เพื่อนๆพี่ๆเขาก็ดันพา เพื่อนคนอื่นเข้ามามั่วสุ่มกันอีก 2-3 คน
แถมยังชวนเขาร่วมวงด้วย แต่เขาก็ปฎิเสธไป เพราะ ตัวเขาเอง ไม่ชอบ อย่างเก่งแค่กินเหล้าสูบบุหรี่ ก็เกินพอแล้ว
ยังดีที่คนพวกนั้นไม่ได้บังคับหรือยัดเหยียดให้เขา
คืนนั้นเขาก็หลับไปพร้อมกับ ควันหลงที่ตอนนั้นเขาเองก็ไม่รู้ว่า มันมีโอกาสที่จะโดนจับเช่นกัน
เช้าตื่นมาเขาก็ยังเห็นคนพวกนั้นนั่งเล่นกันอยู่เป็นกลุ่ม บางคนก็นัวกัน แต่ก็มีพี่ที่ร้านคอยสอนงาน ผช.หลายคนใน กลุ่มนั้น ยิ้มทักทายเขา แต่เขาก็ยิ้มให้ตามมารยาท เพราะไม่ได้ สนิท และไม่ได้อยากสุงสิงด้วย
เขารีบอาบน้ำ แต่งตัวและกลับบ้านเหมื่อนอย่างเคย
ยังดีที่เขายังสามารถกลับบ้านได้ และที่บ้านไม่ได้ห้ามเขา แต่้ป็นตัวเขาเองที่เลือกทางเดินนั้น ถึงแม้จะโดนว่าโดนแขวะ อยู่บ่อยๆ
พอถึงเวลาเย็นๆ เขาก็จะกลับไปทำงานที่ร้านอีก แต่ก็มีสายหนึ่งโทรเข้ามาจากไหนไม่รู้
ปลายสายเป็นเสียงผู้ชาย " พี่ฟ้าให้โทษมาบอกว่าวันนี้ไม่ต้องมาทำงาน และก็ไม่ต้องกลับห้องด้วย เมื่อกี้ตำรวจลงที่หอ เข้าใจไหม?"
เขาตอบรับไปแบบ งงๆ? แต่ก็ไม่ได้โทรกลับไปเพราะเสียงปลายสายเหมืิอนหอบๆ อาจจะกำลังวิ่งหนีอยู่
แต่จะทำไงได้ สุดท้ายก็ต้องกลับมานอนบ้านก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน...
เรื่องเล่านี้เล่าจากชีวิตจริงๆ นะคะ
ไม่มีการแต่งเติมใดๆ
(อาจมีผิดเพี้ยนไปบ้าง เพราะอิงจากความทรงจำ และประสบการณ์ตรงของผู้เล่า)
โฆษณา