14 ม.ค. 2023 เวลา 16:52 • ประวัติศาสตร์

ธนู อาวุธเด็ดมองโกล

เจงกิส ข่าน ผู้นำอาณาจักรมองโกลผู้ทำสงครามขยายอาณาจักรไปอย่างกว้างขวาง สังหารชีวิตผู้คนไปมากกว่า40ล้านชีวิตตลอดการครองราชย์ของเขา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากองทัพของเขาคือส่วนสำคัญในความยิ่งใหญ่นี้ และไม่มีสิ่งใดสำคัญสำหรับกองทัพมากไปกว่า ม้า และ ธนู
3
สำหรับชนเผ่าในทุ่งหญ้าสเตปป์ในเอเชียกลางนั้น การเรียนรู้ที่จะขี่ม้าและยิงธนูถือเป็นสิ่งพื้นฐานที่ชาวเผ่าทุกคนต้องเรียนรู้เพื่อเอาชีวิตรอดในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ ทั้งสองสิ่งเปรียบเสมือนอวัยวะในร่างกายของพวกเขาก็ไม่เชิง
ชนเผ่ามองโกลมีทักษะในการเป็นทหารตั้งแต่ยังแบเบาะ ทุกคนในเผ่าไม่ว่าหญิงหรือชายจะต้องขี่ม้าและยิงธนูตั้งแต่ยังแบเบาะ เมื่อโตขึ้นมานิดหน่อย เด็กผู้ชายจะเรียนรู้มวยปล้ำซึ่งเป็นทักษะการต่อสู้ระยะประชิด
เด็กน้อยและพ่อของเขากำลังขี่ม้า photo:Ayan Travel Mongolia
ธนูเป็นอาวุธช่วยป้องกันเผ่าจากอันตราย ม้าช่วยในเรื่องการทำปศุสัตว์เพื่อการเลี้ยงชีพ มวยปล้ำใช้เป็นกีฬาหรือการป้องกันตัว
เมื่อพวกเจงกิส ข่านรวบรวมชนเผ่ามองโกลและจัดตั้งกองทัพขึ้น กองทัพของเขาเต็มไปด้วยทหารที่น่าเกรงขามเพรียบพร้อมไปด้วยทักษะการสงคราม ทหารของทุกคนมีทักษะการขี่ม้าอันดีเลิศ มีความแม่นยำในการยิงธนูอันดีเยี่ยม บวกกับร่างกายที่แข็งแรงจากการฝึกมวยปล้ำ องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้กองทัพมองโกลบุกฆ่าศัตรูตายราวกับใบไม้ร่วง
ทหารทุกคนจะพกธนูติดตัวไว้สองถึงสามคัน ทั้งทหารม้าและทหารราบ เมื่อพวกเขาอยู่ในสนามรบ พวกเขาจะระดมยิงธนูไปยังศัตรูอย่างไม่หยุดหย่อนทั้งทหารราบและทหารม้า ทำให้ศัตรูไม่มีเวลาได้หยุดพัก อีกหนึ่งยุทธวิธีที่มองโกลใช้คือ นำทหารม้าออกไปล่อศัตรูให้ไล่ตามพวกเขาและแกล้งทำเป็นหนี
ศัตรูที่เห็นอย่างนั้นก็ฮึกเหิมและไล่ตามอย่างไม่ลดละ ในขณะที่หนีทหารม้าก็จะระดมยิงศัตรูที่ตามมาเรื่อยๆทำให้ศัตรูเริ่มเสียกำลังไปทีละนิดๆ เมื่อศัตรูเห็นว่าเป็นกับดักก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะพวกเขาเหนื่อยหอบเต็มที หนีไปไหนไม่ได้ ทหารม้าจะวกแถวกลับมาไล่ข้าศัตรูที่แตกทัพอย่างสนุกสนาน
ความน่ากลัวของธนูมองโกลคือมันมีความคล่องตัวในการใช้อย่างสูงไม่ว่าจะยืนยิงหรือขี่ม้าก็ไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลงเพราะมันมีความสั้นพกพาสะดวก ธนูมีแรงดึงเฉลีย 60-70กิโลกรัม หากนึกไม่ออกว่าหนักขนาดไหนลองนำหนังยางหลายเส้นๆ หรือยางออกกำลังกายที่บอกน้ำหนักไปผูกไว้กับเสาและใช้มือดึงหนังยางกลับมาให้ถึงกกหู แรงดึงที่มากขนาดนี้ส่งผลให้ลูกธนูพุ่งไปได้ไกลทำให้ได้เปรียบศัตรู ในบันทึกเสาหินของเจงกิส ข่านได้ระบุไว้ว้า เยสุเก ลูกชายของเจงกิส ข่าน ได้ยิงธนูเข้าเป้าด้วยระยะทางถึง 530เมตร!!!!
ทหารมองโกลทุกนายมีความแม่นยำในการยิ่งธนูทั้งบนพื้นและบนม้า เหล่าข้าศัตรูจึงสูญเสียเป็นอย่างหนักเมื่อทำสงครามกับกองทัพมองโกล
การทำธนูใช้เวลานานหลายเดือนหรือปี เริ่มด้วยการนำไม้ไผ่มาเหลาให้เป็นทรงและความยาวที่ต้องการ นำเขาจามรีมาประกบด้านหลังของไม้ไผ่เพื่อเสริมความแรงของธนู บดเอ็นข้อเท้าสัตว์สี่ขาและต้มจนนิ่ม จากนั้นนำหุ้มทั้งด้านหน้าและด้านหลังของธนูเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ใช้กาวจากกระเพาะปลาต้มเคลือบให้ทุกอย่างติดกัน ปล่อยธนูทิ้งไว้จนแห้ง นำธนูที่แห้งแล้วมาตรวจสอบความสมบูรณ์
การยิงธนูแบบมองโกลนั้นใช้นิ้วโป้งในการยิง เพราะรวดเร็ว และเพื่อป้องกันไม่ให้นิ้วโป้งบาดเจ็บเขาจามรีจึงถูกนำมาเหลาเป็นแหวนสำหรับนิ้วโป้ง
*References*
> Истории об истории, Монгольский лук: совершенное оружие грозных кочевников, 25 августа 2018,Dzen:
> Peter, The Fearsome Mongolian Horse Archers,Outdoor Oddity:
โฆษณา