15 ม.ค. 2023 เวลา 01:42 • ความงาม

ทำตาสองชั้นแบบตัวแม่ที่ InZ Clinic

👁️👄👁️✨ โนสปอน
หลังจากเป็นนางแค้นที่ตัวเองตาเล็ก เครื่องมือถ่างตาหลุดตอนทำเลสิค จริง ๆ ควรทำตาให้โตก่อนทำเลสิคด้วยซ้ำ ༎ຶ⁠‿⁠༎ຶ กับอีกเหตุผลคือโดนบูลลี่เรื่องตากับจมูกมาทั้งชีวิต ตั้งแต่สมัยเรียนโดนเพื่อนล้อว่า "ง่วงก็ไปนอน" ครูชอบดุเวลาเรียน หาว่าเราหลับ หรือไม่ก็เพื่อนร่วมงานชอบถามเวลากินข้าวว่า "ข้าวไม่อร่อยหรอ" ไม่ก็ "ดูเบื่อ ๆ เหมือนเบื่อตลอดเวลา/ หน้าดูเศร้าจัง" หัวหน้าเรียกคุย หาว่าเวลาสอนงานดูไม่ตั้งใจ ดูง่วง สาระพัดสาระเพ
ทั้งหมดนี้อยากจะตอบกลับไปว่า อ๋อ หน้าหนูเป็นแบบนี้อยู่แล้วค่ะ นี่คือหน้าปกติ ไม่ได้มีอารมณ์อะไรทั้งนั้นแหละ (⁠ ⁠⚈̥̥̥̥̥́⁠⌢⁠⚈̥̥̥̥̥̀⁠) หลายคนน่าจะโดนเหมือนกัน พูดจนขี้เกียจพูด
ว่าแล้วก็หาคลินิกที่น่าเชื่อถือ หาอ่านรีวิวหลาย ๆ คลินิก ศึกษาทุกอย่างเกี่ยวกับทำตาสองชั้น ทักไปถามราคาคลินิกแต่ละที่ ทั้งที่ไทยและเกาหลี แต่เกาหลีรู้สึกจะเกินศักยภาพในการจ่ายของเราไปหน่อยเลยเล็งอีกที่นึงก็คือ InZ Clinic เราแอบดูรีวิว แล้วก็ปักธงที่นี่ไว้ตั้งแต่ปี 2019 แล้วแต่ตอนนั้นการงานยังไม่มั่นคงเลยเก็บไว้ในใจ + กับแม่บอกให้ไปทำเลสิคก่อน เพราะค่าสายตาเยอะแล้วเลยเก็บเงินทำเลสิคก่อน
ตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะเป็นหมอจักษุแพทย์เลย น่าจะชำนาญการด้านตาโดยเฉพาะ เลยคิดว่าน่าจะปลอดภัยสุด เพราะดวงตาเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เกิดอะไรขึ้นมาจะแย่ และจากที่ดูรีวิวว่า ที่นี่ทำออกมาเป็นธรรมชาติ ฟีลเกิดมาก็ตาแบบนี้เลย ไม่โป๊ะ ไม่หอยแคลง เราอยากได้ชั้นตาเล็ก ๆ แบบสาวเกาหลี
ทักไลน์ถามราคาเรียบร้อย แต่ตอนถามคือยังไม่มีเงิน... อยากรู้ราคาก่อน จะได้เก็บเงิน พอเก็บเงินครบก็ตัดสินใจจ่ายมัดจำเรียบร้อย นัดวันผ่าตัด
วันผ่าก็คือบินกลับมาไทยวันนั้นก็ผ่าวันนั้นเลย... สู้มาก
ก็เข้าไปพบคุณหมอก่อน ทำการปรึกษาว่าต้องทำอะไรบ้าง อยากแก้ไขตรงไหน แล้วคุณหมอก็จะทำชั้นตาขึ้นมาให้ดูว่าอยากได้ชั้นตาประมาณไหน ถ้าทำแล้วจะออกมาเป็นยังไง
ก่อนทำเป็นคนตาเล็ก ตาสองชั้นหลบใน เพราะหนังตาเยอะ ตาตกแบบ lazy eye lazy ใจ แต่งตา เขียนอายไลเนอร์คือหายไปหมด เป็นท้อ ไม่อยากแต่งหน้าแล้ว
คุณหมอแนะนำดีมาก ๆ ตอนแรกจะต้องปรับกล้ามเนื้อตาด้วย แต่เรฟที่เราเอาไปให้ดูไม่จำเป็นต้องปรับกล้ามเนื้อตา เพราะนางแบบในรูปก็ lazy eye (อ้าวสรุปเราชอบแบบนี้สินะ) และช่องว่างระหว่างตากับคิ้วแคบอยู่แล้ว ถ้าปรับจะแคบกว่าเดิม คุณหมอเลยไม่แนะนำ แล้วเราขอชั้นตาแบบเล็ก ๆ แบบของเดิมที่เรามี แค่ให้มันเห็นชัดขึ้น แล้วหนังตาไม่ไปบังชั้นตาเรา แต่เพราะหน้าเรายาว เลยแนะนำให้เปิดหัวตากับหางตาเพื่อให้สมมาตรกับใบหน้า
สรุปก็คือกรีดยาว ตัดหนังตาส่วนเกินออก เปิดหัวตาและหางตา
สรุปราคาออกมา บวกกับค่ายา และต้องโบท็อกซ์หน้าผาก เพราะติดเลิกคิ้ว เลยจำเป็นต้องฉีด ไม่งั้นตอนพักฟื้นแผลปริแน่ กดเครื่องคิดเลข เอ่อ... เกินงบ เป็นเครียด ตังค์ไม่พอ แม่ให้ยืมเงินไปหนึ่งกรุบ บอกไหน ๆ ก็มาแล้วก็ทำ ๆ ไปให้จบ ๆ ตกลงก็เตรียมตัวผ่าเลย
ถามว่าตื่นเต้นมั้ย ก็คือไม่ตื่นเต้นเลย เพราะเครียดเรื่องเงินมากกว่าเรื่องผ่า /ปาดเหงื่อ
ทำการล้างหน้าล้างตา ใส่เสื้อผ่าตัดพร้อม ขั้นตอนเหมือนก่อนทำเลสิคเป๊ะ ขอข้าม
เจ็บสุดก็คือตอนฉีดยาชา แล้วเป็นคนที่ยาชาเข้าไม่ค่อยถึงด้วย เลยต้องเพิ่มหลายเข็ม (อันนี้รู้ตอนไปถอนฟันแล้วหมอฟันบอกว่าที่เป็นคนชายากเพราะกระดูกหนา กระดูกใหญ่ ฉีดไม่ค่อยเข้า) เจ็บตัวไปอีกกก หมอก็จะกรีดไปถามไปว่าเจ็บมั้ยตลอด ต้องคอยเพิ่มยาชา แต่คุณหมอค่อย ๆ ทำอย่างปราณีตมาก เข้าไปตอนสี่โมง ออกมาจากห้องผ่าหกโมงเย็น เลือดออกไม่เยอะ แต่บวมง่ายมาก หลังผ่าตัดก็เข้าไปอีกห้องเพื่อฉีดโบท็อกซ์แล้วก็นั่งประคบตาสักพักแล้วค่อยกลับบ้าน
สภาพคือลืมตาไม่ได้เลย บวมมาก ๆ จนหมอสงสารให้ยาจีนมาเพิ่มฟรี ๆ บวมไปสามวัน ตรงแผลกรีดชั้นตาไม่ค่อยเจ็บ จะไปเจ็บก็ตรงหัวตากับหางตา ซึ่งมันจะเจ็บแบบยิบ ๆ แสบ ๆ คัน ๆ แต่ทำไรไม่ได้ต้องทน กินยาให้ครบ ทายาให้ครบ อัดใบบัวบก น้ำฟักทองหมดลัง จนค่อย ๆ ยุบ
ตอนนี้ผ่านมาเดือนกว่า ๆ แล้ว แต่ยังมีรอยแผลตรงหัวตากับรอยพับยังเห็นชัดอยู่ หลังทำคนที่ทำงานทักว่าตาหวานขึ้น ตาใหญ่ยาวขึ้น เข้ากับหน้ามาก ๆ ทำเนียนจนคนอื่นดูไม่ออกว่าทำตามา
สภาพตาแต่ละวัน 👀
โฆษณา