-ไปเจอบทสัมภาษณ์ของ PEOPLE Magazine ทำให้ผมกลับมามองอัลบั้มนี้เปลี่ยนไป ด้วยคาแรคเตอร์และแนวทางของงานชุดนี้ที่รู้แล้วว่าทำไมถึงออกมาวาไรตี้ แตกต่างจากงานเพลงของศิลปินหญิงอาร์แอนด์บีทั่วๆไปที่มักจะวนกับ slow jam, Jazz และฮิปฮอป ซึ่งอยู่ในสับเซ็ทของ black music เนี่ยแหละ มู้ดแอนด์โทนก็มักจี่กับประเด็นความรักแบบส่วนตัวอย่างที่เราคุ้นเคย โดย Solána Imani Rowe (a.k.a SZA) ระบุในบทสัมภาษณ์ของ PEOPLE ไว้ว่า
-การเบรคด้วย Love Language เป็นการเคารพธรรมเนียมของอาร์แอนด์บีในแง่ของการเผยแพร่ความ slow jam แบบเฉพาะของดนตรีคนดำ เผยให้เห็นด้านแห่งการประนีประนอมและอยากได้ความชัดเจนที่ตรงไปตรงมามากกว่านี้ หมวด trap pop ร่วมสมัยก็มีในเพลง Used ที่ได้ Don Toliver มาร่วมแชร์ความรู้สึกการถูกคนเมินเฉยภายใต้โลกอันแสนเย็นชา ถูกหลอกใช้ไม่ต่างจากทาสสมัยก่อน บางทีความด้านชาทางความรู้สึกอาจเป็นคำตอบในการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เป็นภัย
-Smoking on my Ex Pack เป็นการโชว์แร็ปด้วยท่าทีสุดชิวล์ เป่าอดีตรักเพื่อการมูฟออน ซึ่งมีจุดนึงที่เหน็บ Drake ที่ครั้งนึงเธอเคยออกเดตด้วยเมื่อนานมาแล้ว แต่คิดว่าทั้งคู่ปล่อยผ่านไปแล้ว ถ้าใครยังจำเพลง Mr. Right Now ที่ Drake ไปแจมกับ 21 Savage ได้ มันจะมีอยู่ท่อนนึงที่เสี่ยเดรค flex ว่า เคยออกเดตกับ SZA เมื่อปี 2008 จนสร้างความฮือฮาในแบบที่แฟนเพลงฮิปฮอปไม่ยักกะรู้มาก่อน ซึ่งต่อมา SZA ก็แอบแซวว่า เธอจำปีผิดค่ะ ปี 2009 ต่างหาก ซึ่งก็เป็นแค่การแซว ไม่มีอะไรขัดแย้งต่อจากนี้
-ส่วนท่อนฮุกถ้าใครสังเกตดีๆ มีการแปลงวลีเด็ด Smoking on yo' top five tonight ของ Kendrick Lamar ในเพลง family ties ด้วย ถือเป็นการ diss แบบขำๆ ก่อนที่จะไปเจอคลื่นแห่งความหลากหลายต่อจากนี้
-ยังดีที่ความอคลูสติค-บัลลาดป็อปของเพลง Nobody Gets Me และ Special เหมาะเจาะกับการเป็นเพลงหลักที่ทำหน้าที่เติมเต็มอัลบั้มนี้ได้ดีกว่า ด้วยรสดราม่าเจ้าน้ำตาที่สอดคล้องกับตีมหลักของอัลบั้มนี้ที่ว่าด้วยการไม่มูฟออนจากคนเก่าซะส่วนใหญ่
-โดยเพลงแรกมีกลิ่นอายคันทรี่ป็อปคล้ายๆ Taylor Swift พอสมควร เป็นการคิดถึงคนเก่าหนักมาก เกิดความเสียดายที่ครั้งนึงได้ฝ่ายชายถึงขั้นคุกเข่าหมั้นหมาย แต่เนื่องด้วยอาชีพศิลปินที่เดินสายออกทัวร์ เวลาไม่ตรงกันจนต้องแยกทางในที่สุด สำหรับ Special เป็นความน้อยเนื้อต่ำใจที่โดนคนรักผลักไส เอาตัวเองเทียบกับคนอื่นจนด้อยค่าเป็น loser เสียเอง
-Too Late เป็นป็อป-อาร์แอนด์บีที่ catchy แลดูอ่อนโยนกว่าเพลงอื่นๆ ประหนึ่งเป็นการพยายามกลับไปสานสัมพันธ์ความรักที่พังยับเยินอีกครั้งด้วยความหวังที่ริบหรี่เกินกว่าที่จะกลับตัวได้ Far เป็นความพยายามวิ่งหนีจากอดีตที่ไม่สุกสมหวัง โดยมีคำแนะนำจากท่านโยคี Sadhguru เป็นจุด spark ในช่วงอินโทรของเพลงนี้
Top Tracks : SOS, Kill Bill, Seek & Destroy, Low, Blind, Used, Snooze, Gone Girl, Smoking on my Ex Pack, Nobody Gets Me, Special, Too Late, Open Arms, I Hate U, Good Days, Forgiveless