สลิปโอนเงินและข้อความจากแชท ถือว่าเป็นหลักฐานในการกู้ยืมเงินหรือไม่
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 การกู้ยืมเงินกว่าสองพันบาทขึ้นไป ถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืม เป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
หลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินเป็นหนังสือ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบของเอกสารที่เป็นสัญญาเสมอไป
แต่ต้องมีสาระให้เห็นว่ามีการกู้ยืมเงินกัน มีหนี้สินต้องชำระให้แก่กันก็เพียงพอ (คำพิพากษาฎีกาที่ 6138/2556)
พรบ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544 มาตรา 7 ห้ามมิให้ปฏิเสธความมีผลผูกพันและการบังคับใช้ทางกฎหมายของข้อความใดเพียงเพราะเหตุที่ข้อความนั้นอยู่ในรูปข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
มาตรา 8 ภายใต้บังคับบทบัญญัติมาตรา 9 ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้การใดต้องทำเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือ หรือมีเอกสารมาแสดง ถ้าได้มีการจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึงและนำกลับมาใช้ได้ โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง ให้ถือว่าข้อความนั้นได้ทำเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือหรือมีเอกสารมาแสดงแล้ว
ซึ่งเคยมีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8089/2556 วินิจฉัยไว้
การที่จำเลยนำบัตรกดเงินสดไปถอนเงินและใส่รหัสส่วนตัวเสมือนลงลายมือชื่อตนเอง ทำรายการถอนเงินตามที่จำเลยประสงค์และกดยืนยันทำรายการพร้อมรับเงินสดและสลิป การกระทำดังกล่าวจึงถือเป็นหลักฐานการกู้ยืมเงินจากโจทก์ ทั้งจำเลยขอขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้สินเชื่อเงินสดที่จำเลย ค้างชำระแก่โจทก์ซึ่งมีข้อความชัดว่า จำเลยรับว่าเป็นหนี้โจทก์ ขอขยายเวลาชำระหนี้ โดยจำเลยลงลายมือชื่อท้ายเอกสารมาแสดง จึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานแห่งการการกู้ยืมได้
ปล.สลิปโอนเงินอย่างเดียว ยังไม่เพียงพอที่จะเป็นหลักฐานในฟ้องร้องคดีนะคะ ต้องมีข้อความจากแชทประกอบด้วย
#กู้ยืม #กู้ยืมเงิน #หลักฐานการกู้ยืมเงิน #ปรึกษาปัญหากฎหมาย #ทนายชโลธร
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
