21 ม.ค. 2023 เวลา 02:09 • ไลฟ์สไตล์

ตรุษจีนแล้วจ้าาาา

อันว่าตรุษจีนหรือปีใหม่จีนใกล้มาแล้วครับ วันที่ลงโพสต์นี้น่าจะเป็นวันไหว้ด้วย
พอใกล้เทศกาลนี้ จะสังเกตเห็นได้ว่า บรรดาร้านค้าบ้านเรือนของคนไทยเชื้อสายจีนก็จะมีการทำความสะอาดกันยกใหญ่ ทำกันจนสะอาดเอี่ยม เรียกว่าเหนื่อยทั้งคนงานกับเจ้าของบ้านไปตามตามกัน
แต่พอเงยหน้ามองผลงานที่ทำเสร็จแล้ว เออ ดีจัง สะอาดดี ดูแล้วชื่นใจจริง
ตรุษจีนถือเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตามปฏิทินทางจันทรคติของจีน ถือเอาว่าสิ้นปีต้องไหว้เทวดาเจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษ อวยพรผู้ใหญ่ แจกอั่งเปาให้ลูกหลานกับคนงานเป็นขวัญถุงหรือโบนัส แล้วก็มีการสังสรรค์ทานอาหารร่วมกันของญาติพี่น้องลูกหลานกันอย่างชื่นมื่น
เนื่องจากส่วนใหญ่คนจีนจริงๆไม่ค่อยมีวันหยุดมากมายอะไรนัก จึงมักจะอาศัยช่วงนี้หยุดยาวกันไป บางทีสมัยก่อนก็ราว8-9วัน ปัจจุบันมักจะไม่เกิน4วัน บางที่แค่วันเดียวก็มี หยุดเป็นเคล็ดตามธรรมเนียมมากกว่าจะหยุดจริงจัง
ตรุษจีนในเมืองจีนนี่เป็นงานใหญ่มากๆ คล้ายกับวันสงกรานต์ที่ต้องกลับบ้านที่ต่างจังหวัดหรือฝรั่งที่รวมญาติกันในวันคริสต์มาสกันเลยล่ะครับ รถราเครื่องบินหรือว่าเรือนี้แน่นกันไปหมด ต้องจองล่วงหน้ากันยาวๆไว้ก่อน
ที่มาของตรุษจีนทุกท่านคงพอจะทราบกันมาบ้างจึงจะเล่าแบบคร่าวๆว่า สมัยโบราณมีสัตว์ประหลาดที่เรียกกันว่าเหนียนออกอาละวาดในช่วงตรุษจีน ชาวบ้านเดือดร้อนกันมาก แล้วมีคนคิดจุดประทัด จุดไฟและติดยันต์สีแดงเพื่อจะไล่ตัวเหนียนไป ปรากฎว่าทำได้จริงๆ ตัวเหนียนหายไปเลยนับตั้งแต่นั้น ชาวบ้านเลยนิยมจุดไฟ จุดประทัดกับใช้สีแดงมาเป็นธรรมเนียมเพื่อเสริมมงคลช่วงนี้ไปเลยครับ
cr. google ตัวเหนียนที่ว่า
เรื่องนั้นก็ว่ากันตามตำนาน ส่วนตัวคิดเอาเองว่าแต่เดิมคนจีนคงจะมีวันฉลองปีใหม่ตามแต่ความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น พอมารวมกลุ่มกันได้น่าจะมีคนคิดว่าใช้ช่วงตรุษจีนที่เป็นรอยต่อของฤดูหนาวต่อกับใบไม้ผลิที่เมืองจีนมานับเป็นช่วงสิ้นปีและต้อนรับปีใหม่ดีกว่า ชาวบ้านตามท้องถิ่นต่างๆเลยถือเหมือนๆกันไปจนมาถึงปัจจุบันนี้
วันตรุษจีนจะนับวันไหนนั้นขึ้นอยู่กับปีปฏิทินทางจันทรคติของปีนั้นๆครับ บางปีก็จะเร็ว บางปีก็จะช้า อย่างปีนี้(2566)ก็จะเร็วกว่าปีที่แล้วราวๆ1อาทิตย์ แล้วปีหน้าก็จะค่อยๆเลื่อนไปเรื่อยๆกลายเป็นเดือนกุมภาพันธ์ตามปฏิทินสากล
การคำนวณวันผมไม่มีความรู้จริงๆ อาศัยเปิดปฏิทินจีนอย่างเดียวครับ แล้วก็กะคร่าวๆเอาว่าปีนั้นปีนี้น่าจะเป็นวันไหนมากกว่า
พอเรารู้คร่าวๆว่าเดือนไหนวันไหนก็จะเริ่มทำความสะอาดร้านค้าบ้านช่องกันให้เรียบร้อยก่อนที่จะถึงตรุษจีน
ก่อนจะถึงวันก็จะมีการไหว้ส่งเจ้าที่บ้านกลับสวรรค์ นัยว่าไปรายงานเทพยดาก่อนว่าบ้านนี้บ้านนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ก่อนไปคนจีนจะไหว้ของหวานหรือน้ำตาลเลยก็ได้ให้เจ้า แล้วจากนั้นก็จะเริ่มทำความสะอาดศาลเจ้าในบ้านให้เรียบร้อย
ก่อนถึงวันตรุษจีน2วันจะเรียกว่าวันจ่าย หมายถึงจับจ่ายใช้สอยซื้อของมาทำมาไหว้ มักจะเป็นซาแซหรือโหงวแซ ซึ่งคือไหว้ของคาวหวาน3อย่างหรือ5อย่างอันได้แก่ ไก่ เป็ด หมู ปลา กุ้ง หมึกหรือไข่ไก่ก็ได้ ถือเป็นอาหารมงคล นอกจากนั้นก็จะมีผลไม้ ขนมต่างๆอย่างปุยฝ้ายหรือขนมเข่ง ส่วนขนมเทียนเป็นของไทยครับ ไม่ไหว้ก็ได้
cr. sanook
ถัดมาคือวันไหว้ วันไหว้ก็ไหว้เจ้ากันช่วงเช้าและทานอาหารร่วมกันในครอบครัว ตอนกลางคืนราว5ทุ่มก็จะเริ่มไหว้รับไฉ่สิ่งเอี้ยเข้าบ้านกัน มักจะไหว้ของเจ ขนมอี๊ ผลไม้ก็ส้ม ลักษณะนี้ขอเทียบว่าใกล้เคียงกับคริสต์มาสอีฟของทางฝรั่ง ส่วนที่ว่าไหว้ตอน5ทุ่มไม่ใข่เที่ยงคืนเป็นเพราะคนจีนในไทยจะนับเวลา5ทุ่มเป็นเวลาเริ่มต้นวันใหม่ครับ
เช้าวันถัดมาจึงจะเป็นวันตรุษจีนจริงๆคือเป็นวันเจียง่วยชิวอิกหรือวันที่1เดือน1ตามปฏิทินจีน ถือเป็นวันหยุด จะไม่มีการทำอะไรทั้งสิ้น ไม่ทำอาหาร ไม่เก็บกวาดทำความสะอาดใดๆ รวมทั้งต้องพูดจาให้ดี ไพเราะ เป็นมงคล แต่ทั่วไปในไทยจะเรียกว่าวันเที่ยว คนไทยเชื้อสายจีนจะใช้วันนี้ตระเวณไหว้เจ้าไหว้พระ เยี่ยมญาติผู้ใหญ่ เอาส้มมาเปลี่ยนกัน
การอวยพรทั่วๆไปก็ซิงเจียหยู่อี่ ซิงนี้ฮวกไช้ อันหมายถึงขอให้ปีใหม่นี้มีโชคมีชัยสมความปรารถนาที่ตั้งใจไว้ แต่ถ้าอวยพรให้ผู้อาวุโสก็จะเปลี่ยนประโยคหลังเป็นซิงนี้คิงเกี่ยง อันหมายถึงขอให้ท่านมีสุขภาพดี
จบวันเที่ยวก็หยุดต่อ นั่นคือการพักผ่อนอย่างแท้จริงครับ เหนื่อยมาหลายวันแล้ว
แล้วหลังจากนั้นในวันที่4ตามปฏิทินจีนก็จะไหว้รับเจ้ากลับลงมาจากสวรรค์กลับมาบ้านเรา แล้วเปิดร้านค้าขายกันต่อเป็นอันครบเทศกาลตรุษจีน
ร่ายยาวมานี้เป็นการฟื้นความจำเรื่องตรุษจีนที่เคยเห็นและปฏิบัติต่อกันมาตั้งแต่ผมยังละอ่อน เห็นบ่อยเข้าก็จำได้ว่ามีอะไรบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าจะจำได้หมดเพราะยังต้องอาศัยถามป๊าม้าอยู่เสมอ ซึ่งม้ามักจะบอกว่าก็ไหว้ตามอาม่า เคยไหว้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ไม่ต้องมากเกินหรือน้อยจนเกินไป เอาแต่ตามสมควรตามกำลังที่มี
ผมเรียกเอาเองว่าไหว้แบบเอสเอ็มอี
อาหารที่จะไหว้เดี๋ยวนี้ก็เปลี่ยนไปเยอะ ไหว้ไก่เคเอฟซีก็ได้ หมูแผ่นก็ได้ หมึกสควิดดี้ก็โอเค ขนมเค้กแทนขนมปุยฝ้ายก็ไม่ผิดอะไร ไม่ได้เคร่งครัดเหมือนสมัยก่อน
เปลี่ยนแปลงบ้าง ปรับกันบ้าง ไม่ใช่เรื่องใหญ่
มีท่านผู้รู้หลายท่านเคยบอกว่า การไหว้เจ้าจีนนั้น ไม่จำเป็นต้องมีของมากมายก่ายกอง มีเพียงลูกอม1เม็ดหรือไม่มีอะไรเลยก็ได้ กำลังของแต่ละคนไม่เท่ากัน ขอแต่เพียงมีใจมุ่งมั่นศรัทธาที่จะไหว้เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว เจ้าท่านรับรู้ได้
อันนี้ชอบครับ เห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม ผมยังตื่นเต้นกับตรุษจีนอยู่ แม้ว่าส่วนหนึ่งมาจากการเคยได้รับอั่งเปาในช่วงเทศกาลนี้ก็ตามที แต่จริงๆแล้วผมยังคงเห็นเทศกาลนี้เป็นเรื่องสำคัญและศักดิ์สิทธิ์อยู่
เจ๊เคยคุยเล่นๆว่าคนจีนไหว้เจ้าใหญ่ๆไม่กี่เทศกาลหรอก แต่ไหว้เยอะหน่อยและไหว้เป็นอาหารเป็นส่วนมาก เรื่องของเรื่องน่าจะเป็นเพราะปกติคนจีนมักประหยัดในทุกๆเรื่อง ไม่กินไม่ใช้ พอถึงเทศกาลก็เลยเอามาใช้บ้าง แล้วซื้อเป็นของกิน มันอิ่มท้องดี เก็บไว้กินได้หลายๆวัน เป็นกุศโลบายที่ดีอย่างหนึ่ง
จริง อันนี้เห็นด้วยเหมือนกัน
ไหว้เสร็จแล้วก็นั่งกินอาหารร่วมกันพร้อมหน้า
ญาติมาเยี่ยมก็ทำให้รู้จักกันอีกชั้นเพิ่มความกลมเกลียวกันในหมู่ญาติพี่น้อง
ชุมชนคนจีนในสมัยก่อนแม้ถึงตอนนี้ไหว้เสร็จก็มีการแบ่งปันให้ผู้อื่นใกล้บ้านเรือนเคียงหรือไม่ก็แบ่งปันให้ผู้ยากไร้ แสดงถึงการมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันนั่นเอง
ชอบจริงเทศกาลนี้...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา