17 ม.ค. 2023 เวลา 07:58 • ธุรกิจ

เคยสังเกตไหมว่าทำไมภาพยนตร์ฮอลลีวูดจึงมีบทพูดน้อยลงกว่าเดิมมาก

อุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าฮอลลีวูดนั้นคือเจ้าตลาดตัวจริงเสียงจริง ทั้งจากรายได้ที่มี ดาราแม่เหล็กที่มีค่าตัวแสดงนำเพียงเรื่องเดียว ก็มากกว่าบริษัทขนาดกลางๆทำรายได้รวมกัน 10 ปี รวมถึงกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้อง ก็ล้วนแล้วแต่มีอุตสาหกรรมภาพยนตร์จากฮอลลีวูดเป็นแกน
Credit: The Times
ย้อนไปในช่วงที่เกิด Subprime crisis หรือวิกฤติแฮมเบอเกอร์ในสหรัฐอเมริกา ระหว่างปี ค.ศ. 2007-2008 ที่เป็นวิกฤตสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่มีเครดิตต่ำ ถึงแม้ว่าจะลุกลามกระจายไปทั่วโลกก็จริง แต่หลักๆแล้วผลกระทบส่วนมากก็ส่งผลกับคนอเมริกันโดยตรง
ทำให้ช่วงเลานั้นผู้คนก็ต่างลดค่าใช้จ่ายลงไป ความบันเทิงโดยการไปชมภาพยนตร์ก็เป็นตัวเลือกแรกๆ ส่งผลกระทบต่อภาพย์ที่ผลิตมาจากฮอลลีวูดแทบที่ไม่เติบโตเลย ณ ช่วงเวลานั้น ในสหรัฐอเมริกา
Credit: Read Nigeria Network
แต่กลับพบว่ารายได้จากต่างประเทศมีการเติบโตที่สูงกว่ามาก โดยในช่วงปี ค.ศ. 2006-2011 อุตสาหกรรมภาพยยนต์ของฮอลลีวูด เติบโตถึง 35% ซึ่งไม่รวมรายได้ในทวีอเมริกาเหนือเข้าไปด้วย สัดส่วนรายได้ของในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ 31/69
ดังนั้นฮอลลีวูดจึงหันมาให้ความสำคัญกับตลาดต่างประเทศมากขึ้น ด้วยการวิเคราะห์ตลาดและใช้วิธีที่สามารถถึงลูกค้าได้ด้วย 3 กลยุทธ์ คือ
1. ปรับเปลี่ยนกลยุทธการทำการตลาดทั้งหมด เพื่อให้เข้าถึงผู้ชมทั่วโลกได้ง่าย
1.1. เน้นการสร้างภาพยนตร์แนวแอ๊คชั่น
1.2. เพิ่มเทคนิคการถ่ายทำที่ดูแหวกแนวและตื่นเต้นมากขึ้น
1.3. ลดความซับซ้อนของบทภาพยนต์ เพื่อจะได้ลดอุปสรรคด้านการสื่อสารในการชมภาพยนต์ลงไปให้มากที่สุด
1.4. ลดบทพูดลงไปโดยใช้การสื่อสารด้วยการแสดงออกมาทางภาษากายเพิ่มขึ้น
Credit: Frame.io Insider
2. ปรับเปลี่ยนนโยบายในการทำการตลาดในต่างประเทศมากขึ้น
2.1. เจรจากับรัฐบาลประเทศจีน ด้วยการเพิ่มภาพยนตร์ที่มีเทคนิคการถ่ายทำแบบพิเศษด้วยระบบไอแมค อีก 14 เรื่อง จากเดิมที่อนุญาตให้เข้าฉายได้ 20 เรื่อง รวมเป็น 34 เรื่อง/ปี
Credit: Pinterest
2.2. ทำตลาดเพิ่มขึ้นในประเทศอินเดีย โดยการนำภาพยนตร์เข้าไปฉายให้มากขึ้น ทำให้ตลาดอินเดียเติบโตได้ถึง 10% และมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
2.3. ทำตลาดในประเทศอื่นๆ ด้วยการสร้างสตูดิโอและเปิดสาขาในต่างประเทศเป้าหมายเพิ่มขึ้น
3. ใช้กลยุทธการร่วมลงทุน เราจะเห็นได้ว่ามีภาพยนต์จำนวนมากที่มีการร่วมทุนระหว่างค่ายหนังยักษ์ใหญ่กับค่ายหนังในประเทศจีน อย่างเช่นเรื่อง Pacific Rim สามก๊ก ศึกผาแดง (The Red Cliff) ทำให้มีจำนวนภาพยนต์เข้าฉายเพิ่มขึ้นได้อีกในประเทศจีน ทั้งยังสามารถทำรายได้จากประเทศที่มีคนจีนโพ้นทะเลได้เพิ่มขึ้นด้วย
Credit: Movies Anywhere
ด้วย 3 กลยุทธฺข้างต้น จึงส่งผลให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูด สามารถเติบโตได้มากกว่าช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเติบโตด้วยซ้ำ นั่นก็เพราะว่าฮอลลีวูดมีการวิเคราะห์ตลาดและสามารถตอบโจทย์ของความต้องการของตลาดได้อย่างแม่นยำ เข้าใจตลาดทั่วโลกเข้าใจธรรมชาติของผู้คน
ท้งยังมีการให้ความสำคัญในตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ด้วยการไม่ยึดติดอยู่กับวิธีการนำเสนอแบบเดิมๆ ด้วยการร่วมทุนยอมให้เพิ่มบทบาทของนักแดงต่างชาติจากจีนเข้าไป ทั้งยังให้ความสำคัญกับวิธีการสื่อสารด้วย
“นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ภาพยนตร์ฮอลลีวูดมีบทพูดน้อยลง”
อ้างอิง: Just Change/แค่เปลี่ยน ธุรกิจก็ติดปีก, อัครเดข อุดมปัญญาวิทย์และคณะ. พ.ศ. 2564
Credit: Facebook สรุปให้
โฆษณา