20 ม.ค. 2023 เวลา 13:52 • ไลฟ์สไตล์

“Do or Do Not. There is No Try.”: วาทะท้าทายต่อภาวะจิตใจ

(ถ้าให้สังเกตคำว่า “ลอง” หรือ “พยายาม” คำที่เราใช้พูดติดปากกันจนคุ้นชินในทุกๆวัน ไม่ได้ถูกใช้เขียนลงในบทความมาตั้งแต่แรกเริ่ม จนกระทั่งมาบทความนี้)
เราคงเคยได้ผ่านหูผ่านตากับวาทะที่ว่า “Do or Do Not. There is No Try.” ซึ่งเป็นวาทะของมาสเตอร์โยดาจากภาพยนต์เรื่อง Star Wars: Episode V – The Empire Strikes Back
แปลได้ว่า : ทำ หรือ ไม่ทำ ไม่มีการ “ลอง(ทำ)" หรือ "พยายาม”
ถ้ามีคนพูดกับเราว่า “ลองชิมซิ ว่าอร่อยไหม" หรือ "พยายามออกกำลังกาย เพื่อให้น้ำหนักลด"
คิดว่า.. ปฏิกิริยาร่างกายของเราจะเป็นอย่างไร จะมีการเคลื่อนไหวหรือไม่
สมองเราจะ ”ตีความ” และ สั่งงานให้ร่างกายขยับ "ทำ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกระบวนการที่แยกได้เป็นสองส่วน คือ ส่วนของความคิด และ ส่วนของการกระทำ
บ่อยครั้ง.. เรามัก
"ใช้ความคิด - เพื่อให้รู้สึก"
แทนการ
"มองที่การกระทำ - เพื่อให้เห็น"
Lalana Mondtree
ดังนั้น ทั้งสองคำ "ทำ - to do" และ "ลอง(ทำ)หรือพยายาม - to try" ต่างมีกระบวนการของการ"ทำ"ผ่านปฏิกิริยาทางร่างกาย คือ ต้องขยับเพื่อลงมือทำ - to do ที่เรามองเห็นและสัมผัสได้ ส่วนจะบรรลุผลหรือไม่นั้น เป็นอีกประเด็นหนึ่ง
ถ้าคิดและพิจารณา โดยมองจากการกระทำที่เห็นและสัมผัสได้ "มากกว่า" การใช้ความคิดและอารมณ์ที่มองไม่เห็นและสัมผัสไม่ได้
จะเห็นได้ว่า “ทำ - to do” จึงเป็นสภาวะทางร่างกายที่เห็นและสัมผัสได้ โดยเราต้องลงมือปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่ง
ส่วนคำว่า “ลอง(ทำ) หรือ พยายาม - to try” นั้นเป็นสภาวะทางจิตใจ ที่เราไม่สามารถสัมผัสและเห็นได้ แต่จะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิดของแต่ละบุคคล
บ่อยครั้ง เรามักใช้ความคิดเพื่อให้รู้สึก แทนการมองที่การกระทำเพื่อให้เห็น โดยโยงคำว่า ลองหรือพยายามเป็นกึ่งหนึ่ง กับ ความสำเร็จเป็นอีกกึ่งหนึ่ง และตีความไปเป็นเรื่องของความตั้งมั่น มุมานะ ไม่ล้มเลิก เพื่อให้สิ่งที่ทำนั้นๆ"ต้อง"บรรลุผล
“Do or Do Not. There is No Try.” ไม่ใช่เรื่องของการลองหรือพยายาม แต่เป็นเรื่องของการเลือก "ทำหรือไม่ทำ" ที่เป็นเพียงแค่วาทะ(ที่เข้าถึงความ)ท้าทายต่อสภาวะจิตใจของเราเท่านั้น
“Do or Do Not. There is No Try.” ไม่ใช่การประณามความล้มเหลว และ ไม่เกี่ยวกับความเชื่อมั่นในตัวเอง แต่เป็นเพียงแค่ ”กรอบความคิด” ที่ถูกสร้างขึ้น ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรู้สึกนึกคิดหรือทัศนคติเท่านั้น
เมื่อลงมือทำแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องของการเสียเวลา และไม่ใช่เรื่องที่ไร้ความหมายต่อชีวิต เพราะ..
ความล้มเหลว คือ ตัวให้เหตุผล เพื่อให้เราได้ลงมือทำ
ความล้มเหลว คือ บทเรียนของความสำเร็จ ที่เกิดจากความผิดพลาด ที่เราไม่สามารถเลี่ยงได้ เพราะเราต่างมี "ความไม่รู้” กับอีกมากมายหลายสิ่งบนโลกใบนี้
ความล้มเหลว คือ เครื่องเตือนจำว่า "โลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ" ดังนั้น ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นกับเราทุกคนจึงถือว่าเป็นเรื่อง"ปกติ"
ความล้มเหลว ไม่ใช่ความอ่อนแอ และไม่ใช่เรื่องน่าละอาย
และสิ่งสำคัญที่สุด "ความล้มเหลว ไม่ใช่ คำนิยามความเป็นตัวเรา"
เพราะทุกความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นการเริ่มต้นที่สอนให้เราแข็งแกร่งขึ้น ทุกครั้งไป ดังนั้น..
เราควรเรียนรู้จากทุกความล้มเหลว ให้เป็นบทเรียนชีวิตที่เราควรให้ค่าสำคัญ เพื่อไม่ให้พลาดทำเรื่องเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และ..
เราควรเรียนรู้จากทุกความล้มเหลว เพื่อการเติบโตของเราต่อไป ในทุกๆวัน..

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา