17 ม.ค. 2023 เวลา 13:36 • สุขภาพ

พ่อแม่ลูกเล็กต้องระวัง! อยากหลับสนิทต้องอ่าน!

เก็บตก podcast เรื่องการถนอมสายตา บวกกับอีกอันเรื่องการตื่นการนอนแบบมีคุณภาพ
อันนี้สำคัญสำหรับพ่อแม่ที่มีลูกเล็กและวัยรุ่นต้องอ่าน!!!!
1. อย่าให้ลูกเล็กเล่นเป็นโจรสลัดปิดตาข้างนึง หรือเล่นทำเป็นตาเข๋ เป็นอันขาด คืองี้ เค้าบอกว่าสมองคนเราโดยเแพาะเด็ก มันยืดหยุ่นสูงมาก ดังนั้น มันจะปรับตัวได้ไวมาก อันนี้เกิดกับตัวของเค้าเองก็คือตอนเจ็ดแปดขวบ เค้าไปว่ายน้ำแล้วเค้าเป็นคนว่ายฟรีสไตล์แล้วหายใจได้แค่ข้างขวา เค้าเลยหลับตาข้างซ้ายไว้ตลอด เวลาที่ว่ายน้ำ ปรากฏว่า พอว่ายน้ำเสร็จ ลืมตามาอีกที ตาซ้ายก็คือเบลอแบบมองไม่เห็นอะไร (lost binocular vision) คือเหมือนว่าเห็นนะ แต่เบลอไปหมด แล้วจะเห็นชัดถ้าหลับตาซ้าย
พ่อแม่พาไปหาหมอตา เค้าก็แก้ด้วยการปิดตาข้างดี เพื่อให้สมองมันปรับให้เอาข้างที่มันไป shutdown กลับมาทำงานอีกรอบ
ซึ่งเค้าก็บอกว่า ถึงแม้จะหาย แต่มันก็ไม่เหมือนเดิม บางทีเค้าก็จะกะพวกความลึกอะไรงี้ไม่ถูก จะเล่นกีฬาพวก ตีเทนนิสไม่ค่อยได้ แบบว่ากะไม่ถูกจนลูกมาโดนหัวแล้ว อะไรงี้
ซึ่งเค้าก็บอกว่า พวกเด็กที่แต่งตัวเป็นโจรสลัดปิดตาข้างนึง พวกนี้ก็เป็นพฤติกรรมเสี่ยงเหมือนกัน
1
2. อยากให้ลูกนอนไวใช่ป่ะ ง่ายๆเลยคือ 1 ชม.ก่อนลูกตื่น ให้เปิดไฟสว่างๆ
อันนี้ก็โยงมาเรื่องเซลล์รับแสงในตาอันเดิมนี่แหละ คือเพราะเค้าบอกว่า ถึงแม้จะหลับตา แต่หนังตามันไม่ได้หนาขนาดนั้น ดังนั้นในขณะหลับ เซลล์นี้ก็ยังรับแสดงได้อยู่ แล้วพอทำแบบนี้ จะทำให้ร่างกายเหมือนตื่นก่อนความเป็นจริง 1 ชม. แล้วเด็กก็จะค่อยๆนอนเร็วขึ้นไปเอง (ถ้าตอนเย็นไม่ได้เปิดทีวี เปิดไฟสว่างโร่อ่ะนะคะ)
เรื่องการนอนและการตื่นอย่างมีคุณภาพ
อยากตื่นดีนอนดีแบบมีคุณภาพต้องอ่านตรงนี้
ที่เล่าไปก่อนหน้านี้ว่า ถ้าอยาก active มีมู้ดดีไปตลอดวัน ให้ตื่นมาแล้วออกไปเดินรับแดดข้างนอกแบบไม่มีอะไรกั้น 10 นาที ทีนี้จะมาอธิบายเพิ่มว่า การรับแสงต้องรับแสงหลังตื่นนอนให้เร็วที่สุด แล้วแสงต้องเป็นแสงเหลือง (พระอาทิตย์ทำมุมกับโลกน้อยๆ) เพราะเซลล์ในตาเรามันจะรับแสงที่ความถี่นี้เพื่อเป็นตัวบอกว่า โอเค นี่คือเวลาตื่น เวลาหาอาหาร ดังนั้น คนที่ตื่นสายหรือตื่นบ่าย อันนี้ออกไปเดินตากแดดก็ไม่ช่วยอะไร 55555
วิธีการรับแสงนี้ ไม่ได้ให้ไปจ้องพระอาทิตย์นะ แต่ว่าแค่ออกไปอยู่ในที่โล่ง เพราะโฟตอนมันก็สะท้อนไปมา สำหรับที่แสงเช้าส่องถึง ก็ประมาณ 2-10 นาที ส่วนสำหรับที่ที่มีเมฆหมอก เค้าก็บอกว่า ให้บวกเวลาเพิ่มไป (แต่ก็หลายสิบเท่า) หรือไม่งั้นถ้าเป็นประเทศหนาวไร้แสงอาทิตย์ เค้าถึงได้มีพวกโคมไฟแทนแสงอาทิตย์เพื่อกันซึมเศร้า ซึ่งอันนี้ก็เพิ่งรู้ว่า มันคือต้องให้ตาเห็นแสงนะ ไม่ใช่ว่าให้ผิวหนังรับแสงมาสร้างวิตามินดี อะไรงี้ มันถึงจะได้ผล
และใดๆก็คือ เค้าบอกว่า ต้องเป็นการรับแสงที่ไม่ได้ใส่แว่นดำ หรืออยู่ในรถ หรือรับผ่านหน้าต่าง เพราะความเข้มมันจะต่างกัน ก็คือจะรับแบบนั้นก็ได้ แต่ก็เพิ่มเวลาเข้าไปเป็นหลายสิบเท่า หลายร้อยเท่าเลยจ้า
อย่างไรก็ตาม เค้าบอกว่า ถ้าคนที่ตามีปัญหา พวกที่หมอให้ใส่แว่นดำ พวกนี้ก็ขอให้ปรึกษาหมอก่อน แล้วค่อยทำ
อ่ะ แล้วยังไงต่อ ทีนี้พอตอนเย็น เค้าก็บอกว่า เพื่อการนอนหลับที่ดีที่เป็นเวลา ตอนพระอาทิตย์ใกล้ตก (ก็คือพระอาทิตย์ทำมุมต่ำ ได้แสงเหลืองนั่นแหละ) ให้ออกไปรับแสงพระอาทิตย์อีกเป็นเวลา 10 นาที เพื่อเป็นสัญญาณบอกร่างกายว่า นี่จะค่ำแล้วนะ เตรียมตัวนอนได้แล้ว
และหลังจากนั้น หลังสองทุ่ม ก็ไม่ควรเปิดไฟสว่าง แสงขาวแสงฟ้าก็ให้หลีกเลี่ยง หรือแม้แต่แสงเหลือง ถ้าจะเปิดไฟ ให้เปิดให้ต่ำกว่าสายตาเรา เพราะ (อันนี้แบบว่าเราก็เพิ่งรู้) ไอ้เซลล์รับแสงที่ว่าเนี่ย มันเป็นกรวยหงาย อารมณ์ว่าหงายเพื่อรับแสงอาทิตย์นี่แหละ ดังนั้น ถ้าเราเปิดโคมเตี้ยๆ ไม่ใช่ไฟเพดาน แสงมันก็จะเข้ากรวยรับแสงน้อยกว่า
อ่ะ หนึ่งคือเราใช้แสงเหลืองบอกสมองล่ะนะ ว่ากำลังจะได้เวลานอนแล้ว สอง ที่ให้หรี่ไฟ ใช้แสงงเหลือง หรือจริงๆถ้าอยากง่วงก็ปิดไฟไปเลย ก็เพราะว่า ฮอร์โมนที่ทำให้เราง่วง ก็คือเมลาโทนินใช่ป่ะ ไอ้ตัวนี้มันออกมาจากต่อมในสมอง แล้วอิต่อมนี้ ถ้าสว่างมันจะหยุดทำงาน คือมันจะเริ่มทำงานในความมืดเท่านั้น ดังนั้นถ้าใครอยากนอนไว ก็ปิดไฟโลดจ้ะ ทำซักสองสามวัน เค้าว่ามันจะเห็นความแตกต่าง ก็คือเหมือนพวกเจ็ทแล็กที่ต้องปรับตัวนั่นแหละ
เค้าแนะนำให้ปิดไฟมืดเลย เพราะถึงแม้ไฟจะหรี่แค่ไหน แต่เค้าบอกว่าเซลล์ตาของเรา จะยิ่ง sensitive ต่อแสงมากขึ้น ถ้ายิ่งตื่นนานๆ แปลว่ากว่าจะถึงเวลาใกล้นอน เซลล์ตาเราก็จะ sensitive กับแสงน้อยๆด้วย
ทีนี้นอกจากเรื่องแสงแล้ว มันมีทริกอื่นๆ ในเรื่องการนอนการตื่นอย่างมีคุณภาพอีก
ทริกเบอร์ 1 - ถ้าง่วงๆอยู่ให้เงยหน้าเหลือกตาขึ้น เพราะอันนี้มันเป็นท่าของคนกำลัง alert ซึ่งบางครั้งมันก็มีวิจัยที่ว่า ถ้าเราฉีกยิ่มหรือหัวเราะ การ์ตูนที่เราอ่านก็จะตลกกว่าปกติ อะไรประมาณนี้อ่ะนะ ซึ่งก็ตรงกันข้ามกันว่า เวลาที่เราอยากพัก เราถังมองต่ำ หลับตา พอหลับตา มันก็จะไปส่งสัญญาณเหมือนกันว่า เออ นี่จะการพักนะ
ทริกเบอร์ 2 - เค้าบอกว่า สมองเราก็เหมือนเครื่องยนต์ เวลาดับเครื่องก็จะเย็น เวลาใช้งานก็จะร้อน การที่คนที่ตื่นมาแล้วสมองไม่แล่นก็เป็นเพราะว่าสมองเค้ามีช่วงวอร์มอัพที่นาน
การที่จะช่วยได้ก็คือเพิ่มอุณหภูมิให้สมอง ในทางกลับกัน การช่วยเรื่องการนอนอย่างนึงก็คือทำให้สมองเย็น (ที่เคยได้ยินว่า แอร์เครื่องบินจะเปิดแอร์แรงๆ เวลาอยากให้ผู้โดยสารไม่กวนมาก) สิ่งที่เค้าแนะนำก็คือ คนที่มีปัญหาเรื่องการนอนก็เปิดแอร์ให้เย็นหน่อย คนที่มีปัญหาเรื่องการตื่น ก็ตั้งเวลาแอร์ให้ปิดก่อนตื่นซักหน่อย พอถึงเวลาตื่นสมองก็จะได้อุ่นพอดี
จริงๆอันนี้หลายคนน่าจะเคยได้ยินมาแล้ว นี่ตัวเองก็เคยฟังจากอีก podcast นึ่งเหมือนกัน อันนั้นเค้าเลยบอกว่า เวลาตอนเช้าที่เรากินกาแฟแล้วตื่นเลย มันเป็นเพราะความอุ่น เพราะจริงๆกว่ากาแฟจะออกฤทธิ์ มันใช้เวลาตั้ง 20 นาที
ทริก เบอร์ 3 - เราสามารถใข้จิตบังคับให้ตื่นได้ แต่เราใช้จิตบังคับให้หลับไม่ได้ ดังนั้น การที่จะช่วยให้หลับหรือจิตใจสงบ เราจึงต้องใช้วิธีการทางร่างกาย หรือสิ่งแวดล้อมภายนอกมาช่วย
หมายความว่าไง?
คือเวลาเราตื่น แล้วเราง่วง เราก็บังคับให้เราไม่หลับได้ (เป็นส่วนใหญ่ ไม่นับพวกหลับใน แต่พวกหลับในก็เป็นเพราะร่างกายเค้าไม่ไหวแล้ว) แต่การนอน เราบังคับให้ตัวเองนอนไม่ได้ หรือได้ก็ยากกว่า ดังนั้นจะง่ายกว่าถ้าเราใช้วิธีการบังคับร่างกายเข้าช่วย เช่นการโยคะ นั่งสมาธิ หรือแค่ breathing technique แล้วประกอบกับสิ่งแวดล้อมภายนอกที่คุยกันไปแล้ว ก็คือเปิดแอร์ ปิดไฟ อะไรแบบนี้
จริงๆนางพูดอะไรเยอะมากนะ คลิปนึงคือ 3 ชม. นี่ก็ฟังไปถักโครเชต์ไป นางอธิบาย mechanism ต่างๆด้วย ว่าทำไมมันถึงเป็นงั้นงี้ ศัพท์เยอะ แต่จำไม่ได้ เลยเล่าตามที่เข้าใจแบบนี้ละกัน 5555
โฆษณา