Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ
•
ติดตาม
18 ม.ค. 2023 เวลา 11:39 • การศึกษา
การลงทุนที่คุ้มค่า...ลงทุนกับประสบการณ์
การลงทุนกับประสบการณ์มีประโยชน์สำหรับทุกคน ทั้งนักเรียน นักศึกษา เด็กจบใหม่ ตลอดจนคนวัยทำงาน คนในปัจจุบันมักจะมุ่งไปที่การลงทุนกับสิ่งของ พอถึงเวลาก็จัดสรรเงินทองของตนเองไปลงทุนเพื่อหวังให้เงินงอกเงยในอนาคตบ้าง เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองบ้าง แต่ความจริงแล้วการลงทุนกับประสบการณ์นั้นสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเลย
การลงทุนที่คุ้มค่าคือสิ่งของที่ไม่มีวันเสื่อม
พอเรานำสิ่งของต่าง ๆ มาใช้งาน ผ่านกาลเวลาก็เสียหายเสื่อมสภาพ สุดท้ายต้องทิ้งไป แต่ประสบการณ์นั้นหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรา แม้ว่าจะเป็นประสบการณ์ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม ในที่สุดก็จะพัฒนากลายเป็นอัตลักษณ์ของเราเองในที่สุด
สิ่งของกระตุ้นความอยาก
เมื่อเราได้สิ่งของที่ต้องการมาแล้ว มันจะไปกระตุ้นให้เกิดความอยากได้สิ่งอื่นเพิ่มมากขึ้นไม่รู้จบ ยิ่งได้เห็นคนอื่นมีมากกว่า สวยกว่า เราก็ยิ่งอยากได้ให้เท่าเขา หรือมากกว่าเขา
สิ่งของก่อให้เกิดการเปรียบเทียบ
การได้สิ่งของต่าง ๆ มานั้นนำไปสู่วัตถุนิยม คือ เกิดการเปรียบเทียบ เช่น เรามีนาฬิการุ่นนี้ แต่เพื่อนเรามีนาฬิกาอีกรุ่นที่ใหม่กว่า สวยกว่า ราคาแพงกว่า เราก็อยากได้แบบเพื่อน เพราะทันสมัยกว่า ดีกว่า สุดท้ายก็ต้องขวนขวายหาซื้อมาใหม่ให้ดีเหมือนเพื่อน เป็นอย่างนี้เรื่อยไปไม่จบสิ้น
สุดท้ายพอเราได้มา ความตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจก็หายไปอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ของชิ้นนั้นก็กลายเป็นของเก่าไปแล้ว ดังนั้น ประสบการณ์ยั่งยืนกว่าสิ่งของและต่อยอดไปไม่มีวันสิ้นสุด
ประสบการณ์จะเชื่อมต่อกับชีวิตเรา แล้วพัฒนาตัวตนของเราให้กลายเป็นอัตลักษณ์ประจำตัว เพราะคนเราถูกหล่อหลอมด้วยประสบการณ์ทั้งสิ้น
ประสบการณ์ทำให้เรามีศักยภาพมากยิ่งขึ้น และกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ สร้างความมั่งคั่ง และความสุขได้ง่ายยิ่งขึ้น
สร้างความรู้ด้วยการ่อาน
การอ่านช่วยสร้างความรู้นอกตำราเรียนให้เราได้ ถือเป็นการเปิดโลกให้เราหลุดจากกรอบของตำรา การอ่านเป็นการขยายโลกทัศน์ของเราให้กว้างขึ้น
การอ่านที่ดี คือ การอ่านแบบสืบค้น หาคำตอบของเรื่องนั้น ๆ ให้ลึกลงไปเรื่อย ๆ เวลาจะสืบค้นอะไรสักอย่าง เราต้องหา Keyword ให้ได้ แล้วเจาะลึกลงไป เพื่อเป็นการปูพื้นฐานความรู้ให้ตนเอง
ถ้าเราอยากมีความรู้กว้าง รู้ลึก ให้เราหาหนังสือมาอ่าน เฉพาะหนังสือต่างประเทศที่รวบรวมงานวิจัยต่าง ๆ ไว้ นักเขียนบางท่านศึกษาวิจัย นักเขียนบางท่านเก็บรวบรวมความรู้จากผู้อื่นมาประกอบกัน เพราะฉะนั้น หนังสือต่าง ๆ ล้วนมีคุณค่ามหาศาล
ในปัจจุบันเราสามารถหาอ่านหนังสือได้ง่าย มีทั้งหนังสือเป็นเล่ม หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แอปอ่านหนังสือต่าง ๆ ก็มีให้เลือกมากมาย ราคาก็ถูกกว่าซื้อหนังสือเป็นเล่ม ไม่ต้องรอมาส่งที่บ้าน โหลดปุ๊บก็อ่านได้เลย ช่วยให้เราได้รับความรู้อย่างรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย
อีกประเด็นสำคัญในเรื่องการอ่าน คือ การอ่านจะทำให้เราได้รับความรู้ดีกว่าการฟัง เพราะพออ่านเสร็จ ถ้าเราไม่เข้าใจ เราก็สามารถย้อนกลับไปอ่านทบทวนซ้ำได้อีก แต่การฟังนั้นผ่านแล้วผ่านเลย ความลึกซึ้งในการเข้าถึงเนื้อหานั้นแตกต่างกัน
ดูสื่อสารคดี
เราควรหาความรู้เพิ่มเติมด้วยการเลือกดูสารคดีต่าง ๆ เช่น History Channel, Discovery เป็นต้น บางช่องดำเนินโดยการเล่าเรื่อง รวบรวมความรู้จากแหล่งที่มาต่าง ๆ ไว้ พร้อมภาพประกอบที่ดูง่าย น่าสนใจ สนุกและเพลิดเพลิน สารคดีรูปแบบต่าง ๆ จะถูกจัดแยกออกเป็นหมวดหมู่แล้ว ทำให้เราดูแล้วเข้าใจง่าย มีทั้งสารคดีวงการแพทย์ ภาษา วัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ เป็นต้น
ประเด็นสำคัญอยู่ที่การเลือกรับสื่อ ถ้าเราเลือกดูสื่อที่ได้มาตรฐาน สามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมทั้งความรู้ใหม่ ๆ ในเชิงบวกให้แก่ตนเองได้ย่อมเกิดผลดี แตกต่างจากสื่อที่ชักนำให้เราตกต่ำ เราก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะดู
พูดคุยกับผู้มีประสบการณ์
บุคคลที่ผ่านการทำงานมาแล้ว ย่อมได้รับประสบการณ์มาก่อนเรา ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายกว่าเรา ดังนั้น ถ้าเรารู้จักเข้าหาเขา ได้พูดคุยกับเขาไม่กี่ประโยค เราก็จะได้แนวความคิดใหม่ ๆ ที่ตกผลึกมาแล้วจากประสบการของเขาที่มีมานาน
2
บางคนใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย เพียงไม่กี่ประโยคที่เขาแนะนำ อาจจะเป็นข้อความสั้น ๆ ที่ทำให้เราตีโจทย์แตก ไม่ต้องวนอยู่กับปัญหาเดิมๆ หรือเดินอย่างถูกทางโดยไม่ต้องลองผิดลองถูกเอง ถือเป็นการย่นระยะเวลาเดินทางไปสู่ความสำเร็จได้ดีทางหนึ่ง
หมั่นหากิจกรรมทำ
ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา เข้าทีมฟุตบอล เข้ากลุ่มโรตารี่ สภาสตรี ไปปีนเขา ปั่นจักรยาน การเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ จะทำให้เราได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่หลากหลาย และได้เข้าร่วมแบ่งปันกับคนอื่นในสังคมด้วย
การพาตนเองเข้าสังคม
การที่เรามีปฏิสัมพันธ์อันดีกับคนมากมายหลากหลายอาชีพนั้นให้ประโยชน์มาก และมีความสำคัญต่อการทำงานในภายภาคหน้าด้วย โดยเราจะมีคนมาคอยให้คำแนะนำช่วยเหลือในหลาย ๆ ด้านต่อไป
ดังนั้น การที่เราพยายามรักษาสัมพันธภาพอันดีกับคนรอบข้างไว้ย่อมเป็นการดีต่อตัวเราเอง เช่น นัดกินข้าวกับเพื่อนร่วมรุ่นอยู่เสมอ เวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือ เราก็จะมีเครือข่ายให้ติดต่อได้ไม่ติดขัด
ฝึกงานเพื่อเปิดประสบการณ์
การฝึกงานจะทำให้เราได้สัมผัสวิธีการทำงานกับคนที่หลากหลายคุณวุฒิและวัยวุฒิ ได้เรียนรู้วิธีการทำงานใหม่ ๆ ได้ไปสังเกตการณ์การทำงาน เพื่อนำกลับมาเป็นแนวทางว่าเราต้องเพิ่มเติมความรู้ในส่วนใดที่ยังบกพร่องอยู่บ้าง
ที่สำคัญการฝึกงานจะทำให้เราได้สัมผัสบรรยากาศในการทำงานจริง เราจะได้เข้าใจตนเองว่า เราชอบอาชีพนั้นจริงหรือไม่ เราจะมีโอกาสได้ปรับตัวและปูพื้นฐานให้ตนเอง ได้เรียนรู้แนวทางในการทำงานในสายอาชีพนั้น ๆ ด้วย
ออกไปท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์บ้าง
การเดินทาง คือ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างเดินทางตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจุดหมาย ระหว่างทางที่เราไป เราจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ ๆ และมีโอกาสได้สังเกตตนเองอีกด้วย
ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เราเดินทางไปตลอดเส้นทาง เราสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่หลากหลาย และเก็บเกี่ยวความสัมพันธ์ระหว่างเรากับผู้คนที่ผ่านเข้ามา ถ้าเรามีทัศนคติที่ดีต่อการเดินทาง ต่อผู้ร่วมเดินทาง ต่อบุคคลแวดล้อม และสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของที่เราพบเจอล้วนมีส่วนช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพของเราทั้งสิ้น
ยกตัวอย่าง แจ็คหม่า ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการเดินทางท่องเที่ยว เขาไปเยี่ยมเยียนลูกค้าคนหนึ่งของเขา และนั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้เปิดประสบการณ์ และเปลี่ยนมุมมองด้านธุรกิจของตนเอง
ประสบการณ์จะทำให้เราได้เติมเต็มความรู้จากศูนย์ และสามารถต่อยอดจากสิ่งที่คนอื่นมีได้ ประสบการณ์จะหล่อหลอมให้เราประสบความสำเร็จและมีความสุขในที่สุด
มีผลวิจัยพบว่า “การลงทุนกับประสบการณ์นั้นให้ประโยชน์มากกว่า” การลงทุนไปกับสิ่งของ ส่วนใหญ่ทำไปเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองเป็นหลัก พอได้มาแล้ว ไม่นานจะพบว่า เราดีใจได้ไม่นานก็เบื่อ ความสุขเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันแรกเท่านั้น
สังเกตง่าย ๆ เวลาที่เราไปเดินห้างสรรพสินค้า ตอนได้ซื้อของที่ถูกใจก็รู้สึกดีใจ มีความสุขที่ได้ของนั้นมาครอบครอง บางคนกลับถึงบ้านก็วางของทิ้งไว้เป็นเดือน ไม่ได้แกะมาใช้ด้วยซ้ำไป
บางคนมีความสุขที่ได้ซื้อเสื้อผ้าราคาแพงที่ตนเองชอบ บางตัวซื้อมาไม่เคยใส่ บางตัวใส่ครั้งเดียวเท่านั้น หรือบางทีซื้อของที่ตนเองชอบมา วันถัดไปเจอคนอื่นใส่รุ่นอื่นที่สวยกว่า แพงกว่า ดีกว่า ก็อยากจะซื้อใหม่แบบเขา เพราะรู้สึกว่าของที่ตนเองมีด้อยกว่า กลัวสู้เขาไม่ได้
ดังนั้น การลงทุนไปกับสิ่งของภายนอกนั้นมีข้อจำกัดรวมทั้งข้อเสียมากมาย ไม่ได้ให้ความสุขที่แท้จริงเลย
เราควรใช้เงินทองไปกับการซื้อสิ่งของเพียงเพื่อประทังชีวิต คือ ปัจจัยสี่เป็นหลัก ซื้อแต่สิ่งของที่จำเป็นสำหรับชีวิตขั้นพื้นฐานก็เพียงพอแล้ว เช่น ซื้อเสื้อผ้าที่สุภาพเรียบร้อย ที่จำเป็นในการทำงาน การเรียน หรือให้ความอบอุ่น ซื้อของใช้ภายในบ้านที่ตอบสนองความสะดวกสบายระดับหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องจ่ายเพิ่มเพื่อความหรูหราฟุ่มเฟือย
อาหาร ก็เลือกซื้อที่ถูกสุขลักษณะ มีเงินเก็บเหลือพอไว้ใช้ในคราวเจ็บป่วย แต่นอกเหนือจากนั้น เป็นการจ่ายของส่วนเกินเพื่อความดูดี เพื่อตอบสนองความอยาก ไม่เกิดความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
ความสัมพันธ์ที่เงินซื้อไม่ได้
ในแง่การลงทุนกับประสบการณ์นั้นมีหลากหลายรูปแบบ เช่น เล่นกีฬา เข้าฟิตเนส ออกกำลังกาย ท่องเที่ยว เข้าป่า เดินเขา ท่องอุทยาน หรือชมเมืองโบราณ ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ การกระทำเหล่านี้ล้วนสร้างให้เกิดประโยชน์ทั้งสิ้น เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนกับประสบการณ์รูปแบบใหม่ ๆ ที่ได้ทั้งความรู้และความผ่อนคลาย
การลงทุนกับประสบการณ์นั้นมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการไปสมัครเข้าเรียนโปรแกรมใหม่ ๆ เพื่อให้ตนเองก้าวทันเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และส่งผลต่อชีวิตเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งด้านการทำงาน การต่อยอดธุรกิจ และการดำเนินชีวิต การลงเรียนพิเศษระยะสั้น ๆ ช่วยให้เราได้รับความรู้ที่ก้าวทันโลกได้ไม่ยาก และสิ่งเหล่านี้ก็จะติดตัวเราไปตลอดชีวิต
ถ้าเรามีเงินเก็บมากพอ ก็อาจจะหาประสบการณ์โดยการท่องเที่ยวต่างประเทศบ้าง ไม่ว่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศต่าง ๆ ที่เราชื่นชอบวัฒนธรรมและไกลออกไป เหล่านี้ล้วนให้ประโยชน์กับชีวิตเรา เกิดความสุขมากกว่าเมื่อเทียบกับการซื้อสิ่งของ เราจะได้รับประสบการณ์ที่เหนือกว่ามากมายนัก
การเปิดประสบการณ์ในการท่องเที่ยวต่างประเทศนั้น ให้เราเน้นไปที่การพบปะผู้คนใหม่ ๆ การเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ๆ ซึมซับความเป็นอยู่และสิ่งดีงามของผู้คนที่เราไม่เคยรู้จักและคุ้นชินมาก่อน ไม่ใช่ให้ค่าทางวัตถุ เช่น หาซื้อกล้องราคาแพง ๆ เพียงเพราะอยากนำไปถ่ายรูปสวย ๆ กลับมาโพสลงโซเชียมีเดียเพื่ออวดคนอื่น แบบนี้เป็นการให้ค่าวัตถุ ตอบสนองกิเลสของตนเอง มากกว่าจะไปได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งไม่เกิดประโยชน์
ถ้าเราต้องการความสุขจริง ๆ ต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้จริง ๆ เรื่องถ่ายรูปเป็นเรื่องรอง แต่การสังเกตรายละเอียดสิ่งต่าง ๆ รอบตัว รับเอาบรรยายกาศกลับมา จดบันทึกสาระสำคัญที่ได้พบเห็น รวมถึงข้อมูลความรู้เบื้องหลังเบื้องลึกของที่แต่ละสถานที่ที่เราไป เราก็จะได้แง่คิดดี ๆ มุมมองใหม่ ๆ ที่หลากหลายสั่งสมในใจเราเพิ่มขึ้น
อย่างนี้ได้ประสบการณ์จากการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ได้รับความละเมียดละไม ความสุขใจที่สามารถระลึกนึกถึงได้ภายหลัง มากกว่าฝากไว้กับภาพถ่าย บางคนเอาแต่หามุมสวย ๆ ถ่ายภาพเพื่อโพสลงโซเชียมีเดียจนลืมหยุดเก็บเกี่ยวบรรยากาศดี ๆ ไว้เลยก็มี
มอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้คนที่เรารักแทนของขวัญ
การมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่คนที่เรารักนั้นสำคัญกว่าการมอบข้าวของเงินทอง ส่วนใหญ่พอถึงวันพิเศษของคนใกล้ชิด เรามักจะมอบของขวัญเป็นสิ่งของต่าง ๆ ให้เขา พอเขาได้รับ รู้สึกดีใจได้ไม่นานก็ลืม
หลายคนลืมคิดไปว่า การมอบประสบการณ์ให้แก่กันนั้นลึกซึ้งตรึงใจมากกว่า สร้างความประทับใจให้แก่ผู้รับได้มากกว่า คล้ายกับที่เราซื้อของให้ตนเอง พอได้สิ่งของมาแล้วไม่นานก็ลืม
เมื่อถึงวันเกิดของคุณพ่อคุณแม่ ลูก ๆ นำของขวัญมาให้ท่านก็ดีใจ แต่ไม่นานก็เริ่มรู้สึกเฉย ๆ ไป แต่ถ้าเรามีเวลาให้ท่าน พาท่านไปเที่ยวในสถานที่ที่ท่านไม่เคยไป ท่านได้เปิดหูเปิดตา ได้เปลี่ยนบรรยากาศ ท่านก็จะรู้สึกปลื้มใจ แล้วเก็บอยู่ในความทรงจำของท่านไปอีกนาน
คู่รักหรือสามีภรรยาก็เช่นกัน การได้มีประสบการณการท่องเที่ยวด้วยกัน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันบ้าง เช่น ไปเดินเล่นสวนสาธารณะ ไปดูนิทรรศการต่าง ๆ ประสบการณ์เหล่านี้ส่งผลต่อความรู้สึกดี ๆ ที่มีมากกว่าการซื้อของขวัญให้แก่กัน
เพราะฉะนั้น ให้เราถอนใจตนเองออกจากโลกที่ติดวัตถุ และหยุดตัดสินสิ่งต่าง ๆ ด้วยเงินทอง การที่เรามีเงินแล้วซื้อของมอบให้กันมันจบไปง่าย ๆ ถ้าเทียบกับการให้เวลา ได้หาประสบการณ์ดี ๆ ร่วมกันนั้น มีประโยชน์และผูกความสัมพันธ์กันลึกซึ้งยิ่งกว่า
คุณพ่อคุณแม่สมัยนี้งานยุ่งมาก ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก ให้ลูกไปเข้าโรงเรียนเร็ว ยอมจ่ายเงินให้ลูกไปเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนเพราะตนเองมีเวลาไม่พอ ปล่อยให้ลูกไปเรียนจนค่ำแล้วจึงไปรับลูกกลับบ้าน
วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็ให้ลูกไปเรียนพิเศษ เพื่อคุณพ่อคุณแม่จะได้มีเวลาส่วนตัวบ้าง ส่วนหนึ่งก็หวังจะให้ลูกได้เรียนทันเพื่อน ได้มีความรู้รอบด้าน อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อให้ตนเองได้มีเวลาส่วนตัว
พอเป็นอย่างนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกก็ห่างเหินขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่พ่อแม่มีเงินให้ลูกมากมายเพราะทำงานหนัก ลูกก็ต้องไปเรียนบัลเล่ต์ เรียนว่ายน้ำ เรียนเปียโน เรียนวาดรูป ต่างคนต่างก็ไม่มีเวลาให้แก่กัน ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็ลดน้อยลงไป
แตกต่างจากครอบครัวที่แบ่งเวลาให้ลูก ไม่จำเป็นต้องมีเงินมากมายก็มอบความรักความสัมพันธ์อันดีให้ลูกได้ คุณพ่อคุณแม่แค่แบ่งเวลามาใช้กับลูกบ้าง เช่น พาลูกไปเดินเล่นสวนสาธารณะ ต่อให้ต้องขึ้นรถเมล์ไปกลับ ใช้เงินค่าเดินทาง ๑๐-๒๐ บาท แวะซื้อขนมข้างทางไปนั่งกินด้วยกัน รวมแล้วใช้เงินไม่ถึง ๑๐๐ บาท แต่ลูกกลับได้รับความสุข ความอบอุ่นใจ รวมทั้งประสบการณ์ชีวิตที่ดีร่วมกับพ่อแม่
การสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัวบางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้เงินทองมากมายเลย เราเองต้องพิจารณาตนเองแล้วว่า จริง ๆ แล้วเราต้องการอะไร เราต้องการของขวัญราคาแพงจากคนที่เรารัก หรือต้องการมีความสุขร่วมกันกับเขา
ต่อไปนี้ ให้เรามอบของธรรมดา ๆ ให้แก่กัน เพียงแต่ใส่ใจลงไปในนั้นด้วย แล้วพยายามแปรเปลี่ยนการให้สิ่งของเงินทองไปเป็นให้ได้ใช้เวลาร่วมกันทำกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นยารักษาใจ เสริมสร้างสายสัมพันธ์อันดีให้คนในครอบครัวรักกันยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
เจริญพร
Photo :
www.freepik.com
พัฒนาตัวเอง
ข่าวรอบโลก
พุทธศาสนา
6 บันทึก
8
5
6
8
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย