Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Inspiration Channel
•
ติดตาม
20 ม.ค. 2023 เวลา 23:00 • ไลฟ์สไตล์
121 เคล็ดความรู้ การงาน การเงิน ความคิด (จิรายุ ตันตระกูล)
EP31:121 เคล็ดความรู้ การงาน การเงิน ความคิด เทคนิคอยู่กับตัวเอง วิธีอัพเกรดสมองและมุมมองการใช้ชีวิต (จิรายุ ตันตระกูล)
☑️ 1.ให้ความสำคัญกับความรู้ เมื่อได้ความรู้แล้วมุ่งมั่นใจความรู้นั้นในการพัฒนาชีวิต และให้มีสติไม่ว่าจะตอนหาความรู้หรือกำลังมุ่งมั่นอยู่
☑️ 2.ความรู้ที่จำเป็นที่สุดสำหรับมนุษย์ คือ ความรู้เกี่ยวกับตัวเราเอง
☑️ 3.ถ้าเรามีอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่มีประโยชน์มาก แต่เราไม่รู้วิธีใช้มัน เราไม่เข้าใจภาษาในการใช้อุปกรณ์นั้นๆ เราจะไม่ได้รับประโยชน์จากมัน ชีวิตก็เป็นแบบนั้น
☑️ 4.ร่างกาย คือ อุปกรณ์ จิตใจ คือ พลังงาน ถ้าเราไม่เข้าใจมัน เราไม่รู้จักมัน เราจะไปหาประโยชน์อะไรจากมัน
☑️ 5.การที่เรานั่งสมาธิ สังเกตความรู้สึกตัวเองทั้งทางกาย ทางใจ เราจะพบว่า ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอะไรก็แล้วแต่ ที่เรามีปฏิกิริยาตอบโต้กับมัน มันมีจุดประสงค์เดียว คือ มันกระทบเพื่อที่จะจากไป
☑️ 6.การที่มนุษย์เติบโตขึ้นมาหลายปี แล้วมันมีกรรมพันธุ์ทางสังคม คือ วิธีคิดของคนรอบตัวเรา ครอบครัวโรงเรียน สังคม นอกเหนือจากกรรมพันธุ์ทางร่างกาย
☑️ 7.แท้จริงแล้ว "กรรมพันธุ์ทางสังคม" คือ สิ่งสมมุติของแต่ละเผ่าพันธุ์ บางเผ่าพันธุ์มองเรื่องสมมุตินี้เป็นเรื่องที่ควรทำ บางเผ่าพันธุ์มองเรื่องนี้ว่าไม่สมควรทำ
☑️ 8.ถ้าเราเข้าใจความจริงขั้นสูงสุด เราจะไม่ทุกข์ร้อนกับสิ่งที่มากระทบกับเราเท่าไหร่ สมมุติว่า เราโดนกระทบแล้วเราโกรธ เราก็จะมองว่าสิ่งที่มากระทบไม่ถาวร ความโกรธที่มีก็ไม่ถาวร
☑️ 9.การอยู่กับตัวเอง เราจะมีพลังมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นพลังความคมทางด้านความคิด มันจะเฉียบลุ่มลึกกว่าเดิม
☑️ 10.คนเรามักถูกสอนให้ใช้สมาธิกับเรื่องภายนอกตั้งแต่เด็กจนเราโต เราโฟกัสแต่เรื่องข้างนอกจนเราไม่คุ้นชินกับการโฟกัสที่ตัวเอง เลยทำให้มนุษย์ไร้ความผิดชอบต่อตัวเอง
☑️ 11.พอมนุษย์ไร้ความผิดชอบต่อตัวเอง ก็จะผลักความรับผิดชอบในหลายๆ เรื่องไปให้ผู้อื่น
☑️ 12.เมื่อไหร่ก็ตามที่มนุษย์ไม่รับผิดชอบต่อตัวเองแบบ 100% ในทุกๆ เรื่อง มนุษย์ก็จะเริ่มโทษสิ่งนั้นสิ่งนี้ เช่น ฉันไม่ได้สิ่งนี้เพราะคนนั้น ฉันไม่ได้สิ่งนั้นเพราะคนนี้
☑️ 13.การมองกลับมาที่ตัวเอง จะทำให้เราเห็นว่า แท้จริงแล้ว "เรานี่แหละต้องรับผิดชอบเรื่องไหนบ้าง แล้วมีเรื่องไหนบ้าง ที่เรายังไม่ได้รับผิดชอบเต็มที่" ที่ผลลัพธ์ไม่ดีเพราะเราขาดความรับผิดชอบในเรื่องนั้น
☑️ 14.มนุษย์เราเมื่อรับผิดชอบต่อตนเองอย่างเต็มที่ 100% "มันจะไร้ข้ออ้าง" เพราะเขารู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรากำหนด
☑️ 15."Introvert" คือ ต้นไม้ที่เห็นแก่ตัวสูงมาก เพราะต้องดูดซับแร่ธาตุทุกอย่างเพื่อเติบโต แต่จุดประสงค์ของการเติบโต คือ เพื่อการแบ่งปันอย่างไร้ขอบเขต ให้ร่มเงา ดอก ผล
☑️ 16."โลกส่วนตัวสูง" เห็นแก่ตัว เพราะหมกมุ่นอยู่กับความต้องการของตนเอง
☑️ 17.คนที่ Introvert ไม่ใช่ไม่ค่อยมีเพื่อน แต่เลือกเพื่อนคบ เพราะคนกลุ่มนี้เข้าใจเรื่องของพลังงานว่า การคบเพื่อนที่นำทางไปสู่สิ่งไม่ดีไม่เกิดเกิดประโยชน์ แต่เลือกคบคนที่ส่งเสริมพลังงานมากกว่า
☑️ 18."ธรรมชาติจะไม่มีวันให้คุณร่ำรวย ถ้าคุณไม่มีศักยภาพมากพอในการรับมัน" หรือถ้าวิธีการบริหารจัดการเงินมันห่วยแตก คุณก็ไม่มีวันร่ำรวย
☑️ 19.เวลาที่เราอยู่กับตัวเองบ่อยๆ เราจะมีความรู้ชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเราว่า "ความสุขที่ต้องพึ่งสิ่งเสพ มันไม่เคยเติมเต็มหัวใจเราจริงๆ ลึกเข้าไปข้างใน เรายังคงอยากได้มันอีก"
☑️ 20.ความสุขที่แท้จริง มันเกิดขึ้นจากปัจจุบันขณะ ที่มันไม่ต้องพึ่งสิ่งใด เชื่อมโยงกับทุกสิ่ง ในขณะนั้น เห็นความคิดตัวเองเกิดดับ จนเห็นความไม่เที่ยง แล้วเข้าใจ
☑️ 21.มนุษย์เรามีความคุ้นชินในการตัดสินผู้อื่นอย่างด่วนสรุป และรวดเร็วเกินไป
☑️ 22.วิถีชีวิตบางคนเปรียบเสมือนรถที่วิ่ง 120 บางคนก็เหมือนรถที่จอดกี่ปีก็ย่ำอยู่กับที่ ไม่พัฒนาไปไหน ส่วนคนที่พัฒนาตัวเองตลอด มันก็จะเพิ่มความเร็วของรถไปเรื่อยๆ
☑️ 23.สื่อโซเชียลเป็นอะไรที่มีประโยชน์มาก สำหรับคนที่หาประโยชน์จากมัน ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก สำหรับคนที่เสพโดยไม่ใช้ความคิดพิจารณาในสิ่งที่เศษ
☑️ 24.ถ้าคุณใช้เวลาทุกวันในการสะสมขยะเข้ามาทุกวันในบ้าน คนที่อึดอัดที่สุด คือ เจ้าของบ้าน เช่นเดียวกัน ถ้าเราสะสมขยะเข้ามาในสมอง วันหนึ่งเราจะใช้ปัญญาแก้ไขปัญหา เราจะหาไม่เจอ
☑️ 25.ถ้าคุณสะสมปัญญาในทุกๆ วัน วันหนึ่งเราเจอปัญหา เราจะนำปัญญามาแก้ไขปัญหาได้
☑️ 26.การที่เราแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ แสดงว่าเราไม่มีความรู้ในการแก้ปัญหานั้นๆ เราจึงแก้ปัญหาไม่ได้
☑️ 27.โลกปัจจุบันความรู้มันหาง่าย และมีอย่างมหาศาล จากนั้น จึงศึกษา อ่านให้มากที่สุด แล้วดูว่าคนๆ นั้น เขาแก้ไขปัญหาในเรื่องนั้นๆ ยังไง แล้วนำความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้
☑️ 28.สมมุติว่าเรามีสติปัญญาระดับ 2 แต่เจอปัญหาระดับ 3 ดังนั้น เราต้องศึกษา ขวนขวาย ลงมือปฏิบัติ เพื่อเพิ่มศักยภาพตัวเองให้มีสติปัญญาระดับ 5 ปัญหาระดับ 3 ก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
☑️ 29.เราต้องเห็นคุณค่าของชีวิตก่อน เพราะถ้าเราไม่เห็นคุณค่าของชีวิต เราจะไม่ศึกษาอะไรเพิ่มเติมให้กับตัวเอง
☑️ 30.มนุษย์จะยิ่งใหญ่ ก็ต่อเมื่อมีความคิดที่ยิ่งใหญ่ การจะมีความคิดที่ยิ่งใหญ่ก็ได้ก็ต่อเมื่อ คนๆ นั้นเชื่อว่า "เขาคิดที่จะยิ่งใหญ่ได้"
☑️ 31.การนั่งสมาธิ คือ การฝึกจิตที่ฟุ้งซ่านที่นึกถึงอดีตหรืออนาคต มาจดจ่ออยู่กับปัจจุบันขณะจิต เพราะจิตที่ไม่ได้รับการฝึกจะฟุ้งซ่านตลอดเวลา และจิต นั้นคือ จิตของเราที่ใช้ชีวิตอยู่ทุกวัน
☑️ 32.เมื่อไหร่ที่จิตของเราแข็งแรง การงานที่เราทำเราก็จะจดจ่อเต็มที่เวลาที่เราจะคิดอะไรก็ตาม เราก็จะจดจ่อกับความคิดนั้นได้ เป็นขั้นตอนเป็นระเบียบ
☑️ 33.สิ่งที่เราไม่ต้องการจะคิด เราแยกมันออกได้ จิตที่เป็นสมาธิจะทำให้เราเลือกความคิดได้ และนี่คือ "พรสวรรค์ของมนุษย์" มนุษย์เลือกความคิดได้
☑️ 34.ร่างกายต้องการอาหารเพื่อบำรุง จิตใจก็ต้องการสมาธิ แต่บังเอิญว่าเรื่องจิตใจมันอยู่ในมิติที่มองไม่เห็น คนทั่วไปเลยอาจจะไม่ค่อยใส่ใจ
☑️ 35.คนที่ลุ่มลึกขึ้นระดับหนึ่ง จะเริ่มให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ในจิตใจของตัวเอง เรามีร่างกาย เรามีจิตใจ 4 ชนิดคือ
1.ความทรงจำ
2.ความนึกคิด
3.ความรู้สึก
4.จิตที่รับรู้
☑️ 36.ความเชื่อมั่นที่แท้จริง ไม่ได้เกิดจากความยโสโอหัง แต่เกิดจากการที่รู้ตัวเองว่า "เราฝึกอะไรมาบ้าง"
☑️ 37.สิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับคนที่ไม่มีสมาธิ คือ จะจดจ่อสิ่งใดไม่ได้ และสิ่งที่น่ากลัวกว่านี้ คือ การจดจ่อความคิดตัวเองไม่ได้ ทำให้ไม่รู้ว่าขณะนี้ฉันคิดอะไรอยู่ และทำให้ไม่รู้ว่า ความคิดนี้ผลิตความรู้สึกอย่างไร
☑️ 38.ถ้าเรามุ่งประเด็นไปที่อยากให้คนอื่นเปลี่ยนแปลง ใจเราจะเป็นทุกข์ เพราะธรรมชาติของคนทั่วไป ไม่มีใครทำตามใจเราได้ 100% แม้แต่บางอย่างเรายังสั่งตัวเราเองไม่ได้เลย
☑️ 39.เปลี่ยนผู้อื่นไม่ใช่ทางออกที่ดี แต่การเปลี่ยนตัวเองให้เป็นแบบอย่างว่า "เราเปลี่ยนตัวเองแล้ว ชีวิตเราดีขึ้นอย่างไรบ้าง" อันนี้น่านับถือ
☑️ 40.ความผิดพลาดของผู้อื่นมันจะมีประโยชน์ ถ้ามันทำให้สอนตัวเราเอง
☑️ 41.เมื่อไหร่ที่เรากลับมามองที่ตัวเอง แล้วเรายอมรับตัวเองได้ อันนั้นคือ ก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลง
☑️ 42.สิ่งที่เราอ่าน หรือความรู้ที่เราได้รับ มันไม่ได้ทำให้เราพัฒนา จนกว่า เราขบคิดเกี่ยวกับความรู้ที่เราเพิ่งได้รับมา แล้วคิดต่อยอด
☑️ 43.สิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับมนุษยชาติ คือ การรู้ไม่เท่าทันตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความคิด ความรู้สึก หรือความทรงจำ
☑️ 44.บางคนรู้ไม่เท่าทันตัวเอง ก็เป็นทุกข์ทั้งวัน เพราะโอบกอดความคิดเดิมๆ ไว้ ถอนตัวเองจากความคิดเหล่านั้นไม่ได้ เป็นทุกข์ทรมาน
☑️ 45.กุหลาบก่อนที่มันจะสวย รากมันไม่น่าดู จงอย่าไปมองว่า ความไม่สวยงามเป็นสิ่งถาวรและคู่โลก แต่จงมองว่า เพราะราก จึงทำให้ก่อเกิดเป็นดอกกุหลาบที่มันสวยงาม และให้ความเบิกบานแก่โลก
☑️ 46.เราต้องผ่านเรื่องเลวร้ายมานับไม่ถ้วน เหมือนกับเมล็ดพันธุ์ที่มันอยู่ในดินดำอันมืดมิด แต่จุดประสงค์ของมัน คือ การเติบโตและแบ่งปัน
☑️ 47.ถ้าคนเรามีความรกทางสมอง มันจะออกมาในสิ่งรอบตัว เราจะเห็นได้ทันที แล้วบ้านจะเป็นตัวบ่งบอกว่า
คนนั้นใส่ใจเรื่องอะไรบ้าง และบ่งบอกถึงจิตใจผู้อยู่อาศัย
☑️ 48.นิสัยที่เราควรทำอย่างหนึ่ง คือ การหมั่นเตือนตัวเองด้วยตัวเราเอง เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
☑️ 49.อุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในชีวิต
คือ ร่างกาย
☑️ 50.เราสามารถทำตัวเป็นเด็กที่ไหนก็ได้ แต่ด้วยความที่พอเราโตมา เราถูกกรอบล้อมไว้เยอะมาก จนเราลืมไปว่า จริงๆ แล้ว "เรามีอิสรภาพที่จะสร้างสรรค์"
☑️ 51.การจะเข้าใจ "ความสมดุล" ต้องเข้าใจว่า ในตัวมีความรู้สึกทั้งที่เป็นบวกและเป็นลบ ซึ่งถ้าเข้าใจแล้วว่า ลบก็ไม่เที่ยง บวกก็ไม่เที่ยง ซึ่งมันจะไม่ใช่การหันซ้ายหรือหันขวา แต่มันคือ การมองลงมาจากมุมบน
☑️ 52.จิตใจ คือ บ้านหลังสำคัญที่สุดและมีอานุภาพมากที่สุด ที่เป็นตัวกำหนดชีวิตทั้งชีวิตของคน
☑️ 53.สมาธิมี 2 ระดับ ระดับแรกเพื่อความสงบ ระดับที่ 2 เพื่อความสว่าง สงบนิ่งเพื่อที่จะสว่าง แล้วเราจะใช้ทั้งความสงบและความสว่างในการดำเนินชีวิต
☑️ 54.สิ่งที่เราเรียนรู้จากการอ่านหนังสือมาร้อยเล่มพันเล่ม เมื่อเทียบกับความรู้ที่เราเจอในตัวเองจริงๆ มันเทียบกันไม่ติดเลย เปรียบเสมือนเม็ดทรายกับภูเขา
☑️ 55."วินัย" เกิดขึ้นจากการเห็นคุณค่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ เมื่อไหร่ที่เราเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรากำลังทำ เราแทบจะไม่ต้องเตือนตัวเองเลยว่า "ฉันต้องมีวินัยกับเรื่องนั้น" เรารักที่จะทำ
☑️ 56.ถ้าเรารักสิ่งไหน เราจะดูแลสิ่งนั้นโดยเป็นอัตโนมัติ โดยที่ไม่คิดว่าเป็นภาระ เช่น ถ้าเรารักร่างกาย เราจะดูแลตัวเอง เราจะออกกำลังกาย เราจะกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
☑️ 57.การไม่มีวินัยเกิดจากความเพลิดเพลินจนเกินไปกับสิ่งที่ไม่เป็นแก่นสารหรือไร้สาระ เราแค่ต้องการพ้นจากความทุกข์ชั่วขณะ เราจึงไปทำสิ่งเพลิดเพลินที่มันเอาเวลาของเราไป
☑️ 58.ความเหนื่อยล้าเป็นเรื่องปกติของทุกคน การที่เราทำงานพลังงานของเราย่อมมีวันหมด เราจึงต้องรู้วิธีเติมพลังงานให้กับตัวเอง
☑️ 59.ความเหนื่อยล้าทางกาย สามารถบำรุงได้ด้วยสุขภาพที่แข็งแรง การกินอาหารที่ดี การพักผ่อนที่เพียงพอ ส่วนความเหนื่อยล้าทางจิตใจ สามารถบำรุงได้ด้วยสมาธิ ความเข้าใจในชีวิต และพลังงานด้านบวกจากประสบการณ์ของคนอื่น
☑️ 60.ก่อนที่กุหลาบจะเติบโต รากของมันอยู่ในดินดำที่มืดมิดวันแล้ววันเล่า แต่มันไม่ได้มองว่าเป็นอุปสรรค แต่มันเป็นปัจจัยของการเติบโต
☑️ 61.เราเชื่ออยู่เต็มหัวใจว่า ธรรมชาติย่อมผลักเหตุการณ์ที่ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เราปักใจไว้ ผลักออกไปแล้วพาเราไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
☑️ 62.นักแสดงเล่นเป็นคนอื่น ที่ไม่ได้มีวิถีชีวิตหรือชุดความคิดที่เหมือนเรา ดังนั้น เราต้องรู้จักวางตัวตนของตนเอง แล้วพาตัวเองไปเป็นคนอื่น
☑️ 63.เราต้องรู้ว่ารากเหง้าของคนๆ อื่นมีอะไรบ้าง เช่น คนที่เกิดมาในศาสนานี้คิดแบบไหน พอเรามองภาพกว้างออก เราจึงเห็นความหลากหลายของมนุษยชาติ
☑️ 64.เราอยู่กับหนังสือหนึ่งเล่ม คือ เราไม่ได้คิดว่าหนังสือเป็นหนังสือ เราคิดว่าหนังสือเป็นบุคคลหนึ่งที่เราจะศึกษา อ่านอย่างเดียวไม่พอ ต้องจด ต้องจำ
☑️ 65.มีเป้าหมายที่ชัดเจน รู้แน่ชัดว่ากิจกรรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายคืออะไร วางแผนว่าจะทำกิจกรรมนั้นในวันไหน เวลาไหน เมื่อไหร่ แล้วทำอย่างที่วางแผนไว้
☑️ 66.คนที่มีเป้าหมายไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่าชีวิตต้องการอะไร ชีวิตจะเหมือนขอนไม้ที่อยู่ในน้ำ แล้วแต่คลื่นแต่ลมจะพาไป
☑️ 67.มีเป้าหมายชัดเจน วางแผน ลงมือทำ แล้วอย่าลืมตรวจสอบว่า กิจกรรมที่ทำอยู่มันสอดคล้องกับเป้าหมายจริงๆ หรือว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า มันดีหรือไม่ดี มันถูกหรือไม่ถูก
☑️ 68.ทำงานให้งานมันพัฒนาตัวเอง พอทำเสร็จให้มันเกิดความภูมิใจในความอุตสาหะของตัวเองให้ได้ เพราะงานที่เราทำมันมีคุณค่าในตัวของมันเอง
☑️ 69.How to ที่สำคัญที่สุด คือ การศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ เราต้องพึ่งองค์ความรู้ หนังสือจากบุคคลที่ประสบความสำเร็จ ทั้งด้านการงาน การเงิน สุขภาพ แล้วนำทุกอย่างมาหล่อหลอมเป็นเรา
☑️ 70.เราไม่ได้เชื่อทุกอย่างที่เราอ่าน แต่เราอ่านเพื่อที่จะเปิดวิสัยทัศน์ของเราให้มองมุมอื่นออกด้วย
☑️ 71.เราต้องนำความรู้มาปรับใช้ จนเกิดความเข้าใจด้วยประสบการณ์ตรง เพราะถ้าได้แค่อ่านอย่างเดียว สุดท้ายจะเป็นนักอ่าน แต่ไม่ใช่นักทำ
☑️ 72.เราจะพัฒนาตัวเองได้ก็ต่อเมื่อ เราจำความรู้ที่เกี่ยวกับการพัฒนาตนเองได้
☑️ 73.บางอย่างมันควรจะจริงจัง เวลาจะสรุปอะไรสักอย่าง ต้องมีสมาธิ ต้องขบคิด ต้องศึกษา แต่หลังจากนั้น การลงมือทำปฏิบัติมันต้องสนุกและมีความสุข
☑️ 74.การที่เราทำให้ใครสักคนเกิดอคติในข้อความ มันไม่ได้ทำให้เขาเปิดใจรับรู้อะไรเลย แต่ถ้าเราทำให้ข้อความเราเสริมกำลังใจคนอ่านได้ อันนี้เป็นประโยชน์
☑️ 75."การเขียน" ถ้าเขียนเพื่อคนอื่น ต้องเอาคนอื่นเป็นตัวตั้ง ถ้าเขียนเพื่อตัวเอง ต้องเอาตัวเองเป็นตัวตั้ง
☑️ 76.เราต้องแยกให้ออกระหว่าง
"การระบายความรู้สึก" กับ "การแสดงความคิดเห็นที่สร้างสรรค์"
☑️ 77.การระบายความรู้สึก คือ การต้องการให้คนอื่นรู้ความรู้สึกของเรา ว่าเรารู้สึกยังไงกับเรื่องนั้นๆ
☑️ 78.การแสดงความรู้สึกอย่างสร้างสรรค์ คือ เราจะรู้สึกว่าข้อความของเรา ถ้ามันช่วยผู้อื่นได้มันน่าจะดี และเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
☑️ 79.ไม่รู้จริงไม่เขียน ไม่จำเป็นไม่บอก ไม่เมตตาไม่ปล่อยออกไป คือ การคัดกรองก่อนเขียน
☑️ 80.จริงๆ แล้ว เราไม่สามารถว่าใครได้เลย เพราะถ้าเราว่าคนอื่นเห็นแก่ตัว แล้วเรามีเกี่ยวเรื่องที่เห็นแก่ตัว เราว่าคนอื่นไม่รับผิดชอบ แล้วเรามีกี่เรื่องที่ไม่รับผิดชอบ เราแทบจะว่าใครไม่ได้เลย
☑️ 81.บริหารจัดการเงินโดยแบ่งเป็น 6 บัญชี คือ
1.บัญชีที่จำเป็น
2.บัญชีที่เอาไว้ลงทุน
3.บัญชีที่เอาไว้ถลุงตามความต้องการส่วนตัว
4.บัญชีเงินออมระยะยาว
5.บัญชีสำหรับการศึกษา
6.บัญชีทำบุญ
☑️ 82.เมื่อไหร่ที่วางแผนแล้ว จัดการบริหารจัดการเงินแล้ว มีเงินทุนส่วนหนึ่ง มนุษย์จะมีความมั่นใจมากขึ้น ถ้าตัวเองมี "ต้นทุน"
☑️ 83.มนุษย์มีศักยภาพที่จะร่ำรวยได้ ไฉนจึงเลือกความยากจน ความจนไม่ใช่เรื่องปกติ แต่มันคล้ายจะเป็นเรื่องปกติ จริงๆ ความร่ำรวยต่างหากที่เป็นเรื่องปกติ
☑️ 84.ธรรมชาติแสดงให้เราเห็นอยู่ตลอดว่า ธรรมชาติล้วนเติบโตจากเมล็ดพันธุ์ที่นิดเดียว มีแต่มนุษย์เท่านั้น ที่ปิดกั้นมุมมองของตัวเอง แล้วล้อมตัวเองด้วยหลักการ หรือความคิดประสบการณ์ในอดีต
☑️ 85.คนที่มีเพิ่มขึ้นคิดว่า แม้จะได้เงินมาน้อยนิดก็ต้องบริหารจัดการ ส่วนคนที่ขัดสนอาจจะคิดว่า ไว้มีเงินเยอะก่อนเดี๋ยวค่อยบริหาร
☑️ 86.ถ้าอยากจะมีเงินเพิ่มขึ้น อยากที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ แล้วมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม ก็ต้องศึกษาคนที่เขาเคยทำได้มาแล้ว ซึ่งหลายคนเขียนหนังสือมาให้เราอ่าน คำถามคือ แล้วเราได้อ่านหนังสือนั้นไหม
☑️ 87.มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าเราอยากจะออกจากสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าเราไม่พัฒนา ดังนั้น เราต้องแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ และความคิด เราถึงจะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้
☑️ 88.เรารู้จักตัวเองน้อยมาก เพราะว่าเราดำเนินชีวิตตามความคิดคุ้นชินของเรา ความคุ้นชินทางจิต ความคุ้นชินทางกาย และความคุ้นชินทางการเสพ
☑️ 89.แทนที่เรื่องไร้สาระมากมาย ด้วยสิ่งที่มีสาระ สร้างนิสัยใหม่ขึ้นมา เพื่อให้แทนที่นิสัยเก่า ที่ทำให้เราเสียเวลา
☑️ 90.พยายามฝึกตัวเองให้จดจ่ออยู่กับปัจจุบัน "ทำทีละอย่าง" กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
☑️ 91.การอ่านหนังสือที่ตัวเองสนใจจริงๆ มันกลับจำได้ไว พอเราเริ่มเปิดใจจริงๆ หนังสือไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด ที่คนเราไม่ชอบอ่านหนังสือ ส่วนใหญ่เพราะตอนเด็กๆ เราถูกบังคับให้อ่านในสิ่งที่เราไม่สนใจ
☑️ 92.จิตมนุษย์ที่ฝึกแล้ว จะรู้ว่าจิตที่ละเอียดแล้ว ผ่านการรับรู้ลมหายใจ มันจะค่อยๆ ละเอียด เสมือนเราไม่ได้หายใจเลย เราจะจดจ่อที่ลมหายใจให้ได้นานขึ้นเรื่อยๆ
☑️ 93.ทุกอย่างในโลกใบนี้ ทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะขับรถ กินข้าว ออกกำลังกาย วาดรูป ทุกอย่างใช้สมาธิทั้งหมด แต่เราใช้สมาธิกันขาดช่วง
☑️ 94.การทำสมาธิในรูปแบบของอาจารย์โกเอ็นก้า คือ การเข้าใจธรรมชาติด้วยการเรียนรู้ธรรมชาติที่มีอยู่ในตัวเอง สมาธิเป็นของธรรมชาติ ไม่มีการแบ่งแยกศาสนา สมาธิเป็นของสากล
☑️ 95.การเกลานิสัยที่ดีที่สุด คือ การได้รู้จักตัวเอง เพราะมนุษย์เมื่อรู้จักตัวเองแล้ว จะรู้ว่าจะดำเนินชีวิตอย่างไร แต่ถ้ายังไม่รู้จักตัวเอง ก็จะควบคุมชีวิตตัวเองไม่ได้
☑️ 96.เราต้องเปิดใจให้กว้าง แล้วมองโลกตามความเป็นจริงอย่างที่มันเป็น ไม่ใช่มองโลกอย่างแบบที่ลัทธิให้เรามอง เรียกว่า "การก้าวพ้นศาสนา"
☑️ 97.เมื่อมนุษย์ฝึกสมาธิจนจิตสงบ จิตสว่าง ศีลธรรมในใจมันจะเบ่งบานออกมา ซึ่งศีลธรรมในใจมีอยู่ในมนุษย์ทุกคนอยู่แล้ว
☑️ 98.เพราะทำบ่อยๆ มันจึงทะลุปรุโปร่งในสิ่งที่ทำ เพราะเราทำเรื่องที่มันมีประโยชน์ เราทำให้จิตใจสงบ สงัด สว่าง ซึ่งมันจำเป็นมากต่อชีวิตที่มันผันผวนทุกวัน
☑️ 99.คนที่ไม่สามารถเปิดใจได้ เหมือนคนที่พันธนาการตัวเองเอาไว้ กับหลักการหนึ่ง โดยที่ปฏิเสธอีกหลักการหนึ่ง ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ศึกษาและทดลอง จนเกิดความเข้าใจในตัวเอง
☑️ 100.เวลาที่เราฟุ้งซ่าน เราฟุ้งซ่านหลายเรื่อง เราหวาดกลัวอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เราคับแค้นใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เหมือนคนเปิดวิทยุทิ้งไว้ตลอดแล้วหาปุ่มปิดไม่เจอ
☑️ 101.การแก้ไขที่ตรงจุด คือ การเผชิญกับมัน แล้วเห็นความเป็นธรรมชาติของมัน ไม่ว่าจะเป็นความคับแค้นใจหรือกังวลใจ มันเกิดขึ้นมาแล้วก็ดับไป
☑️ 102.อคติมันเหมือนเสื้อผ้าที่เราต้องถอดออก เมื่อไหร่ที่เราถอดออก เราจะเห็นเนื้อแท้ของตัวเรา แล้วเราศึกษาเนื้อแท้ของตัวเรา โดยที่ไม่ให้มีอะไรมาล้อมไว้
☑️ 103.การทำสมาธิแล้วไม่เกิดความสุข เพราะเขาคาดหวังจากความสุขจากการทำ แต่เราไม่ได้คาดหวังความสุขจากการทำสมาธิ เราคาดหวังความสงบ
☑️ 104.การเห็นธรรมชาติ ก็ไม่ต่างอะไรจากการเห็นฤดู หน้าฝนพอมาแล้วก็ไป หน้าร้อนพอมาแล้วก็ไป พอเรารับรู้และเข้าใจจากภายใน สิ่งนั้นนำความสุขที่แท้จริงมาให้เรา
☑️ 105.กำลังใจเกิดได้จากหลายทาง เช่น จากการมองเห็น จากการฟังเรื่องของผู้อื่น และสามารถสร้างจากตัวเองได้โดยการเข้าใจชีวิต เข้าใจในธรรมชาติอย่างที่มันเป็น
☑️ 106.แค่การสอนอย่างเดียวไม่พอ การดำเนินชีวิตให้เห็นเป็นแบบอย่างต่างหาก ที่จะเป็นสิ่งที่ซึมซับเด็กจริงๆ
☑️ 107.เมื่อบ่มเพาะนิสัยการผัดวันประกันพรุ่งกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ได้ เรื่องใหญ่ก็ทำได้
☑️ 108.มีนิสัยหลายอย่างมากที่เราฝึกได้ที่บ้าน ฝึกให้ตัวเองมีวินัย ฝึกให้ตัวเองเป็นนักอ่าน ฝึกที่จะสังเกตสิ่งที่อยู่ในบ้าน ฝึกสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในบ้าน
☑️ 109.ในยุคปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่เร่งรีบ จนบางทีเราทำแต่ภาระหน้าที่ จนลืมการพัฒนาตัวเองไป
☑️ 110.Quality time คือ ช่วงเวลาที่ทำให้ชีวิตมีคุณค่ามากขึ้น ซึ่งมีเรื่องของจิตใจ ร่างกาย ความรู้ และความจำ
☑️ 111.Quality time คือ นั่งสมาธิ ยืดเนื้อยืดตัว อ่านหนังสือ จดบันทึก ใช้อย่างละ 15 นาที และทำต่อเนื่องทุกวัน
☑️ 112.เรากำลังใช้จิตที่ฟุ้งซ่านใช้ชีวิตอยู่ทุกวัน แล้วเราจัดการกับภายในไม่ได้ เราจดจ่อตัวเองได้น้อยมาก แต่ถ้าเราฝึกนั่งสมาธิวันละนิด เราจะสามารถหยุดความคิดที่ฟุ้งซ่านได้
☑️ 113.ความคิดที่ฟุ้งซ่าน ทำให้ชีวิตคนเราไม่มีความสุข เพราะไม่รู้ว่าจะหยุดคิดยังไง จึงหลับไปพร้อมกับความคิดที่ฟุ้งซ่าน ตื่นมาก็เพลียไม่มีแรง เพราะจิตใจไม่เคยได้รับการพักผ่อน
☑️ 114.เวลาที่เราอยากให้บางอย่างมันเกิดขึ้น แล้วมันไม่เป็นดั่งใจเรา มันจะทรมานมาก แล้วเราก็จะรู้ว่า ความทรมานเกิดขึ้นจาก "ความอยาก"
☑️ 115.ตัวเรายังเปลี่ยนไปทุกวัน ทำไมคนที่ทำไม่ดีกับเราจึงจะเปลี่ยนไม่ได้ แต่ที่เราไม่คุ้นชินอยู่กับปัจจุบัน เราจึงตัดสินเขาด้วยภาพในอดีต
☑️ 116.ในขณะเดียวกัน บางคนที่เราชอบมากๆ เพราะเขาเป็นคนดี ปัจจุบันเขาอาจจะเลวก็ได้ เรายังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพราะฉะนั้น เราต้องฝึกตัวเองให้กลับมาสู่ปัจจุบัน เราจึงจะมองเห็นผู้อื่นในความเป็นจริงของปัจจุบันนั้นจริงๆ
☑️ 117.จงเลือกสิ่งเสพ จะดูอะไร จะฟังอะไร ต้องคัดกรอง เพราะมันมีผลต่อระบบทางการคิดของเรามาก ดังนั้น สิ่งที่เราเสพมีผลอย่างมากต่อการดำรงชีวิต
☑️ 118.หลังจากนั่งสมาธิทุกครั้ง เราควรส่งความปรารถนาดี สร้างบรรยากาศในห้อง รู้สึกขอบคุณงานที่ได้ทำ เพื่อนร่วมงาน ปัจจัย 4 ทุกอย่างที่ทำให้เราสะดวกสบาย ขอบคุณเห็นคุณค่า
☑️ 119.ถ้าเราสะสมกิจกรรมที่ดีทุกวัน ในอนาคต กิจกรรมที่สะสมมันจะหล่อหลอมเป็นคุณภาพชีวิตที่ดี
☑️ 120.เราจะใช้ความรู้ได้ก็ต่อเมื่อจำมันได้ เราจะจำมันได้ก็ต่อเมื่อเราจด
☑️ 121.จุดประสงค์ของการอ่าน ไม่ใช่การเอาความรู้ไปเอาชนะใคร แต่เพื่ออัพเกรดสมองของตัวเอง เพราะว่าเราใช้ชีวิตอยู่กับความผันผวน ความไม่แน่นอน เราจึงต้องใช้สติปัญญาจัดการกับปัญหานั้น
-สรุปโดย : Inspiration Channel
-สามารถฟังคลิปเสียงได้ที่ 🗣️
https://youtu.be/cljHFfHHwIA
-🙏ขอบคุณมากครับ
ข้อคิด
ชีวิต
พัฒนาตัวเอง
2 บันทึก
4
1
1
2
4
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย