ไปรู้จักกับ Li Lu คนที่ปู่ Munger บอกว่าเป็น ‘Chinese Warren Buffett’ กันครับ 🇨🇳
1
📖 เรียนวิชากับนักลงทุนตัวจริง
Li Lu เป็นคนจีนแท้ๆ เขาเกิดในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรมจีนพอดี ในวัยเด็กเขาจึงต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์และมีชีวิตที่ยากลำบาก ไม่ได้เรียนหนังสือตั้งแต่ยังเล็ก
แต่ด้วยความฉลาดที่ติดตัวมา เขาเรียนจนจบปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Nanjing ก่อนจะอพยพมาอยู่ที่รัฐนิวยอร์ก และได้รับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง Columbia University
โดยในช่วงที่เขาเรียนอยู่ Columbia University ได้เชิญ Warren Buffett ซึ่งเป็นศิษย์เก่ามาเป็นอาจารย์พิเศษในวิชาที่เขาเรียน ซึ่งตัว Li Lu เล่าให้ฟังว่าเขาเกือบจะไม่ได้เข้าเรียนในคลาสนี้ครับ
เรื่องตลกที่เกิดขึ้นจริงก็คือ ในตอนนั้นภาษาอังกฤษของ Li Lu ยังไม่แข็งแรง เพราะเมื่อเพื่อนของเขาชวนให้เข้าไปฟังปู่ Buffett พูดเรื่องหลักการลงทุนพื้นฐาน เผื่อจะมีวิธีหารายได้เพิ่มจากทุนการศึกษาที่ได้
แต่ตัว Li Lu กลับเข้าใจว่าเพื่อนชวนให้ไปกิน ‘บุฟเฟ่ต์’ ฟรี ซึ่งจะทำให้เขาประหยัดเงินทุนการศึกษาที่เหลืออยู่น้อยนิดต่อไปได้อีก เขาจึงตกปากรับคำชวนของเพื่อนไปด้วยความเข้าใจผิดล้วนๆ 😂
4
สุดท้าย โชคชะตาก็ทำให้เขาก็ได้ฟังปู่ Buffett พูดในปี 2536 และเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงนั้นก็ได้ ‘เปลี่ยนชีวิต’ ของ Li Lu ไปเลย เขาบอกว่าหลักการของปู่ (กลยุทธ์ลงทุนหุ้นแบบ Net-Nets) นั้น “รัดกุม มีเหตุผล และน่าทำตาม”
1
เพราะหลังจากนั้นไม่ถึงปี เขาก็นำเงินทุนการศึกษาที่เหลืออยู่มาลงทุนในหุ้นตามหลักการที่ได้ฟังมา และหลังเรียนจบในปี 2540 เขาก็ก่อตั้งกองทุนของตัวเองในชื่อ Himalaya Capital ทันทีครับ
แต่ Li Lu ไม่ยอมแพ้ครับ เขาเดินหน้าหาหุ้นตามกลยุทธ์ Net-Nets ของ Ben Graham เพื่อลงทุนไปเรื่อยๆ จนเจอกับขุมทรัพย์หุ้น 10 เด้งตัวแรก ในที่ที่คุณยากจะนึกถึง นั่นคือหุ้นบริษัทน้ำมัน Lukoil ของรัสเซียครับ
📌 หาความรู้เพิ่มอยู่เสมอ: Li Lu บอกว่าเขาชอบหาความรู้เรื่องธุรกิจหรือหาหุ้นในประเทศใหม่ๆ ที่เขาไม่รู้จักอยู่เสมอ เพื่อขยายขอบเขตความสามารถของตัวเอง ซึ่งจะทำให้เขาเจอโอกาสลงทุนดีๆ เยอะขึ้น
2
อีกข้อได้เปรียบของ Li Lu คือ เขาเป็นคนจีนโดยกำเนิดจึงเข้าใจภาษาจีนเป็นอย่างดี และทำให้เขาหาโอกาสลงทุนจากตลาดหุ้นจีนได้สะดวกกว่านักลงทุนสาย VI คนอื่นๆ
1
ซึ่งก็เป็น Li Lu นี่แหละที่แนะนำให้ปู่ Buffett และ Munger รู้จักกับหุ้น BYD ยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์ EV ของจีน ซึ่งทำกำไรก้อนโตให้กับ Berkshire Hathaway ในปัจจุบัน และตัว Li Lu ก็ลงทุนหุ้น BYD อยู่ด้วย
2
และกองทุน Himalaya Capital ของเขาก็เป็นกองทุนเดียวนอกเหนือจาก Berkshire Hathaway ที่ปู่ Munger เอาเงินของตัวเองไปลงทุนด้วย เพราะยอมรับในความสามารถ
1
โดยปู่ Munger เคยพูดถึง Li Lu ไว้ว่า “ผมอ่านนิตยสาร Barron’s มาเกือบ 50 ปี ผมเจอโอกาสการลงทุนดีๆ แค่ครั้งเดียวและได้กำไรมา 80 ล้านดอลลาร์ ต่อมาผมเอาเงิน 80 ล้านดอลลาร์ไปให้ Li Lu ลงทุนต่อ และเขาทำกำไรให้ผมได้ 400 หรือ 500 ล้านดอลลาร์”
2
แค่เท่านี้ คุณก็น่าจะพอเห็นภาพความเป็นอัจฉริยะด้านการลงทุนของ Li Lu ที่ขนาดว่านักลงทุนที่มั่งคั่งที่สุดในโลกยังให้การยอมรับ 👍
ถึงแม้ในโลกการลงทุน เราจะไม่ค่อยได้ยินชื่อของ Li Lu ปรากฎตามหน้าสื่อมากนัก แต่นักลงทุนสาย VI ที่เก่งๆ หลายคนกลับให้การยอมรับในฝีมือการลงทุนของเขา
แต่มุมมองต่อการลงทุนของ Li Lu นั้นน่าศึกษา เพราะเขานำหลักการลงทุนจากทั้ง Warren Buffett และ Charlie Munger มาต่อยอด แถมยังขยันหาหุ้นในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย เพื่อขยายขอบเขตความรู้ของตัวเองอีกด้วย
2
ถือเป็นคุณลักษณะที่นักลงทุนสาย VI ที่ประสบความสำเร็จมักจะมีร่วมกันครับ คือ แน่วแน่ในหลักการลงทุน มองทุกอย่างในระยะยาว และหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ