4 ก.พ. 2023 เวลา 15:00 • ไลฟ์สไตล์

รู้จัก “Deep Talk” เมื่อการพูดคุยที่ลึกซึ้ง ช่วยเพิ่มความสุขให้ “วัยทำงาน”

การคุยเรื่องไร้สาระไม่ผิด! แถมบางครั้งก็มีประโยชน์ในตัวมันเอง แต่ถ้าลองเปลี่ยนจากการพูดคุยทั่วๆ ไป มาเป็นการคุยแบบลึกซึ้งดูบ้าง อาจพบว่านอกจากได้ประโยชน์แล้ว การพูดคุยแบบ “Deep Talk” ยังช่วยเพิ่มความสุขให้ วัยทำงาน ได้มากกว่า
หากคุณรู้สึกว่าการทักทายเพื่อนร่วมงานในขณะขึ้นลิฟต์ ดูจะเป็นเรื่องปกติทั่วไปสำหรับ “วัยทำงาน” แค่คุยกันนิดหน่อยให้พอหอมปากหอมคอ เช่น “เป็นไงบ้าง ทานข้าวยัง” จากนั้นบทสนทนาก็ตัดจบไปอย่างรวดเร็วภายใน 1-2 นาที ในบางครั้งการทักทายที่ว่านี้ อาจเป็นแค่ตัวช่วยในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถต่อบทสนทนาอัพเลเวลสู่ “Deep Talk” ให้ลึกลงไปอีก
1
แทนที่จะถามว่า “ทานข้าวยัง” ลองเปลี่ยนเป็น “ทานข้าวกับอะไร ช่วงนี้เธออินกับอาหารสไตล์ไหนอยู่” อาจจะฟังดูแปลกไปหน่อยที่ถามเรื่องส่วนตัวคนอื่น แต่การพูดคุยที่ลึกซึ้งกว่าการสนทนาทั่วไป กลับมีประโยชน์มากกว่าที่คิด
1
ทำความรู้จัก Deep Talk คืออะไร?
สำหรับคำว่า “Deep Talk” หรือ “Meaningful Conversation” หมายถึง การพูดคุยแบบลึกซึ้งที่มีความหมายที่เป็นประโยชน์ ซึ่งเราจะไม่ถามแค่ว่า “ที่ไหน เมื่อไร ยังไง” แต่การชวนคุยเรื่องที่ลึกซึ้ง เช่น จิตวิทยา ชีวิต หรือไลฟ์สไตล์ต่างๆ โดยการพูดคุย Deep Talk สามารถคุยแบบตัวต่อตัวสองคน หรือคุยแบเป็นกลุ่มก็ได้เช่นกัน การพูดคุยในลักษณะนี้จะทำให้คุณได้พบมุมมองที่แปลกใหม่ เผลอๆ ความสัมพันธ์ของคุณกับเพื่อนร่วมงานอาจแน่นแฟ้นขึ้นก็ได้ และเรื่องนี้มีการพิสูจน์ทางจิตวิทยาอีกด้วย
1
โดยเมื่อไม่นานมานี้ มีงานวิจัยที่น่าสนใจที่ชื่อว่า “งานวิจัยแอบฟังความสุข” ทดลองโดยนักจิตวิทยาอย่าง “Matthias Mehl” ได้ทำการทดลองนี้กับนักศึกษา จนได้ข้อสรุปว่า “ถ้าคุณคุยเรื่องที่มีสาระอย่างลึกซึ้ง (Deep talk) กับเพื่อนของคุณ คุณจะมีโอกาสพบความสุขได้มากกว่า” แต่ไม่ใช่ว่าการพูดคุยแบบทั่วไป หรือที่เรียกว่า Small Talk จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
1
ลองมาดูความแตกต่างและความสำคัญของการพูดคุย ระหว่าง Deep Talk กับ Small Talk ว่าเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
โฆษณา