22 ม.ค. 2023 เวลา 05:41 • หนังสือ

The World of Ice and Fire ❄️🔥

ในที่สุดก็จบแล้วค่า!! เย้ 🎉🎉 ถ้าถามว่าทำไมใช้เวลานานมากขนาดนี้ ตัดเรื่องความยุ่งออกไปเลยก็คือหนังสือเล่มนี้ใหญ่ หนา และหนักมากกก (ดูได้จากในรูปเลย)​ ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่สามารถพกติดตัวไปไหนมาไหนได้
ที่สำคัญกว่านั้นคือไม่สามารถยกมาอ่านระหว่างพักทำงานได้เลย ต้องอ่านแบบจัดท่าทาง นั่งบนเก้าอี้หาหมอนมารองสำหรับวางหนังสือเท่านั้น ไม่งั้นคือปวดข้อมือสุดๆ 😅
#โลกแห่งมหาศึกชิงบัลลังก์​ จาก แพรวสำนักพิมพ์ เป็นหนังสือที่มีการเล่าเรื่องคล้ายกับบันทึกประวัติศาสตร์ทั้งมวลของโลกที่เป็นฉากหลังในเรื่อง Game​ of Thrones​ โดยเมสเตอร์คนหนึ่งแห่งซิตาเดล เนื้อหาจะเล่าตั้งแต่ยุคแรกเริ่มไล่มาเรื่อยๆจนถึงสมัยเอกอนผู้พิชิตบุกเวสเทอรอสและจบลงด้วยยุคสมัยของพระราชาโรเบิร์ต จากนั้นก็จะเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับดินแดนต่างๆในโลกของพวกเขา
คือบอกได้เลยว่าเนื้อหาแน่นและละเอียดมาก แฟนๆซีรีส์นี้ต้องไม่พลาดเลย อ่านแล้วคือว้าวมาก สนุกมาก นี่ชอบตอนอ่านเรื่องราชวงศ์​ทาร์แกเรียน กับอาณาจักรของตระกูลแลนนิสเตอร์สุด ส่วนของสตาร์คคือรู้เยอะแล้วจากซีรีส์ 555555 อ้อ ท้ายเล่มจะมีผังตระกูลของ 3 ตระกูลนี้ด้วยนะ
พูดกันที่ความสวยงามก่อน เล่มนี้เคยตีพิมพ์มาเมื่อนานมาแล้วและหายากมากๆอยู่ช่วงนึง พอรีปริ้นใหม่เราก็รีบเอฟมาเลย ส่วนตัวเราชอบปกเวอร์ชันนี้นะ แล้วก็ตัวเล่มนี้จะเป็นปกแข็ง เนื้อหาข้างในคือพิมพ์สีทั้งเล่ม รูปประกอบเยอะใช้ได้ มีแผนที่เต็มไปหมด มีรูปของกลุ่มคนในเมืองต่างๆทั้งในเวสเทอรอสและพวกนครอิสระ ช่วยเสริมจินตนาการเวลาเราอ่านเรื่องหลักได้ดีเลย 555555
ส่วนเนื้อหาก็เหมือนนั่งเรียนประวัติศาสตร์​อะ บางช่วงสนุก บางช่วงน่าเบื่อ อาณาจักรหนึ่งก่อตั้งขึ้น รุ่งเรือง เสื่อมลง แล้วสุดท้ายก็ล่มสลาย อาณาจักรที่อุดมสมบูรณ์​มักจะมีสงครามเสมอ เดี๋ยวๆก็ถูกคนนั้นคนนี้พิชิต เปลี่ยนมือเจ้าของไปมาในช่วงหลายศตวรรษ ลอร์ดบางคนหนักแน่น ยึดมั่นในอุดมการณ์ บางคนเอาตัวรอดเก่ง เปลี่ยนสีไปมาไว ยอมทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อรักษาชีวิต
พระราชาบางคนเป็นนักปกครอง บางคนเป็นนักรบ บ้างเป็นมหาราช บ้างก็เป็นทรราช ตระกูลที่เคยเป็นศัตรูกันพอเปลี่ยนยุคก็มาจับมือเป็นมิตรกัน ส่วนตระกูลที่เป็นมิตรกันก็บาดหมางจนถึงขั้นฆ่ากันตายได้ การทรยศ หักหลัง มักใหญ่ใฝ่สูง หวังจะช่วงชิงอำนาจมาเป็นของตน เป็นสิ่งที่พบเจอได้ในทุกยุค เพราะอำนาจและเงินทองคือของอันตราย มันดึงดูดใจเราให้ลุ่มหลงมัวเมาจนละทิ้งผิดชอบชั่วดีได้เสมอ
สิ่งที่น่าเศร้าของเรื่องนี้คือมันยิ่งตอกย้ำชัดเจนว่าการที่คุณเป็นคนดีก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะดีกับคุณ ไม่ได้แปลว่าจะมีแต่คนรักคุณ กลับกันคุณเป็นคนชั่วก็ไม่จำเป็นต้องรับผลกรรมที่ตัวเองทำ สามารถมีชีวิตสุขสบายจนวันตายได้เช่นกัน โลกนี้มันไม่ได้แฟร์กับเราขนาดนั้น
อีกเรื่องคือการมีผู้นำที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง บ่อยครั้งที่เวสเทอรอสเข้าสู่ยุคมืดเพราะผู้นำที่อ่อนแอ โง่งม และหลงตัวเอง ไม่ฉลาดในการปกครองแถมยังเป็นนักรบที่ขี้ขลาด ฟังแต่คำของคนที่ยกยอปอปั้น ไม่สนใจฟังเสียงของกัลยาณมิตร​ที่หวังดี ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในวงล้อมของคนที่หน้าไหว้หลังหลอก สุดท้ายก็ทำให้ทั้งอาณาจักรและชื่อเสียงของตระกูลทาร์แกเรียนต้องมัวหมองไปด้วย
การอ่านเล่มนี้ทำให้เรามองเห็นสัจธรรมของความไม่เที่ยงคือทุกสิ่งล้วนสูญสลายไปทั้งสิ้น ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่เกรียงไกรแค่ไหนก็ตาม เพราะไม่มีใครทรงพลังเหนือกาลเวลา ทาร์แกเรียนที่เคยทรงอำนาจที่สุดยังไม่อาจพิชิตโลกได้ทั้งใบ และไม่อาจดำรงอยู่ได้ตลอดกาลเช่นกัน
ดังนั้นสิ่งสำคัญคือเรื่องราวที่พวกเขาทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังจดจำ พระราชามังกรมากมายสร้างทั้งชื่อเสียงและชื่อเสีย นักขับลำนำเล่าขานถึงพวกเขาบางคนด้วยความยกย่อง และด้วยความพรั่นพรึงสำหรับบางคน แต่สิ่งที่พระราชาทุกคนมีเหมือนกันคือความกดดันของการปกครองแผ่นดินในฐานะเจ้าเหนือหัว มงกุฎของพวกเขานั้นมีน้ำหนักมหาศาลและมันมีอำนาจที่จะเปลี่ยนผู้สวมใส่ให้ดีขึ้นหรือแย่ลงก็ได้ทั้งนั้น
ที่ที่อันตรายที่สุดในเจ็ดราชอาณาจักรคือบัลลังก์เหล็ก
เมื่อชายคนหนึ่งสวมมงกุฎ​ เขาก็ไม่อาจไว้ใจใครได้เต็มที่อีกต่อไปแม้แต่ญาติพี่น้องร่วมสายเลือด จะทำตัวอ่อนแอก็ไม่ได้ แต่จะแข็งกร้าวไปก็ไม่ดี จะประนีประนอม​เกินก็ถูกมองว่าขี้ขลาด ถ้ากระหายสงครามมากไปคนก็มองว่าเหี้ยมโหด จะขยับทำอะไรก็ต้องคิดให้มาก เพราะทุกการตัดสินใจของเขาล้วนส่งผลกระทบต่อบรรดาลอร์ดทั้งหลายที่เลี้ยงไม่เคยเชื่อง
และนี่คือประวัติศาสตร์​ของโลกแห่งมหาศึกชิงบัลลังก์​ที่ดูๆไปก็ไม่ต่างกับประวัติศาสตร์ของโลกเราเลยสักนิด 😂
โฆษณา