เรื่องจริงของปาฏิหาริย์การแยก "ทะเลแดง (Red Sea)" ของ "โมเสส (Moses)"
ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับปาฏิหาริย์การแยกทะเลแดงของโมเสส ซึ่งเป็นการที่โมเสส ได้แยกทะเลแดงออกเป็นสอง ทำให้คาราวานชาวยิวเดินข้ามไปได้ หนีจากกองทัพอียิปต์ได้อย่างปลอดภัย
แต่สำหรับบทความนี้ ผมจะขยายความและให้ข้อมูลเพิ่มเติมให้คุณผู้อ่านลองดูนะครับ
ในคัมภีร์ไบเบิ้ล การแยกทะเลแดงของโมเสสนั้นเป็นปาฏิหาริย์ แต่ในความเป็นจริงนั้น นี่คือปาฏิหาริย์จริงหรือ?
ตามตำนานนั้น นี่คือพลังจากพระเจ้าที่ส่งผ่านโมเสส โดยตามคัมภีร์นั้น "โมเสส (Moses)" คือตัวแทนของพระเจ้า เป็นผู้ที่พระเจ้าเลือกให้มาปลดปล่อยชาวยิวจากการเป็นทาสภายใต้อียิปต์
โมเสส (Moses)
มารดาของโมเสสนั้นเป็นชาวยิว และตามตำนาน ฟาโรห์ก็ทรงมีรับสั่งให้สังหารเด็กชายชาวยิวทั้งหมด แต่โชคชะตาก็ทำให้โมเสสได้เข้ามาอยู่ในราชสำนักอียิปต์
เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ พระเจ้าก็ทรงมอบหมายให้โมเสสเป็นผู้ปลดปล่อยชาวอิสราเอลจากการเป็นทาส โดยโมเสสได้ใช้พลังอำนาจที่ได้จากพระเจ้า สร้างปาฏิหาริย์ต่างๆ มากมาย
การแยกทะเลแดงออกเป็นสองก็คือหนึ่งในปาฏิหาริย์ของโมเสส โดยเมื่อทะเลแยกออกเป็นสอง และขบวนชาวยิวเดินข้ามผ่านไปได้อย่างปลอดภัยแล้ว เมื่อกองทัพอียิปต์ติดตามมาถึง โมเสสก็เพียงแค่ชูมือ และแม่น้ำที่แยกออกเป็นสองก็ปิดกลับเข้ามา ทำให้กองทัพอียิปต์จมน้ำ วอดวายในพริบตา
ทั้งหมดนี้เมื่อท่านผู้อ่านได้อ่านดู ก็คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือนิทาน เป็นเพียงแค่ตำนานซึ่งไม่มีทางเป็นจริง
แต่ที่น่าแปลกก็คือ จากการตรวจสอบใต้ทะเลแดง ทีมสำรวจก็พบกับกองกระดูกมนุษย์และกระดูกม้าเป็นจำนวนมาก โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสต็อกโฮล์ม (Stockholm University) ได้พบซากต่างๆ ใต้ทะเลแดง
หนึ่งในสิ่งที่ค้นพบ ก็คือกระดูกโคนขาของชายที่สูงประมาณ 165-170 เซนติเมตร
จากการค้นพบนี้ ทำให้หลายคนเริ่มโยงกับตำนานของโมเสส และคิดว่านี่คือเศษซากกระดูกของกองทัพฟาโรห์ ซึ่งจมน้ำหลังจากที่โมเสสใช้ปาฏิหาริย์ทำให้ทะเลแดงปิดกลับมา หากแต่นักวิทยาศาสตร์บางคนก็คิดว่าอันที่จริง สิ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็คือความรู้ด้านภูมิศาสตร์และดาราศาสตร์ของโมเสส
จากภาพยนตร์หลายเรื่อง จะเห็นได้ว่าโมเสสนั้นใช้ปาฏิหาริย์แยกทะเลแดงออกเป็นสอง หากแต่จากภาพยนตร์บางเรื่องก็สื่อว่าสิ่งที่ทำให้ทะเลแดงแยกออกเป็นสองก็คือคลื่นสึนามิ ซึ่งเกิดจากแผ่นดินไหว ทำให้แม่น้ำแยกออกเป็นสอง
หากแต่เมื่อพิจารณาตามความเป็นจริง ขบวนชาวยิวก็คงไม่สามารถเดินข้ามน้ำได้ทันเวลาก่อนที่แม่น้ำจะปิดกลับมาก่อนที่คลื่นจะซัด และโมเสสก็คงจะไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ ยกเว้นพระเจ้าจะทรงบอก
นักวิทยาศาสตร์คาดว่าบางที สิ่งสำคัญก็คือความเฉลียวฉลาด การคำนวณของโมเสส ทำให้สามารถคาดเดาได้ว่าแม่น้ำจะแยกและเกิดเป็นทางให้เดินผ่านในเวลาใด
เป็นไปได้ที่อาจจะมีช่วงเวลาที่กระแสน้ำอยู่ในระดับต่ำ ทำให้เกิดทางเดินข้ามไปได้เป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง ก่อนที่ทางเดินนั้นจะหายไปเมื่อระดับน้ำกลับมาสูงขึ้น
ตามพันธสัญญาเดิม (Old Testament) ชาวยิวได้ตั้งค่ายเพื่อเตรียมข้ามทะเลแดง โดยกองทัพของฟาโรห์ก็ได้ติดตามมาอย่างรวดเร็ว ทำให้โมเสสคำนวณว่ากองทัพอียิปต์ต้องใช้เวลานานแค่ไหนจึงจะมาถึงฝั่ง
โมเสสนั้นเชี่ยวชาญในดาราศาสตร์ ทำให้สามารถคำนวณเวลาจากดวงดาว และคาดการณ์ถึงเวลาน้ำขึ้นน้ำลง ในขณะที่กองทัพของฟาโรห์ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้มากนัก
หากว่าโมเสสสามารถคำนวณระยะเวลาที่ขบวนชาวยิวสามารถหนี เวลาที่จะเกิดทางเดินข้าม และทางเดินนี้จะอยู่ได้นานเท่าไร ก็จะสามารถนำขบวนชาวยิวหนีไปได้อย่างปลอดภัย
โมเสสได้ตัดสินใจข้ามทะเลแดงในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ซึ่งเป็นเวลาที่กระแสน้ำนั้นลดต่ำที่สุด นับเป็นเวลาที่เหมาะที่สุด
เมื่อข้ามน้ำมาแล้ว โมเสสก็ต้องคำนวณเวลาที่ชาวยิวคนสุดท้ายจะข้ามแม่น้ำมาได้อย่างปลอดภัยก่อนที่กระแสน้ำจะกลับขึ้นมาสูงเหมือนเดิม ในขณะที่กองทัพอียิปต์นั้นติดกับ ถูกกระแสน้ำที่สูงขึ้นตีกลับทำให้จมน้ำ
อีกสาเหตุที่มีหลายคนคาดคิดก็คือลมที่แรงซึ่งพัดมาจากตะวันออก และพัดตลอดคืน ดันกระแสน้ำให้ออกไปด้านข้าง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็คาดว่ากระแสลมนี้ทำให้กระแสน้ำยิ่งลดต่ำลงไปอีก
ซึ่งหากทั้งหมดนี้เป็นความจริง เท่ากับว่าโมเสสนั้นคืออัจฉริยะ เป็นนักพยากรณ์ดวงดาวและภูมิอากาศชั้นยอด
นี่ก็เป็นเกร็ดอีกอย่างหนึ่งของเรื่องราวปาฏิหาริย์นี้
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
