เปิดประวัติ“แหม่ม-จินตหรา” นางเอกภาพยนตร์ไทยคนสุดท้าย
จินตหรา สุขพัฒน์ หรือ แหม่ม เกิดเมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2508 ที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ในครอบครัวชาวไทยเชื้อสายมอญ เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวนพี่น้อง 5 คน มีชื่อจริงว่า จิตติมาฆ์(จิตติ์ธนิษา) สุขพัฒน์ สำเร็จการระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ที่โรงเรียนวาสุเทวี ประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) โรงเรียนกิตติพาณิชย์ ปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทั่วไป เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง จากมหาวิทยาลัยเกริก และปริญญาโท คณะรัฐประศาสนศาตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารภาครัฐ มหาวิทยาลัยเกริกเช่นกัน
ขณะที่จินตหราเรียน ปวช. และทำงานพิเศษที่บริษัทโตโยต้าไปด้วย ทีมงานบริษัทเดนสึ ที่ทำโฆษณาให้โตโยต้าได้ชวนให้เธอไปทดสอบหน้ากล้องเพื่อถ่ายโฆษณาผ้าอนามัยลอริเอะ พอสำเร็จการศึกษาระดับปวช. เธอได้ทำงานที่บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล คอสเมติกส์ แผนกพัฒนาการขายเพียซ และช่วงนั้นอำพล สุวรรณจิตร อาจารย์สอนแต่งหน้าจากสถาบัน MTI ก็ได้ชักชวนเธอให้มาแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก คือ ผู้ใหญ่ลีกับนางมา คู่กับ เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร
หลังประสบความสำเร็จจากหนังเรื่องแรก จินตหราตัดสินใจเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงของค่ายไฟว์สตาร์ มีผลงานมาต่อเนื่อง และทำให้กลายเป็นนางเอกแถวหน้า อย่าง แก้วกลางดง แรงหึง คำมั่นสัญญา หวานมันส์ฉันคือเธอ สะพานรักสารสิน ภาพยนตร์ที่เป็นบทพิสูจน์ว่า เป็นนางเอกที่โด่งดังและมีฝีมือทางการแสดงอย่าง คู่กรรม เหยื่อ ที่พลิกบทบาทการแสดงของจินตหรา ส.อ.ว.ห้อง 2 รุ่น 44 เมื่อครั้งยังมีชื่อเสียงช่วงแรก เคยคบหากับ นิว-อธิป ทองจินดา อดีตพระเอกผู้ล่วงลับ
แต่ภาพยนตร์ที่ทำให้จินตหราเป็นที่นิยมในหมู่แฟนๆ ชาวไทยมากที่สุด คือเรื่อง บุญชู แสดงคู่กับ หนุ่ม-สันติสุข พรหมศิริ ที่สร้างติดต่อหลายภาค นอกจากนี้เธอยังได้รับบทสาวชาวเวียดนาม จากภาพยนตร์ฮอลลีวูด เรื่อง กูดมอร์นิงเวียดนาม ที่แสดงคู่กับ โรบิน วิลเลียมส์
หลังจากหมดสัญญากับไฟว์สตาร์ จินตหราได้เข้าสู่วงการละครโทรทัศน์ ด้วยการแสดงละครโทรทัศน์ให้กับสถานีโทรทัศน์สองสถานีใหญ่พร้อมกันคือ เชลยศักดิ์ ทางช่อง 7 HD และ สี่แผ่นดิน ทางช่อง 3 HD ผลงานทั้ง 2 เรื่อง ทำให้จินตหราเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะบทแม่พลอย จากละครสี่แผ่นดิน ที่ทำให้เธอ เป็นที่พูดถึงมากที่สุด ในบทบาทนักแสดงละครโทรทัศน์
จินตหรา ถือได้ว่าเป็นนางเอกภาพยนตร์ไทยหรือนางเอกจอเงินคนสุดท้าย ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เธอได้รับเกียรติให้ประทับรอยมือและรอยเท้าบนลานดาราซึ่งเป็นลานเกียรติยศของดาราภาพยนตร์ไทย ที่หอภาพยนตร์ ในฐานะของนางเอกคนสุดท้ายผู้ปิดตำนานภาพยนตร์ไทย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
