ตั้งแต่ปี 2024 อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์มาตรฐานทั่วยุโรป จะต้องเปลี่ยนเป็น USB-C
ภายในปี 2024 อุปกรณ์ Android ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น Tablet, Smartphone, กล้อง ที่จำหน่ายในสหภาพยุโรปจะต้องใช้พอร์ตชาร์ตมาตรฐานเป็นแบบ USB Type C ทั้งหมด ทั้งนี้เป็นไปตามมติของรัฐสภายุโรป มตินี้ได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อ Apple ซึ่งใช้ Connector แบบ Lightning สำหรับผลิตภัณฑ์ของตนเอง
นอกจากอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือแล้ว อุปกรณ์ประเภทอื่นอย่าง Ear Buds, E-Readers และอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์อื่นๆ ก็จะต้องใช้พอร์ตชาร์จตามมาตรฐานนี้ด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบกับ Huawei และ Samsung ด้วย
คณะกรรมาธิการยุโรปยังระบุว่าการกำหนดให้ใช้มาตรฐานนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภคกว่า 250 ล้านยูโร แต่สำหรับสหราชอาณาจักรยังไม่มีข้อสรุปว่าจะกำหนดให้ใช้มาตรฐานเดียวกันกับสหภาพยุโรป
อย่างไรก็ตาม มาตรฐานนี้จะถูกใช้ในไอร์แลนด์เหนือด้วยตามข้อตกลง Brexit ที่กำหนดให้ไอร์แลนด์เหนือจะอยู่ในตลาดเดียวกับสหภาพยุโรปสำหรับสินค้าทั้งหมด ซึ่งแตกต่างจากส่วนอื่นของสหราชอาณาจักร
ปัจจุบันในยุโรปมีอุปกรณ์การใช้สายชาร์จที่มี Connector แบบ USB-Micro B ประมาณ 50%, แบบ USB-C ประมาณ 29% และแบบ Lightning ของ Apple ประมาณ 21%
กฎหมายเกี่ยวกับมาตรฐาน Connector ของสายชาร์จนี้จะรองรับการพัฒนานวัตกรรมใหม่และโซลูชั่นการชาร์จๆในอนาคตให้มีมาตรฐานเดียวกันซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก
คุณสมบัติของ USB Type C
USB Type C มีขั้วต่อ 24 พินเท่านั้น ซึ่งสามารถทำหน้าที่เป็นปลั๊กหรือเต้ารับก็ได้ โดยมีพินมากกว่า USB ในรูปแบบเก่า เช่น A และ Micro B จึงสามารถชาร์จอุปกรณ์และถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว จุดประสงค์หลักที่ USB C ถูกสร้างขึ้นคือการยกเลิกสายเคเบิลและอะแดปเตอร์ต่างๆ ทั้งหมด เพื่อสร้างโซลูชันที่เป็นสากลมากขึ้นสำหรับการชาร์จและการถ่ายโอนข้อมูล
ข้อได้เปรียบอย่างมากสำหรับอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB-C เพียงสองสามพอร์ต เทียบกับอุปกรณ์รุ่นเก่าที่มีพอร์ตและตัวเชื่อมต่อต่างๆ มากมาย ไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดพื้นที่ด้วยพอร์ต USB-C เท่านั้น จำนวนสายเคเบิลที่ใช้ตามวัตถุประสงค์ต่างๆจะลดลงอย่างมาก แต่เมื่อ USB-C จะกลายเป็นมาตรฐานอาจมีความจำเป็นต้องใช้ฮับและอะแดปเตอร์จำนวนมากเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นเก่ากับพอร์ต USB-C
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
