23 ม.ค. 2023 เวลา 13:14 • ไลฟ์สไตล์

“พ่อ สั่ง ไว้ เป็นเรื่องจริง“

#กรุณาอ่านให้จบแล้วคิดตาม
พ่อบอกว่า ถ้าพ่อตาย
ไม่ต้องสวดเทศน์อภิธรรมนะ
เราถามว่า ทำไมไม่สวดหล่ะ...?
พ่อบอกว่า
"สวดอภิธรรมคือการสวดเพื่อ
ให้คนเป็นฟังและรู้จักพิจารณาธรรม จะได้เข้าใจ และ
ได้สำนึกในการใช้ชีวิตว่า
"อย่าประมาท" แต่ สมัยนี้
ต่อให้เทศน์ 100 วัน
ก็ไปนั่งคุยกัน ก้มหน้าดูแต่โทรศัพท์ ดื่มสังสรรค์กันยังกับงานเลี้ยงรุ่น
สู้ให้พระสงฆ์ท่านพักผ่อนดีกว่า
หรือถ้าขัดไม่ได้จริงๆคือสวดแค่1 คืน
แล้วเผาเลย...
เราถามต่อว่าแล้ว
อย่างนี้ลูกหลานจะมาทันเผาหรือ?
พ่อบอกว่า
การเผาศพนั้นเป็นหน้าที่
ของสัปเหร่อ
ส่วน ลูก หลาน
ญาติพี่น้องคือผู้ร่วมพิธี
และถ้าเขาคิดถึงเรา
"ให้มาหาพ่อแม่ตอนที่ยังไม่ตาย"
ตอนที่พ่อแม่มีชีวิตอยู่จะได้
รู้สึกถึงความรักและความผูกพันการกตัญญู
ของลูกหลาน ของญาติพี่น้อง
พอให้ได้ชื่นใจ
แต่หากตายแล้ว
ก็ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้
ลำบากกันเปล่าๆ มีอะไรที่จำเป็นต้องทำ
ก็ทำต่อไป และการมางาน
คนอยู่ก็ต้องลำบาก
ยุ่งยากเตรียมการดูแลต้อนรับอีก
เรายังสงสัย... แล้วคนที่เรา
เคยไปช่วยงานเขาแล้ว
เขาอยากกลับมาช่วยงานเรา
คืนบ้างหล่ะ หรือคนที่รู้จัก
ที่นับถือกันอยากมาร่วมทำบุญกับพ่อหล่ะ?
พ่อบอกว่า : เวลาที่เราแบ่งปันให้คนอื่น
ทำความดี อย่าหวังถึงสิ่งตอบแทน
หรือคาดหวังว่าเขาต้องกลับมา
ตอบแทนเรา การให้ ก็ ให้ทำตามกำลังเรา
ให้แล้วคือการได้ฝึกจิตใจเมตตา
ให้ละซึ่งกิเลส ความอยากต่างๆ
และสำหรับคนที่รู้จัก
ละอยากเป็นพระร่วมกับพ่อ
ก็ให้เขาเอาของที่จะทำบุญส่วนนั้น ไปทำกับพ่อแม่
บุพการี ถ้าไม่มีก็ไปถวายที่วัด
หรือกับผู้ยากไร้ หรือที่ไหนก็ได้
ตามสะดวกของแต่ละคน
แล้วอธิษฐานจิตอุทิศบุญส่งให้พ่อก็น่าจะได้...
และการอ่านประวัติ ก็ไม่จำเป็น
ต้องสรรหาคำมาบอกเล่าคุณความดี
ให้เสียเวลาเผา เดี๋ยวจะค่ำมืด
กว่าจะได้เก็บกระดูก เพราะที่ผ่านมา
และนับจากนี้ พ่อจะสร้างคุณค่า
และความดีไว้กับแผ่นดิน
ด้วยการปลูกต้นไม้ สร้างป่า
และธรรมชาติ เป็นอนุสรณ์
ให้บอกเล่าประวัติของพ่อเอง...
เราหมดคำถาม
แต่มีกำลังใจเพิ่มขึ้น
ที่จะช่วยพ่อสร้าง และ
ฝากชีวประวัติพ่อไว้ในแผ่นดิน..
พ่อบอกว่า การทำดีกับใครนั้น อย่าไปหวังสิ่งตอบแทน หรืออย่าไปคาดหวังเพื่อให้คนนั้นทำดีกับเราคืน แต่ให้ทำออกมาจากใจของเราจริงๆ แค่นั้นก็พอ..
จงจำไว้ว่ามือผู้ให้ย่อมอยู่สูงกว่ามือผู้รับเสมอ
โฆษณา