23 ม.ค. 2023 เวลา 20:37 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับหนังศตวรรษที่ 21 :

ความลับของเจมส์ คาเมรอน อัจฉริยะสองพันล้านเหรียญต่อเรื่องพันธุ์แท้
Avatar พระวิษณุกำลังแยกร่าง
เมื่อพูดถึงผู้กำกับภาพยนตร์ไม่ว่าจะเก๋ากึ๊ก แบบ หนังฟอร์มใหญ่ ลอว์เรนซ์ ออฟ อารเบีย สะพานข้ามแม่น้ำแคว และ ดร ชิวาโก ของเซอร์ เดวิด ลีน หรือ เบนเฮอร์ ของ วิลเลียมไวล์เลอร์ หรือ คลีโอพัตรา จูเลียส ซีซาร์ และ Sleuth ของ โจเซฟ แมนโควิทช์ หรือ เดอะก๊อดฟาเธอร์ ของ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า หรือ แม้กระทั่งมิชชั่น อิมพอสสิเบิ้ล ของบริษัทพระเอกทอม ครุยส์ ( ครุยส์ไม่ได้เป็นผู้กำกับหนังแต่เป็นเจ้าของบริษัทหนัง Cruise and Wagner )
ยังไม่มีใครสู้ เจมส์ คาเมรอน
เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับภาพยนตร์สุดอัจฉริยะ
คาเมรอนเป็นทั้งผู้กำกับและเจ้าของบริษัทผู้ผลิต The Terminator Series ; Alien Series และ; Avatar Series หรือที่คนอเมริกันเรียกว่า Franchise เขาเป็นเช่นเดียวกันกับสตีเฟ่น สปีลเบิร์ก และ จอร์จ ลูคัส ที่เป็นทั้งผู้กำกับและมีบริษัทหนังของตัวเอง
แต่หนังทั้งสามเรื่องของคาเมรอน ทำเงินมากกว่าคนอื่นๆเกือบทุกเรื่องและหลายๆเรื่องทำเงินทะลุสองพันล้านเหรียญ
และAvatar 1 และ 2 เป็นหนึ่งแฟรนไชส์เดียวที่คาเมรอนกำกับหนัง บอกซ์ ออฟฟิซ ทำเงินได้มากกว่าเรื่องละเกินสองพันล้านเหรียญซ้อน
นั่นคือ Avatar: The Way of Water หรือ Avatar 2 เพิ่งกลายเป็นหนังทำเงิน สองพันล้านเหรียญ เมื่อวานนี้ อาทิตย์ 22 มค 2023
เรื่องแรกของเขาคือ Avatar1 ทำเงินเป็นอันดับ หนึ่ง 2.9 พันล้านเหรียญ เรื่องที่สองของเขาคือ ไททานิค 2.1 พันล้านเหรียญ และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สาม คือ Avatar: The Way of Water หรือ Avatar 2
ฉากอันลือลั่นของคู่พระนางคิดจากจินตนาการพันล้านของผู้กำกับหนังและผู้ตัดต่อสุดยอดฝีมืออย่างคาเมรอน
หนังทำเงินอื่นๆที่เกินสองพันล้านได้แก่หนังดิสนีย์ Aventure: Endgame (อันดับสอง 2.7 พลร ใช้เวลาทะลุ สองพันล้านเพียง 11 วัน เร็วที่สุด ) Star Wars : EP VII: The Force Awakens ( อันดับสี่ 2.071 พลร ใช้เวลาทะลุ เพียง 54 วัน) อันดับห้า Aventure: Infinity War ( 2.052 พลร 48 วัน )
ส่วน Avatar1 ใช้เวลา 47 วัน และ Titanic ใช้เวลาถึง 5233 วัน จึงทะลุ 2 พลร
Avatar2 ทำเงินได้ถึง 2.024 พลร เมื่อวานและมาเป็นอันดับหก แซงหน้า Spider-Man : No Way Home และ Jurassic World ด้วยสถิติเพียง 37 วัน!
1
ในช่วงคริต์มาส ปีใหม่และตรุษจีน หลังการผ่อนคลายมาตรการโควิดในหลายๆประเทศทั้งๆที่อยู่ในฤดูหนาว ทำให้หนัง Avatar2 ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี
 
อีกทั้งมีเวอร์ชั่นสามมิติ ฉายทั่วโลกที่คนต้องต่อคิวเข้าชม
นักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลไปยังประเทศเขตร้อนหนีหนาวก็จะได้อานิสงส์จากการตัดสินใจเอาหนังออกฉายช่วงนี้ทั่วโลก และการฉลองตรุษจีนถึงสองอาทิตย์ต้อนรับปีกระต่ายย่อมทำให้หนังทำเงินขึ้นไปอีก
ว่องไวสมกับที่เป็นหนังปีกระต่าย!
นอกจากมาถูกที่ถูกเวลา ถูกตลาด และถูกคนด้วยไหม?
อวตาร เป็นคอนเซปต์แรกของการที่มนุษย์อวตารมาปราบยุคเข็ญซึ่งไม่ใช่เป็นพระวิษณุอวตารมาปราบช่วยมนุษย์ของอินเดีย จึงทำให้น่าสนใจ และในอินเดีย Avatar2 สามารถทำเงินถึง 58 ล้าน เหรียญ ซึ่งเป็นหนังฮอลลีวูดหนึ่งเดียวที่สามารถแข่งกับบอลลีวูดได้สบาย
รวมทั้งกำลังทำเงินเป็นอันดับหนึ่งในหลายประเทศทั่วโลกเช่นในประเทศที่ชอบทะเลและเก่งกีฬาทางน้ำ เช่น ออสเตรเลีย หรือที่เป็นทะเลทรายเช่น มองโกเลีย หรือเต็มไปด้วยหิมะหนาวเหน็บ เช่น ออสเตรีย เพราะมันทำให้นึกถึงฤดูร้อน
ที่สำคัญในจีนทำเงินได้ถึง 229.7 ล้าน เหรียญ! ในเวลาเพียง 5 สัปดาห์
และมีโอกาสแซงหน้า ขึ้นอันดับสาม แซงหน้าไททานิค และอาจทำเงินได้ถึง 2.5 พลร เร็วๆนี้ และถ้าโลกยังรบกันอยู่ในยูเครน(ซึ่งกลายเป็นเวียดนามสองของโลกไปแล้ว) ก็อาจทะลุสามพันล้านไปเลยทีเดียวเพราะหนังอวตารสองเป็นหนังที่ตลาดปัจจุบันต้องการเห็นธรรมะเอาชนะอธรรม ทั้งๆที่พล้อตเรื่องอาจว่าลอกมาจาก เรื่อง โพคาฮอนตัส…
เรียกว่ามาครบตลาด บวกกับ แฟรนไชส์พรีเมี่ยมของ IMAX 3D กับ Dolby ที่โรงหนังยิ่งทำให้ครบตลาดจริง
ความสามารถของคาเมรอนในเรื่องพล้อต ลำดับเรื่อง การใช้สเปเชียลเอฟเฟคส์ในการสร้างก็สุดยอด เขาเป็นอัจฉริยะที่มองเห็นมุมคำพูด ลำดับภาพ มุมความคิด อากัปกิริยาและพฤติกรรมมนุษย์
คาเมรอนสามารถทำให้หุ่นยนตร์มีชีวิตจิตใจเหมือนมนุษย์
ในเรื่อง Alien เขาใช้แม่เพศมารดาผู้ให้กำเนิดมนุษย์ (และเอเลียน)เป็นผู้นำการปราบสัตว์ร้ายนอกโลกผู้ต้องการทำลายมนุษย์โลก เช่นเดียวกับ Terminator ผู้เป็นหุ่นยนตร์ข้ามเวลาและทุกเรื่องจะให้ผู้หญิงเป็นตัวเอก
คาเมรอนและ Neytiri te Tskaha Mo’ at ‘ite a.k.a Neytiri Sully
เจมส์ คาเมรอน กับสตีเฟ่น สปีลเบิร์ก( ผู้กำกับอีที จูราสสิคปาร์ค และ War of the Worlds ) เป็นผู้กำกับหนังที่เป็นอัจฉริยะพอๆกัน ทั้งคู่มีทักษะไฮเทค และ Sci Fi และ เช่นเดียวกับสตีเฟ่นที่มีคนรู้จักมากกว่า เจมส์ คาเมรอนสร้างพล้อตจากท้องเรื่องผู้ข้ามเวลามาพิชิตโลก
แต่ในขณะที่สปีลบิร์กหนักไปทางทฤษฎีและเทคโนโลยีเก่า คาเมรอนหนักไปทางปฏิบัติ และมีความหลากหลายกว่า ในไททานิคเขาลงไปในมหาสมุทร36,000 ฟิตเพื่อทดลองกับตัวเองใต้พื้นน้ำเพื่อสร้างเทคนิคเหมือนจริงใหม่ๆ และสร้างฉากที่คนดูตื่นเต้น
คาเมรอนกำกับเคท วินสเล็ตบทในน้ำเมื่อเรือจม
นอกจากฉาก การเขียนพล้อต ท้องเรื่อง การเขียนบท ภาพยนตร์และมุมกล้องคาเมรอนยังใช้ ความสามารถและความพิถีพิถันด้านคอมพิวเตอร์ที่ล้ำหน้าผู้กำกับหนังทุกคนแม้แต่สปีลเบิร์กในการทำ CGI หรือ Computer Generated Images และ VFX เทคโนโลยีและกำกับ Special Effects เอง ซึ่งเขาใช้เวลาพัฒนาถึง 15 ปี
พร้อมด้วย Fusion Camera System ซึ่งใช้กล้อง Sony และเลนส์ Fujinon รวมทั้ง กล้อง 3D motion capture เทคโนโลยี ที่สามารถใช้ร่วมกับ CGI ภาพดูคมชัดและเหมือนจริงเพราะคาเมรอนต้องการให้อยู่ในระดับตาเพื่อให้คนดูเหมือนเข้าไปร่วมอยู่ด้วยในเหตุการณ์และมีอารมณ์ร่วม
ที่สำคัญเขาต้องการสร้างภาพยนตร์ที่แท้จริงที่คนต้องกลับเข้าไปดูในโรงหนังเพื่อจะได้ภาพและเสียงจริงซึ่งเขาจะได้เงินจากตรงนี้จาก Box Office
มากว่าที่จะปล่อยให้คนดูจากมือถือ
คุ้มค่าสามชั่วโมง ที่ผ่านไปเหมือน3 นาที
ขอจบลงด้วยการแนะนำให้ไปดูไม่ว่าเป็นเวอร์ชั่น IMAX 3D หรือ ปกติ
จบลงด้วยสุภาษิตอังกฤษว่า
The proof in the pudding ( ว่าอร่อยหรือไม่ )
Is to eat it ! 😄
หยุดตรุษจีนนี้ต้องไปดูให้ได้น้าา…แล้วเอามาวิจารณ์กัน…
อวตาร 3 จะตามมาไหม?!
ขอขอบคุณ
โฆษณา