25 ม.ค. 2023 เวลา 14:32 • บันเทิง

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ PickIdeas ได้มีโอกาสสรุปบทสัมภาษณ์ของนักร้องในตำนาน

ที่บัตรขายหมดตลอดกาลอย่าง ธงไชย แมคอินไตย์
เพื่อนๆเคยสงสัยไหมคะว่า คนที่ประสบความสำเร็จในวิชาชีพของตนเองอย่างยาวนานนั้น มีวิธีคิดอย่างไร
PickIdeas ได้ถอด 10 แง่คิดที่ได้จากพี่เบิร์ดมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ
.......
1.”การเป็นคนช่างสังเกตุ และตรงไปตรงมา”
.
สมัยเป็นเด็ก พี่เบิร์ดฉายแววการเป็นนักร้อง
จากการเล่นดนตรีในครอบครัว และการเป็นเด็กกิจกรรมของโรงเรียน
เมื่อสมัยที่พี่เบิร์ดได้มีโอกาสแสดงเรื่องน้ำตาลไหม้ เรียกได้ว่ายังไม่รู้จักว่าการแสดงคืออะไร
พี่เบิร์ดก็กล้าถามนักแสดงรุ่นพี่ว่า “ร้องไห้ได้ยังไง? คิดถึงอะไร?"
จึงได้รู้คำตอบที่สงสัยตรงๆ จากผู้อื่นที่เก่งแล้วได้ไว
1
หลายคนอาจไม่รู้ว่า ก่อนหน้าจะมาเป็นนักร้อง
พี่เบิร์ดเคยมีโอกาสทำงานธนาคารมาก่อน โดยได้เรียกสอบสัมภาษณ์
ซึ่งพี่เบิร์ดเองเคยบอกในบทสัมภาษณ์ว่า
“หากสอบข้อเขียนคงไม่มีทางได้ แต่เนื่องจากได้สอบสัมภาษณ์
จึงคิดว่าได้แน่”
ในตอนนั้นพี่เบิร์ดถูกสัมภาษณ์กับประธานใหญ่
ซึ่งประธาน ให้เลือกทำโจทย์ทั้งหมดสิบข้อ
แต่หากทำผิดจะไม่รับเข้าทำงาน
ด้วยนิสัยที่เป็นคนตรงไปตรงมา กล้าพูด
พี่เบิร์ดจึงตอบว่า “ผมไม่ทำงานกับคุณ ถ้าคุณให้เด็กทำข้อแรกแล้วผิด
แล้วอีกเก้าข้อไม่ตรวจ คุณจะรู้ได้ไงว่าเด็กเก่งอะไร?”
นับว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากๆ ว่าคนเราสามารถกล้าที่จะพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดได้อย่างตรงไปตรงมา จึงทำให้คนรู้สึกประทับใจในความซื่อตรงของพี่เบิร์ด
...........................
​​​.
2. “ปรับมุมมองให้สนุกกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตลอดเวลา”
สมัยเป็นพนักงานธนาคาร
พี่เบิร์ดก็มีมายเซ็ตในการทำงานที่ดี
โดยเป็นคนที่กระตือรือร้นกับสิ่งที่ทำ
และคิดในแง่ดีว่าอย่างน้อยๆก็เป็นการได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษ
เมื่อมีโอกาสได้ทำงานที่ดิสโก้เทค ได้ทำงานตำแหน่งเปิดประตู
ก็ตั้งชื่อตำแหน่งให้ตัวเองว่า “Door Man”
โดยมีมายเซ็ตว่า “ตัวเองมีหน้าที่ เปิดประตู เพื่อเปิดประตูให้คนเข้าไปมีความสุข ความสุขอยู่ข้างใน ไม่ว่าจะเครียดแค่ไหนก็ตาม”
1
เมื่อคิดให้สนุกกับสิ่งที่ทำตรงหน้า ทำให้ลีลาการเต้นของพี่เบิร์ดที่คลับ
ไปเตะตาของทุกคนในร้าน รวมถึงแมวมองด้วย
 
จากที่สมัยนั้นไม่มีอะไรเลย พี่เบิร์ดได้รับโอกาสสำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต คือการเข้าสู่กองถ่ายทำ
“ต้องทำมุมมองให้ชอบก่อน เพราะเราสามารถคุมทุกอย่างได้ เมื่อเราสามารถสนุกกับสิ่งตรงหน้าได้ มันอาจพาเราไปสู่โอกาสที่คาดไม่ถึง”
...........................
3. “การเรียนรู้ที่ดีที่สุด มาจากการลงมือทำ”
“การฟังกระแสเรียกบางอย่างในใจตัวเอง
ทำให้พี่เบิร์ดตัดสินใจลาออกจากงานที่มั่นคง
เพราะรู้ว่า ตรงนี้คือที่ของเรา และมันจะทำให้เรามีความสุข”
เมื่อเข้าสู่การฝีกร้องเพลงทำให้พี่เบิร์ดได้เรียนรู้ว่าการร้องเพลงไม่จำเป็นต้องตะเบงเสียง ได้ทำความเข้าใจทุกๆสิ่งตั้งแต่การควบคุมลมหายใจไปจนถึงการฝึกใช้ร่างกาย การยิ้ม การใช้รูปปาก มีผลต่อการร้องทั้งหมด
แต่กว่าจะชำนาญได้ต้องลงมือทำ ฝึกฝนจนสองปีผ่านไป ถึงได้พบวิธีร้องที่เหมาะสม และได้ค้นพบว่าการร้องเบาแต่ให้คนได้ยินเป็นเรื่องยาก
เมื่อสมัยพี่เบิร์ดมาออกรายการเจ็ดสีคอนเสิร์ตคร้ังแรก รู้สึกว่าตัวเองพลาดมาก เพราะไม่สามารถร้องสดได้ดี จนพี่เต๋อแนะนำว่า “ต้องร้องให้เหมือนในเท็ป”
ทำให้พี่เบิร์ดต้องกลับไปฝึกโดยการ กรอเท็ปและร้องจนกว่าจะเหมือน นั้นจึงเป็นที่มาว่า ทำไมเวลาที่พี่เบิร์ดร้องเพลงสด จึงเพราะและมีคุณภาพไม่ต่างจากการเปิดเท็ป เพราะเขาผ่านการฝึกฝนและเรียนรู้จากการลงมือทำจนชำนาญมากนั้นเอง
...........................
4. “เมื่อมีเพื่อนที่รักในสิ่งเดียวกัน จะลุยผ่านทุกอย่างไปได้ง่าย”
ความสัมพันธ์ของพี่เบิร์ด พี่เต๋อ พี่ปื๊ด มาจากความเชื่อ
ในสายตาของพี่เบิร์ด พี่เต๋อ เป็นโปรดิวเซอร์ที่เก่งที่สุดในโลก และพี่เบิร์ดสามารถพูดความรู้สึกทุกอย่างตรงไปตรงมาได้ ถ้ารู้สึกว่าคำบางคำไม่เข้ากับเพลงก็จะบอก ถ้ารู้สึกอะไรก็จะพูดตรงๆ
เมื่อมีคนที่รักในสิ่งเดียวกันแล้วทำอะไรก็สนุก ถึงขนาดอัดไป600 เทค
ก็ไม่เหนื่อยหน่าย
หากใครเคยฟังเพลงสบายของพี่เบิร์ด น้อยคนที่จะรู้ว่า พี่เบิร์ดเคยร้องคำว่า “สบาย สบาย” ในเพลงสบาย มาถึง 500 เทค เพื่อให้คำว่าสบายเป็นธรรมชาติที่สุด สำหรับคนอื่นคงเป็นเรื่องที่กดดัน
แต่พี่เบิร์ดบอกว่า ไม่รู้ตัวเลย เพราะชอบมาก
เลยทำให้ไม่รู้ว่าที่ร้องไปกี่เทคแล้ว
ส่วนตัวทีมงานเองก็สนุกเหมือนกัน
จากความรักในงาน ความไว้ใจในกัน และความเคารพซึ่งกันและกันเสมอ ทำให้การทำงานประสบความสำเร็จขึ้น จากสามคนกลายเป็นอุตสาหกรรมเพลงที่ใหญ่ที่สุดใประเทศอย่างแกรมมี่
.
5.“มืออาชีพคือคนที่คิดถึงคนอื่นเสมอ”
“พี่ไม่ได้เกิดมาชุ่ยๆ ไม่ว่าจะให้พี่เบิร์ด ร้องไห้ หรือเตะหิน พี่เบิร์ดจะรับผิดชอบมันด้วยการทำออกมาให้ดีทุกอย่าง”
พี่เบิร์ดเป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมเป็นอย่างมาก เพราะพี่เบิร์ด เชื่อในความละเอียดและใส่ใจในสิ่งที่ทำของทีมงาน และเชื่อถือในหน้าที่ของแต่ละคน ไม่ว่าจะหน้าที่เล็กหรือใหญ่
เชื่อหรือไม่ว่าในตลอดการทำงานของพี่เบิร์ด เขาไม่เคยเปลี่ยนท่าเต้น หรือสิ่งที่ทีมงานคิดมาให้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเชื่อในสิ่งที่คนคิดคิดมาแล้วว่าดี การแสดงความไว้ใจและเชื่อในทีมงานทำให้งานทุกงานออกมามีคุณค่าและดีขึ้นมาได้
.
...........................
6. “กำหนดเวลาให้ความเศร้า และลุกขึ้นมาทำงาน”
เมื่อป๋าเต๊ดถามพี่เบิร์ดว่า เคยจมหรือเศร้าไหม แบบที่ลุกขึ้นมาไม่ได้
พี่เบิร์ดตอบว่าตนเองก็เป็นเหมือนคนทั่วไป คือมีเรื่องที่เศร้า
แต่สิงที่ทำให้หายเศร้าคือการทำงาน “พี่เบิร์ดเป็นคนให้เวลาเศร้าวันสองสัน หรือกำหนดไว้เลยว่าบ่ายสี่ต้องเลิกเศร้า” เพราะมีคนอื่นรองานจากพี่เบิร์ดอยู่ เราไม่ได้ทำงานคนเดียว เพราะคิดถึงคนอื่นจึงสามารถทำให้ลุกขึ้นมาได้
และแน่นอนว่าต้องกอบกู้ความรู้สึกของตัวเองให้กลับมาก่อน ถึงจะทำงานได้ดี
...........................
.
7. “ฉากจบของนักร้องในตำนาน คือการร้องเพลงต่อไปไม่มีวันจบ”
ก่อนอัลบั้มบูมเมอแรง
ครั้งหนึ่งพี่เต๋อเคยบอกให้พี่เบิร์ดหยุดร้องเพลงได้แล้ว
ภายในห้องที่เย็นเฉียบ พี่เบิร์ดเขาไปนั่งเผชิญหน้ากับพี่เต๋อ
โดยพี่เต๋อบอกกับพี่เบิร์ดว่า “เบิร์ด นายต้องหยุดร้องพลงได้แล้ว
นายมันดังเกินไป”
เหตุและผลคือ พี่เต๋อ ประเมิณสถานการณ์ว่า
พี่เบิร์ด เปรียบเสมือนหินอ่อน ที่ถูกนำมาเจียรไนยจนไม่เหลือที่จะให้เจียรไนยแล้ว หากเอาอะไรลงไปขัดไปแกะอีก มันจะต้องแตกแน่นอน กลัวว่าชื่อเสียงของพี่เบิร์ดจะเสียหายไป แต่ ถ้าเลิกตอนนี้ไปทำอย่างอื่นจะเป็นการลงที่สวย
แต่เหตุการณ์วันนั้น ทำให้พี่เบิร์ดเฟลมากจนมาร้องไห้ที่บ้าน แล้วได้มีโอกาสคุยกับตัวเองในกระจกเป็นครั้งแรก ทำให้เข้าใจในสิ่งที่พี่ๆบอกได้
แล้วตัดสินใจ เข้าไปออฟฟิซในวันรุ่งขึ้นแล้วบอกพี่เต๋อว่า
“ตนเองจะไม่เลิกร้องเพลง”
เพราะเหตุการณฺวันนั้นพี่เบิร์ดคุยกับตัวเองในกระจกว่า ไม่เลิกร้องเพลง จะดูแลตัวเองให้ดี ไม่ทำให้ใครเสียใจ เพราะไม่งั้นหินอ่อนจะแตกหักและพังลงไปในที่สุด
แต่เพราะพี่เบิร์ดอยากเป็นนักร้อง พี่เบิร์ดจึงบอกว่า เพิ่งใช้ไปแค่ก้อนเดียวเอง ยังเหลืออีกหลายก้อนเลย
จึงเป็นที่มาของเพลง บูมเมอแรง..ขว้างไปยิ่งแรงยิ่งกลับมาเร็ว
ในชีวิตของศิลปินผู้โด่งดังมักจะออกแบบตอนจบของตัวเองให้สวยเสมอ แต่ความคิดของพี่เบิร์ด การร้องเพลง มันจะไม่มีคร้ังสุดท้ายเด็ดขาด เพราะหน้าที่ของพี่เบิร์ด คือร้องเพลงให้คนดูมีความสุขเท่านั้น
...........................
.
8. “ทำไมพี่เบิร์ต้องโลกสวย?”
พี่เบิร์ดถูกป๋าเต็ดถามในรายการว่า รู้สึกยังไงกับคนที่บอกว่า “เราจะมองโลกแง่ดีอย่างเดียวไม่ได้เพราะมันโลกสวย”
พี่เบิร์ดตอบว่า “รู้สึกเห็นใจ เพราะว่าคนเราไม่ว่าจะเจอเรื่องหนักแค่ไหนมันจะมีอย่างน้อยๆ แง่ดี”
แสดงถึงจุดยืนและวิธีคิดที่แข็งแกร่งของพี่เบิร์ดว่า โลกนี้ไม่มีอะไรมาเอาเขาลงได้ พี่เบิร์ดเป็นคนที่เคลียร์ คือการคุยกับตัวเองเสมอ หาคำตอบให้ได้ว่า ทำไมมันถึงเกิดเรื่องนี้
คนเราต้องมีความเข้าใจ ถ้ามีความเข้าใจ 9 ปัญหามา 10 เหลือแค่ข้อเดียวที่เราจะหาทางแก้ปัญหา และถ้าหากเรามีความเข้าใจมาก ปัญหาจะมาเท่าไหร่เราก็จะแก้ได้
มันต้องมีการเข้าใจ และเรียนรู้พูดคุย อนุญาติให้เราเข้าใจจริงๆ อย่าปลอมเด็ดขาด
“อย่าไปกลัวว่าโลกสวย ถ้าทำแล้วทุกอย่างมันดีก็ให้มันสวยเถอะ!”
“อย่าโมโหชีวิตมากไปนัก และอย่าเอาสิ่งไม่ดีมาใส่คนอื่น หากลบมันไปได้ก็ลบไปสะ”
“อย่าไปกำหนดชื่อให้ใครว่าโลกสวย แค่เพราะเขาเหนื่อย เราแค่รับฟังก็ถือว่าเราได้ช่วยเขาแล้ว มันแค่นั้น”
.
9. “เป็นถึง เบิร์ด ธงไชย แต่ยังต้องหัดร้องเพลงทุกวัน”
“เป็นถึงเบิร์ด ธงไชย แล้ว ยังต้องหัดอีกหรอ?”
พี่เบิร์ดตอบว่า “ยังต้องหัด เพราะทำยังไงให้เส้นเสียงของเรายังคงแข็งแรงอยู่เสมอ การหายใจ การเก็บลม”
ป๋าเต็ดจึงถามต่อว่า “ยังทำไม่ได้ดีพออีกหรอ?”
“ยังต้องทำให้ดีกว่านี้อีกไง”
คำตอบนี้ทำให้เรารู้ว่า เป็นถึงนักร้องที่มากความสามารถก็เพราะหัดอยู่เสมอ
พี่เบิร์ดเคยบอกว่ามีอยู่สามอย่างบนโลกใบนี้พี่เบิร์ดทำไม่ได้คือ
“ผิวปาก ร้องหมอลำ และตีลังกา”
นอกนั้น ทั้งฝึกร้องฝึกเต้น คือรูทีม ที่ตำนานผู้นี้ต้องทำทุกวัน
.
10. “โลกที่ในอุดมคติ ของพี่เบิร์ด คือโลกที่เปิดหน้าต่างมาแล้วเจอคนดู”
และคำถามที่ทำให้ได้คำตอบที่ประทับใจที่สุดในรายการ คือคำถามที่ว่า “โลกแบบไหนที่เป็นโลกในอุดมคติ ที่ชอบที่สุด”
พี่เบิร์ดตอบว่า คือโลกที่เปิดหน้าต่างมาแล้วเจอคนดู
ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมกาลเวลาถึงไม่สามารถทำอะไรชายผู้นี้ได้ เพราะพันธกิจของพี่เบิร์ดนั้นยิ่งใหญ่ กว่าการเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จ เป็นที่ชื่นชอบ
หรือเป็นคนร่ำรวย
แต่คือการแสดงความสัมพันธ์ที่เบิร์ดมีต่อคนดู ในฐานะผู้มอบความสุข
เราไม่รู้เลยว่า เขากลับบ้านไปเขาจะมีเรื่องทุกข์อะไร ความสุขของคนดูก็มีแค่ได้มาดูคอนเสิร์ตของพี่เบิร์ด เพราะฉะนั้น การร้องเพลงจึงเป็นสิ่งที่รัก
และอยากทำเพราะทำให้คนดูมีความสุข นับว่าเป็นมายเซ็ตที่ยิ่งใหญ่
จนสามารถมอบพลังในการทำงานให้เขามาจนถึงวันนี้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับบทความสำหรับวันนี้ เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างคะ? อย่าลืมคอมเม้นต์ข้างล่างนี้นะคะ
ฟังคลิปสัมภาษณ์ >> https://www.youtube.com/watch?v=ybn1iw_BlCg&t=1451s
#เบิร์ดธงไชย #PickIdeas
โฆษณา