‘BABYLON’ หนังที่เชิดชูวงการภาพยนตร์ที่ดุเดือด และโคตรบ้าพลัง
การกลับมาอีกครั้งของผู้กำกับ 'เดเมียน ชาเซลล์' กับการเล่าเรื่องที่อัดแน่นด้วยเรื่องราวของวงการฮอลลีวูด ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ความฝัน และวิวัฒนาการของวงการภาพยนตร์ 3 ชั่วโมงเต็มๆ
🟠 ผลงานสะท้อนตัวตน และสิ่งที่อัดแน่นอยู่ภายในใจของผู้กำกับ
คราวนี้ถือเป็นอีกผลงาน ที่เปรียบเสมือนการเขียนจดหมายรักจากเชเซลล์ ตัวภาพยนตร์ที่คารวะวงการภาพยนตร์อย่างตรงไปตรงมา ด้วยสไตล์จัดจ้าน และสะเปะสะปะในบางท่วงท่า
🟠 หนังชื่อบาบิลอน แต่ไม่ได้เอ่ยถึงเมืองบาบิโลนเลยแม้แต่น้อย ?
'บาบิโลน' ในความหมายโดยทั่วไปที่คนรู้จักคืออาณาจักรอันยิ่งใหญ่ในยุค เมโสโปเตเมียโบราณ จากคำถามคือ.. เมื่อหนังไม่ได้พูดถึงเมืองบาบิโลน แต่ทำไมถึงใช้ชื่อบาบิลอน ?
เมื่อลองมานั่งคิดวิเคราะห์ดูกันเล่นๆ บาบิลอนในความหมายของชาเซลล์ คงเปรียบถึง 'วงการฮอลลีวูด' เป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ และเป็นความฝันของใครหลายๆคน ทั้งอดีตจนมาถึงปัจจุบัน แต่สุดท้ายก็ต้องพังทลายลงเหมือนกันกับจุดจบของเมืองบาบิโลนเช่นกัน
🟠 เป็นวัฏจักรที่ใครก็สวนกระแสไม่ได้
เนื้อหาหลักๆ ได้เล่าถึงวิวัฒนาการจากยุคหนังเงียบสู่หนังเสียง ซึ่งใครปรับตัวได้ก็รอด ใครไม่ปรับตัวก็ร่วงตามวิถีแห่งธรรม เพราะไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเกิดเป็นซุปเปอร์สตาร์
สิ่งที่โอบอุ้มให้บาบิลอนสามารถฉาย3ชั่วโมงแล้วไม่ทำให้คนไปหลับไปซะก่อนคือความวุ่นวาย ความสุดเหวี่ยง และบ้าพลังที่อัดแน่นตลอดแทบไม่ให้เราหยุดพักหายใจ ถือว่าเป็นงานที่หนักมือและกระจัดกระจายอยู่พอสมควร ตัวหนังทำออกมาไม่ได้กลมกล่อมมากนัก มีจุดที่ไม่ประติดประต่ออยู่บ้าง
🟠 ดนตรีคือส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้
บาบิลอนจะไม่สมบูรณ์หากขาดดนตรีที่เข้ากันดีเหลือเกิน มันคือแจ๊สที่เอะอะ ตะโกนเหมือนตัวหนัง เป็นพลังงานที่ทัดเทียมกัน ซึ่งหากขาดไปคงเหมือนส้มตำไม่ใส่ปลาร้า
สุดท้ายเป็นหนังอีกเรื่องที่ควรค่าแก่การไปดู ไปดูสารบอกรักภาพยนตร์จากผู้กำกับคนหนึ่งที่หลงใหลในภาพยนตร์มากๆ คุณจะรู้สึกเหมือนว่าเราได้ย้อนไปอยู่ในยุคคศ 1920 ไปเห็นว่าวงการภาพยนตร์ก่อนที่จะมีหนังให้เราดูในทุกวันนี้ จุดเริ่มต้น และจุดเปลี่ยนมันคืออะไร เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ถ้าไม่รักก็อาจจะไม่ชอบมันไปเลย
#Artof #ArtofFilm #BABYLON #บาบิลอน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
