26 ม.ค. 2023 เวลา 12:36 • ข่าวรอบโลก

โครงการ “T Ver” คืออะไร และป่าชุมชนที่ขายคาร์บอนเครดิตในไทยแห่งแรก

หลายๆคนคงคุ้นชินกับคำว่า สภาวะโลกร้อนกันอยู่แล้ว และสาเหตุหลักก็คือเกิดจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในปัจจุบันภาวะโลกร้อนกำลังเกิดขึ้นเร็วมากขึ้นในทุกๆ ขณะเดียวกับที่โลกอุณหภูมิที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทำให้สภาพภูมิอากาศแปรปรวนและส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสมดุลของธรรมชาติ และจะก่อให้เกิดความเสี่ยงมากมายต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ บนโลกอย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วนั้น
จึงได้เกิดโครงการ T-VER ขึ้น คือ กลไกลดก๊าซเรือนกระจกภายในประเทศที่ TGO พัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2557 มีชื่อเต็มว่า โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) เรียกย่อว่า T-VER (อ่านว่า ที-เวอ)
ซึ่งเป็นกลไกที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ผลิตและใช้พลังงานหมุนเวียน ภาคอุตสาหกรรมที่มีกิจกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน การจัดการของเสีย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่มีศักยภาพลดก๊าซเรือนกระจก
รวมถึงมีการปลูกต้นไม้และการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าอย่างเช่นการสร้างป่าชุมชนตามจังหวัดต่างๆ ให้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นอกจากจะช่วยกักเก็บก๊าซเรือนกระจกได้แล้วยังสามารถรักษาและสร้างสมดุลของความหลากหลายทางชีวภาพได้อีกด้วย สำหรับ TGO จะเป็นผู้ให้การขึ้นทะเบียนโครงการ T-VER และรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดหรือกักเก็บได้จากโครงการ T-VER โดยปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดหรือกักเก็บได้ จะเรียกว่า “คาร์บอนเครดิต” ซึ่งสามารถขายสร้างรายได้อีกทางได้ด้วย
โดยคาร์บอนเครดิตมีหลายประเภทตามกลไกลดก๊าซเรือนกระจกที่ดำเนินการ ยกตัวอย่างเช่น คาร์บอนเครดิตจากกลไกการพัฒนาที่สะอาด (Clean Development Mechanism: CDM) ที่ใช้ซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศพัฒนาแล้วที่มีพันธกรณีต้องลดก๊าซเรือนกระจกภายใต้พิธีสารเกียวโตกับประเทศกำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนาที่ดำเนินโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภายใต้กลไก CDM คาร์บอนเครดิตจากโครงการ T-VER ที่ TGO ให้การรับรอง เป็นต้น
สำหรับประโยชน์ของโครงการ T-VER มีดังต่อไปนี้
ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน
เพิ่มแหล่งกักเก็บก๊าซเรือนกระจก จากการปลูกต้นไม้ อนุรักษ์และฟื้นฟูป่า
สามารถนำปริมาณคาร์บอนเครดิตไปใช้ในการรายงานผลการดำเนินงานขององค์กรได้
สามารถนำปริมาณคาร์บอนเครดิตไปใช้ในการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ผลิตภัณฑ์ งานอีเว้นท์ และบุคคลได้
สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร
ส่วนจุดเริ่มต้นการขายคาร์บอนเครดิตในประเทศไทยนั้น แม้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าที่ควร เพราะตลาดคาร์บอนเครดิตของไทยมีการซื้อขายคาร์บอนเครดิตด้วยราคาที่อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับราคาในตลาดโลก ส่วนหนึ่งเนื่องจากไทย ยังไม่มีนโยบายที่มีการบังคับปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหมือนในต่างประเทศ เช่น อียู สหราชอาณาจักร รัฐแคลิฟอร์เนีย เกาหลีใต้ เป็นต้น สะท้อนโอกาสของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนสูงในการจัดหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ
ล่าสุดนั้นทางด้านนายยุทธพล อังกินันทน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาและ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ข้อมูลภายหลังจากลงพื้นที่ติดตามความสำเร็จป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี บนเนื้อที่ 3,851 ไร่ โดยมีเครือข่ายป่าชุมชนฯ นำเยี่ยมชม แปลงสำรวจป่าชุมชน ในพื้นที่โซนอนุรักษ์ของป่าชุมชนบ้านโค้งตาบาง ซึ่งสามารถกักเก็บคาร์บอนเครดิตได้ 5,259 ตัน ซึ่งป่าชุมชนแห่งนี้ดำเนินการมาแล้วกว่า 20 ปี
สามารถพลิกฟื้นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม จนกลับมาเป็นป่าสมบูรณ์ จนสามารถสร้างรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตเป็นที่แรก ผ่านโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ (T-Ver) โดยมีองค์การบริหารจัดการก๊าชเรือนกระจก และกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การสนับสนุนอยู่นั้น ก็สามารถสร้างรายได้แล้วด้วยเช่นกัน และพร้อมกันนี้ยังมีป่าชุมชนอีก 11,327 แห่ง ทั่วประเทศไทยที่พร้อมจะเข้าร่วมโครงการ (T-Ver) อีกด้วย
โฆษณา