27 ม.ค. 2023 เวลา 11:55 • ธุรกิจ

รู้จัก “Mike Markkula” นักลงทุนคนแรกของ Apple

หากพูดถึงจุดเริ่มต้นของ Apple สาวกหลายคนคงนึกถึง Steve Jobs หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา ในโรงรถเล็ก ๆ ของครอบครัวเมื่อ 47 ปีที่แล้ว
2
แต่รู้ไหมว่า หากไม่มีเงินลงทุนจำนวน 91,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินปัจจุบันราว 14 ล้านบาท
จากชายที่ชื่อว่า “Mike Markkula” นักลงทุนคนแรกของ Apple ในวันนั้น อาจไม่มี Apple ที่ยิ่งใหญ่ได้ในวันนี้
1
แล้ว Mike Markkula คือใคร
ทำไมถึงเป็นนักลงทุนคนแรกของ Apple ได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
St. Stephen’s Open Days 2023 เปิดบ้านโรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ (กรุงเทพฯ) หลักสูตรอังกฤษสำหรับเด็ก ๆ อายุ 2-18 ปี ลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ https://bit.ly/3WZcolf
Mike เกิดเมื่อปี 1942 ในครอบครัวชาวฟินแลนด์ ที่อพยพมาตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 1883
เรียกได้ว่าครอบครัวของเขาก็เป็นนักประดิษฐ์ตัวยง
เพราะปู่ของเขาจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์มากมาย
และพ่อของเขาก็ยังเป็นนักประดิษฐ์อีกด้วย
นั่นจึงทำให้ Mike มีความสนใจเรื่องการประดิษฐ์ตั้งแต่เด็ก
จนเมื่อเขาโตขึ้น ก็ได้จบการศึกษาทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ด้านวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย
1
หลังจากนั้น เขาก็เริ่มทำงานทั้งเป็นวิศวกรและฝ่ายการตลาดไปพร้อม ๆ กัน ในบริษัท Fairchild Semiconductor
ด้วยความสามารถของ Mike ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของ Fairchild เพิ่มขึ้นจาก 17% เป็น 35% ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น ทำให้เขาได้รับหุ้นบริษัท ในฐานะพนักงานอีกด้วย
แต่ในเวลาต่อมา มีกลุ่มพนักงานที่ลาออกจาก Fairchild ไปทำงานให้กับ Intel ได้ชักชวนให้ Mike ไปทำงานด้วยกัน
1
ซึ่งเขาก็ไม่รอช้าที่จะตอบตกลง และหันไปร่วมงานกับ Intel อย่างจริงจัง จนบริษัทประสบความสำเร็จ และได้รับหุ้นในบริษัทมาจำนวนหนึ่งอีกด้วย
1
จากการถือหุ้นทั้งใน Fairchild และ Intel นี้เอง
ทำให้เขามีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
เขาจึงตัดสินใจลาออกจาก Intel อีกครั้ง เพื่อมาก่อตั้งบริษัทที่ให้การสนับสนุน และช่วยเหลือสตาร์ตอัป
นั่นก็ทำให้เขาได้รู้จักกับ Steve Jobs ผู้ก่อตั้ง Apple ตั้งแต่ตอนที่ Apple ผลิตคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่โรงรถ
เพราะในตอนนั้นเอง Don Valentine เจ้าพ่อด้านการลงทุนสตาร์ตอัป ไม่ได้สนใจในธุรกิจของ Apple แต่ก็ได้แนะนำให้ Mike เพื่อนของเขา ติดต่อ Steve Jobs กลับไป
1
และในที่สุดหลังจากได้เจอกัน Mike ได้ยื่นข้อเสนอ ให้เงินสนับสนุนจำนวน 91,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินปัจจุบันราว 14 ล้านบาท แลกกับหุ้นส่วน 26%
พร้อมกับช่วยเหลือในการหาแหล่งเงินกู้อีก 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้กับ Apple อีกด้วย
4
นอกจากนี้ Mike ยังเข้ามาวางโครงสร้างใหม่ให้กับ Apple ในหลายเรื่องด้วยกัน อย่างเช่น
- จดทะเบียนเป็นบริษัท และมีสำนักงานเป็นของตัวเอง
- จ้าง Michael Scotty ให้เป็น CEO คนแรกของบริษัท เพราะ Mike มองว่า Steve Jobs ยังเด็กเกินไป
- คิดแผนธุรกิจและวางแผนการตลาดสำหรับการขาย
1
หลังจากนั้น Mike ได้ชักชวนเพื่อนนักลงทุนอีกมากมาย
ให้เข้ามาลงทุนใน Apple
ทำให้ Apple ได้เงินเข้ามาลงทุนเพิ่มเติมอีก 517,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินปัจจุบันราว 75 ล้านบาท
และนั่นเอง จึงทำให้เขามีอิทธิพลใน Apple เป็นอย่างมาก
จนในที่สุด Apple ก็จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 1980 โดยมีราคาเริ่มต้น 22 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ซึ่งในตอนนั้นตัว Mike เองก็ถือหุ้นอยู่ประมาณ 7 ล้านหุ้น คิดเป็น 14% ของหุ้นทั้งหมด
นั่นเท่ากับว่า Mike ได้รับผลตอบแทนมากถึง 154 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินปัจจุบันราว 18,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม Mike ได้ลดบทบาทของตัวเองใน Apple ลงไปในปี 1997 เมื่อ Steve Jobs ได้กลับเข้ามาเป็น CEO ของ Apple อีกครั้ง หลังจากที่เคยถูกไล่ออกไปก่อนหน้านั้น
ซึ่ง Mike เองก็ให้การสนับสนุนการกลับมาของ Steve Jobs อีกเช่นกัน
แม้จะมีความขัดแย้งกันเมื่อตอน Steve Jobs ถูกไล่ออกไปจากบริษัทในตอนแรก แต่ Steve Jobs ก็ยังคงขอบคุณ Mike ที่ช่วยมาวางรากฐานให้กับ Apple
และอาจพูดได้ว่า หาก Steve Jobs เป็นหัวเรือในนวัตกรรมของ Apple ตัว Mike เอง ก็คงเป็นหางเสือที่คอยนำทางให้ Apple ยิ่งใหญ่ได้ จนมาถึงทุกวันนี้..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ปัจจุบัน Mike ถูกประเมินว่า มีความมั่งคั่งสุทธิ
ทั้งหมด 39,384 ล้านบาท ซึ่งในปี 1996 Mike ขายหุ้นของ Apple ออกไปบางส่วน แต่ในปัจจุบัน ไม่มีข้อมูลว่า Mike ยังถือหุ้นของ Apple อยู่หรือไม่..
St. Stephen’s Open Days 2023 เปิดบ้านโรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ (กรุงเทพฯ)
ให้ผู้ปกครองได้พูดคุยกับคุณครู ทราบเหตุผลที่ทำให้หลักสูตรอังกฤษเป็นหลักสูตรที่ดีที่สุด ข้อดีของการเรียนในโรงเรียนขนาดกลาง และเยี่ยมชมบรรยากาศโรงเรียน ซึ่งนำทัวร์โดยน้อง ๆ นักเรียน
ลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ https://bit.ly/3WZcolf
1
Early Years: อายุ 2-5 ปี
14 มี.ค. 66 เวลา 09:00 – 12:00 น.
Primary-Secondary: อายุ 6-18 ปี
28 ก.พ. 66 เวลา 09:00 – 12:00 น.
โรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ (กรุงเทพฯ) ถ.วิภาวดีรังสิต https://bit.ly/3H9scw3
สอบถาม-พูดคุยกับเรา
091-737-2165 / 0-2513-0270
โฆษณา