27 ม.ค. 2023 เวลา 05:49 • ความคิดเห็น

esteem need หมายถึง ความต้องการการยอมรับนับถือ

เป็นคำที่หยิบยกมาจากทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ (Maslow's Hierarchy of Needs)
.
พื้นฐานของทฤษฎีนี้เชื่อว่า มนุษย์ทุกคนจะมีความต้องการขั้นพื้นฐาน ซึ่งพฤติกรรมการแสดงออกของแต่ละคนจะเป็นไปตามลำดับขั้นความต้องการของตนเอง โดย esteem need คือหนึ่งในนั้น
.
ทำไมเด็กบางคนถึงคบแต่เพื่อน "เหลือขอ" แทนที่จะไปคลุกคลีกับเพื่อนที่เรียนหนังสือเก่ง คนที่พ่อแม่ของเพื่อนมีอาชีพการงานดีๆ พูดจาเพราะๆ ไม่มีกิริยาหยาบคาย?
keyword อยู่ที่ "ความสบายใจ"
ส่วนใหญ่แล้วคนที่เราเลือกคบมักจะเป็นคนที่มีอะไรใกล้เคียงกัน เช่น
- ความสนใจ
- นิสัย
- พื้นฐานครอบครัว
- ความถนัดหรือระดับความสามารถ
เด็กบางคนไม่ได้ถนัดการเรียนแต่ถนัดการใช้ร่างกาย เช่น ดนตรี กีฬา เต้น ศิลปะ หรือการได้ช่วยเหลือคนอื่น
พอไปอยู่กับกลุ่มคนเรียนเก่งๆ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่น
กระทบกับ esteem need เพราะในสังคมที่ให้คุณค่ากับความเรียนเก่ง พอตัวเองไม่ได้เรียนเก่งก็จะรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีคุณค่าในสังคมนั้น
แต่ที่จริงแล้วเด็กมีคุณค่าอื่นๆ ซึ่งถ้าไปอยู่ในสังคมที่ใช่ก็จะเฉิดฉายและมีความรู้สึกภาคภูมิใจ ได้รับการยอมรับนับถือจากคนในสังคมนั้นๆ
.
เด็กที่หาสังคมที่ใช่เจอและเป็นสังคมที่มีพฤติกรรมที่สังคมในภาพรวมยอมรับก็มักไม่มีปัญหา เช่น อาจจะเรียนไม่ดีแต่เก่งกีฬา ดนตรี ศิลปะ หรือเวลาไปทำงานจิตอาสาแล้วมีคนชื่นชม
แต่เด็กบางคนถูกคาดหวังให้ต้องอยู่ในสังคมที่ไม่ใช่
หรือไม่ว่าจะไปอยู่ตรงไหนคนก็ไม่ต้อนรับ เพราะอาจจะไม่เด่นอะไรเลยทั้งการเรียน ดนตรี กีฬา ศิลปะ มองไปทางไหนก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเอาดีด้านไหน แถมยังโดนดุด่าทุกวันว่า "ไม่เอาไหน"
เด็กกลุ่มนี้ถ้าไปเจอใครก็ตามที่มองเค้าด้วยสายตายอมรับ ไม่ด่า ชักนำให้มาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม เค้าก็จะเข้าไปในสังคมนั้นทันที
เด็กหลายคนโชคไม่ดีที่หาสังคมที่เหมาะกับตัวเองและเป็นไปในทางที่สร้างสรรค์ไม่เจอ แต่ดันไปได้รับการยอมรับจากกลุ่มเด็กที่เสพสารเสพติด ไม่เข้าระบบการศึกษา หนีออกจากบ้าน ลักเล็กขโมยน้อย มีพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย
ระหว่างเป็นคนดี(ตามค่านิยมของสังคม) แล้วรู้สึกแปลกแยกโดดเดี่ยว
กับเป็นคนที่สังคมตราหน้าว่าเกเร แต่มีความสุข มีความสบายใจ มีเพื่อน
น้อยคนที่จะเลือกอย่างแรก
.
ดังนั้น
หากไม่ต้องการให้เด็กๆ ไปอยู่ในสังคมที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ก็ควรให้การยอมรับเขาในแบบที่เขาเป็น
หากเขาเรียนไม่เก่ง ก็ไม่ควรบังคับให้เขาไปอยู่กับเพื่อนที่เรียนเก่งๆ
หากเขาไม่ชอบกีฬา ก็ไม่ควรบังคับให้เขาไปอยู่กับนักกีฬา
หากเขาเป็นเด็กเนิร์ด ก็ไม่ควรบังคับให้เขาไปอยู่กับสังคมที่ชอบสัพเพเหระ ร้องรำทำเพลง
เมื่อคนเรายังเป็นเด็ก เราจะเลียนแบบและมองผู้ใหญ่ว่าผู้ใหญ่ทำอะไร
ถ้าผู้ใหญ่ที่เขารักให้การยอมรับเขาไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง
เขาก็จะเรียนรู้ที่จะยอมรับและภาคภูมิใจในตัวเองโดยไม่ต้องเที่ยวไปแสวงหาการยอมรับจากภายนอก
เมื่อ esteem need อิ่มเต็ม self-esteem ก็จะเกิดขึ้น
เสี่ยงต่อการมีปัญหาสุขภาพจิตน้อยลง
โฆษณา