27 ม.ค. 2023 เวลา 07:57 • บันเทิง
♥️♥️อ่านเรื่องเล่าของคุณหมอกรพรหม แสงอร่าม ในมุมมองต่อวิชาชีพพยาบาล คุณหมอเขียนได้สนุกมากๆ...
เป็นบทความของนพ.กรพรหม แสงอร่าม หรือ หมอต้วง ศัลยแพทย์ผ่าตัดหัวใจ และอีกหน้าที่หนึ่งเป็นกัปตันของบริษัทการบินไทย เรียนหมอเพราะตามใจแม่คือ กรรณิการ์ ธรรมเกสร แต่มาเป็นกัปตันขับเครื่องบินตามใจฝันตั้งแต่เด็กตามพ่อ คือกัปตันประมุข แสงอร่าม และทำหน้าที่ทั้งสองอย่างพร้อมกันได้สุดยอด***
เรื่องเล่าจาก
ศัลยแพทย์ผ่าตัดหัวใจและทรวงอก (CVT)
“ 21 ตค. วันพยาบาลแห่งชาติ”
ขอบคุณนางฟ้าชุดขาวของคนไทยทุกคน
ขอย้อนไปเล่าเรื่องประทับใจการทำงานกับพยาบาล
ที่ผมไม่มีวันลืมในชีวิตการเป็นแพทย์
วันนั้นเป็นวันศุกร์ ตอนค่ำๆผมไม่ได้อยู่เวร
ตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้นตื่นสักตีห้า จะไปราวน์คนไข้แล้วขับรถไปเช่าเครื่องบินขับ
กับครูการบินที่ ศุนย์ฝึกการบินพลเรือนบ่อฝ้าย ที่หัวหิน
แต่อากาศมันร้อนมาก และที่หอพักแพทย์ที่ รพ.จุฬา สมัยนั้นยังไม่มีแอร์
ผมเลยตัดสินใจขึ้นไปนอนที่ห้องพักแพทย์เวร ที่ ICU สก.5
มันมีที่นอนเหลือ และคนที่อยู่เวรก็แทบไม่ได้นอน ดังนั้น หลับสบายแน่นอน
ในใจคิดงั้น
กำลังหลับสนิทเพลินๆ ตีสอง
รู้สึกมีแรงกระตุกดึงที่ข้อเท้าผมอย่างเเรง พร้อมเสียงตะโกนจากพี่นาถ พยบ หัวหน้าเวรในวันนั้น จนผมสะดุ้งตื่น “หมอกรพรหมๆ
เร็วๆเข้า คนไข้ cardiac arrest มีเลือดล้นจากขวดระบายมานองพื้นเลย เป็นไรไม่รู้”
ผมก็ shipหายแล้ว ไรเนี่ย รีบวิ่งเข้าไปใน ICU ที่ห่างกันห้าเมตรได้มั้ง
สิ่งที่พบคือ คนไข้ผู้หญิงสาว อายุสัก 30 ปี
หลังผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ Mitral เมื่อกลางวันที่ผ่านมา
ของอาจารย์ท่านนึง
นอนนิ่งอยู่บนเตียง ซีดมาก ตาค้างแบบลอยๆ ดูออกทันทีว่าหัวใจหยุดแล้ว
มองไปที่จอมอนิเตอร์ก็ตามคาด ผมวิ่งเข้าไปที่เตียงได้ยินเสียง
แผละๆ ที่เท้า ก้มลงไปดู รองเท้าเเตะของผมอยู่บนน้ำอะไรสีแดงๆสักอย่าง
น่าจะเป็นเลือดผสมกับน้ำในขวดที่ใส่ท่อระบายแล้วมันล้นออกมา
ทีมพยาบาล ICU สก.5 เป็นทีมที่ดีที่สุดทีมนึงที่ผมเคยเจอ ลาก Set ผ่าตัดเเบบเปิดหน้าอกฉุกเฉินมาให้พร้อมข้างๆเตียง
เค้ารู้ทันทีว่า ปั๊มหัวใจภายนอกแบบที่เราเรียนๆ CPR กันมา ก็ช่วยไม่ได้ในเคสนี้ เพราะมันไม่มีเลือดจะออกจากหัวใจ รีบเข็นไปห้องผ่าตัดก็
คงไม่ทัน ผมเองตอนนั้นก็ยังไม่รู้มาก่อนว่าคนไข้เป็นอะไร ผ่าอะไรไป เพราะไม่ใช่คนไข้ของผม ร
อย่างเดียวว่าต้องเปิดเดี๋ยวนั้น
ผมไม่มีเวลาใส่ชุดผ่าตัด ใส่ถุงมือได้ก็ลงมือกรีด ตัดไหมที่เย็บไว้จากห้องผ่าตัดเมื่อกลางวัน ตัดลวด หกเส้นที่เย็บกระดูกหน้าอกแยกออกจากกัน
ใส่เครื่องถ่างกระดูกหน้าอกกางออก ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีหลังจากลงมีด ไม่เกินสองนาทีหลังจากที่ผมถูกปลุก
สิ่งที่เห็นคือ หัวใจคนไข้ หยุดเต้น และแฟบมาก ดูคล้ายๆ สตรอเบอรี่ซีดๆ ลูกใหญ่ๆ แต่เหี่ยวๆ มีเลือดออกอยู่รอบๆ พลิกๆดู เห็นรูทะลุเล็กๆ สองรูขนาดสักเท่าหลอดกาแฟ ที่หัวใจ ตอนนั้นคิดไรไม่ออก ก็เอาเอานิ้วอุดไว้ก่อน รอจนหัวใจพองขึ้น
แล้วเริ่มลงมือบีบหัวใจ (internal cardiac massage) ประกอบกับทางพยาบาลเกือบสิบคนในวันนั้น ช่วยกันpushเลือดทางสายน้ำเกลือ
(Push เลือดคือเอา syringe ใหญ่ๆดูดเลือดจากถุงแล้วฉีดเข้าสายน้ำเกลือ
ถ้ารอให้หยดมันไม่ทัน มันช้า
อีกคนก็มาช่วยถูพื้นเช็ดเลือดที่นอง พยบ อีกคนตามห้องผ่าตัด
พี่นาถโทรรายงาน อจ เจ้าของไข้ สักพักเดียวพอหัวใจเริ่มพองขึ้นเพราะผมเอานิ้วอุดไว้ และได้เลือดจากที่น้อง พยาบาล สองสามคนช่วยกัน push
ผมก็เริ่มบีบหัวใจให้เลือดขึ้นไปเลี้ยงสมองได้ ตอนแรกที่ยังไม่บีบเพราะมันไม่มีไรจะออกจากหัวใจ บีบไปก็ช้ำใจเปล่าๆ 555 ตอนนี้สถานการณ์น่า
จะ under controlแล้ว ก็บีบไปเรื่อยๆ ยัง งงๆ อยู่ว่า กำลังหลับเพลินๆ แค่สองนาทีผ่านมากูมาทำไรตรงนี้เนี่ย 555 ติดต่อ อจ เจ้าของไข้ได้ ก็คุยสาย ถามว่าจะให้ผมเย็บเลยมั้ย อจ บอกว่า ยื้อเวลาไว้ก่อน คงต้องเข้าไปเย็บในห้องผ่าตัด เพราะตรงนั้น
มันใกล้เส้นเลือดสำคัญ และอาจจะต้องเข้าไปดูลิ้นที่ใส่ไปเมื่อกลางวันว่ามันมีปัญหาไรมั้ย ผมก็ออเค ตามนั้น ในใจนึกขึ้นได้ว่า
เอ…. วันนี้ไม่ได้อยู่เวรนี่หว่า กูแค่สะดวกแบบนี้ (555 )มานอนตากแอร์ใน ICU เฉยๆ แล้วหมอเวรไปไหน พยาบาลก็ตอบทันทีว่า หมอเวรผ่าตัดเคสเส้นเลือดแตกอยู่ในห้องผ่าตัด (โอ้วมายก๊อดดดด)
บีบไปบีบมาได้สักสองสามนาที ความดันเริ่มมา ดูจากสาย มอนิเตอร์ที่เเทงเส้นเลือดแดงที่ข้อมือ
ทันใดนั้น พายุก็มาอีกระลอก คือ “คนไข้ลืมตา”
ลืมเเล้วยังจ้องหน้าผม ว่ามึงมาทำอะไรกะหน้าอกกูเนี่ย พร้อมกับพยามลุกขึ้นเเล้วสะบัด พยาบาลก็ช่วยกันกดไหล่ โชคดีที่ท่อช่วยหายใจไม่หลุด
ผมก็ เฮ้ย ลืมไป คนไข้ ไม่ได้ดมยาสลบนี่หว่า ตอนเเรกที่ she นิ่งๆ
คือ she ตายไง หัวใจหยุดเต้น ตอนนี้พอทุกอย่างมาครบ she ก็เลยตื่นมั้ย?
อ้าว แล้วทำไงเนี่ย ตะโกนบอกพี่นาถ เอา dormicum 5 mg (ยานอนหลับ) มาฉีดเดี๋ยวนี้ สั่งไปแล้วนึกขึ้นได้ว่า ถ้าได้ยานอนหลับเดี๋ยวความดันเลือดจะตกนะ กำลังจะสั่งยกเลิก ใจอีกใจก็บอกว่า เเล้วมึงจะบีบหัวใจเค้าทั้งที่เค้ากำลังมองหน้ามึงเนี่ยเหรอ (โอ๊ย ชีวิต ทำไมซวยซ้ำซ้อนงี้วะ) สรุปให้ก็ให้วะ
เพราะนึกได้ ว่า ความดันคนไข้ อยู่ที่มือกูนี่เเหละ อยากได้เท่าไหร่จะไปกลัวอะไรวะ ก็เราบีบอยู่เองกะมือ สรุปก็ให้ยาไป คนไข้ก็สลบ ยังๆ ชีวิตไม่จบไม่สิ้น พายุระลอกสามมาอีก ไอ้ที่บีบไว้ พอหัวใจ
เริ่มเต้นเองได้บ้าง ที่เรากดไว้มันเริ่มมีเลือดออกมาอีก ก็กดแน่นขึ้นอีก พอกดแน่น มันฉีกเพิ่ม (โอ๊ยยย อีกเเล้ว) ก็ต้องคลายมือ คลายมากไป เลือดก็ออก (สุภาษิตไทย แม่งไม่ใช่แล้ว จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด อันนี้มัน จะบีบก็ตาย จะคลายก็ตาย 555) สรุปต้องปรับน้ำหนักการกดให้พอดีพอดี รีบเข็นไปห้องผ่าตัด ผมก็ขึ้นคร่อม ผป ไปแบบเก้ๆกัง โชคดีที่ ห้องผ่าตัดเปิด เส้นเลือดแตกอยู่ห้องนึ
เลยมีคนพร้อมมาช่วย ยื้อจน อจ เจ้าของไข้ มาถึง ล้างมือใส่ชุดเข้ามาเปลี่ยนมือกะผม ผมก็ไปล้างมือ เข้าไปช่วย อจ ผ่า จนหกโมงเช้า คนไข้รอด ผมเดินออกจากห้องผ่าตัด พระอาทิตย์ขึ้นพอดี รีบดูคนไข้ ของตัวเอง แล้วจับรถทัวร์ไปหัวหินแทนแผนเดิมที่จะขับรถไปเอง พอขึ้นบินกะครู บอกว่า ครูครับ ครูขับๆไปเลยนะ ผมขอ นอน
มะคืน ฝันร้าย 555
ที่เล่ามาทั้งหมดจะบอกว่า ชีวิตการรักษาคนไข้ที่ผ่านมาของผม ทั้งดีทั้งร้าย
จะมีนางฟ้าชุดขาวคอยอยู่ข้างๆผมเสมอ คอยช่วยคิด ช่วยทำในสิ่งที่ผมบอก
ช่วยให้กำลังใจ เวลาที่ ผมท้อแท้ ถูกอาจารย์ดุ บ้าง ไรบ้าง
บางครั้งก็ทำกับข้าวให้กิน คนไข้ในวันนั้น ที่มีชีวิตรอดมาได้ ไม่ใช่เพราะผมคนเดียว แต่มันคือเธอเหล่านั้น ที่คอย support ตลอดเวลา
พยาบาลเป็นวิชาชีพที่งานหนักมาก อดหลับอดนอน พยาบาลบางคนถูกตามมาดมยา ต้องเปิดมือถือดู CCTV เพราะลูกเล็กๆ ของเธอนอนอยู่บ้านคนเดียว
พวกเธอถูกสอนให้รักและห่วงจิตวิญญาณของคนไข้จริงๆ
บางครั้งพวกเราหมอๆ ก็เผลอมัวแต่นึกถึงความท้าทาย
ในการวินิจฉัย การรักษา
พอมา ราวน์ (เยี่ยมไข้) เสร็จแล้วก็ไป
แต่จะมีพยาบาลนี่เเหละ ที่อยู่กับ คนไข้ตลอดเวลา
เป็นห่วงเป้นใย มีเมตตา
แม้กระทั่งคนไข้ที่ไม่รอดจากการรักษาเเล้ว
ก็พยาบาลนี่เเหละ ที่เช็ดตัว แต่งหน้า ทำศพให้
ผมอยากฝากคนที่ได้อ่านบทความนี้ ไม่ว่าแพทย์ ไม่ว่าญาติคนไข้
ว่าได้โปรดเถอะ
เห็นใจนางฟ้าชุดขาวเหล่านั้น อย่าบั่นทอนจิตใจเธอด้วย
อารมณ์ของท่าน ให้อภัยกัน พูดจากันดีๆ
ทุกวันนี้ พยาบาลขาดแคลนมาก เพราะงานหนัก เหนื่อย ต้องรับแรงกดดัน
ถ้าเราไม่ช่วยๆกัน อนาคตจะเเย่กว่านี้
สุดท้ายนี้ ผมขออาราธนา สิ่งศักดิ์สิทธิ์และคุณความดีทั้งหลายที่พวกเธอได้
บำเพ็ญมา จงช่วยดลบันดาลให้ พยาบาลทุกคน มีสุขภาพกายใจที่เเข็งแรง
เป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่เจ็บไข้ได้ป่วย สร้างสมบารมีคุณความดีของเธอเหล่านั้นต่อๆไป
ปล.คนไข้คนนั้น อีก 1 เดือน เดินมาfollow up ที่ OPD กับ อาจารย์ท่านนั้น
ได้เอง
หวังว่าเธอคงลืมหน้าผมไปแล้วนะ 555
โฆษณา