29 ม.ค. 2023 เวลา 06:24 • ธุรกิจ

เจ้าสัวอันดับ3ของโลกโดนแหกแรง ปั่นหุ้นและตกแต่งบัญชี ด้านเจ้าสัวเตรียมฟ้องกลับ

เจ้าสัวอันดับ3ของโลก โดนแหกแรง กล่าวหาปั่นหุ้นแบบหน้าด้านๆ แถมตกแต่งบัญชีมาหลาย10ปี ด้านเจ้าสัวเตรียมฟ้องกลับพวกทะลึ่งปั่นเรื่องทำมูลค่าหุ้นบริษัทหายร่วม5หมื่นล้านเหรียญ
ประเด็นคืออาทิตย์ที่ผ่านมานักลงทุนแก๊งทุบหุ้นได้ออกบทวิเคราะห์แบบยาวเหยียดกล่าวหาบริษัทยักษ์ใหญ่ในอินเดีย Adani Group ที่เจ้าของอย่างคุณ Gautam Adani ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่รวยที่สุดเป็นอันดับ 3ของโลก และเป็นที่1ของเอเชีย
1
ซึ่งพอออกบทวิเคราะห์มาปุ้ปหุ้นในเครือ Adani ก็รูดลงแบบลิฟตก เบ็ดเสร็จหายไป5หมื่นล้านเหรียญคร่าาาาา ซึ่งบทวิเคราะห์ที่ออกมานี้ ก็ได้คุณ Bill Ackman นักลงทุนชื่อดังออกมาช่วยสนับสนุนความน่าเชื่อถืออีก1เสียงด้วย
บทวิเคราะห์นี้เริ่มแหกแบบเบาๆช้อตแรกที่ว่า Adani Group เนี่ยมี7บริษัทที่สำคัญอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งแต่ละบริษัทก็ทำธุรกิจหลากหลายไม่ว่าจะพลังงานเอย โครงสร้างพื้นฐานเอย และต่างๆ แต่ที่สำคัญคือแต่ละบริษัทมันมูลค่าเกินจริงไปมาก เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของแต่ละอุตสาหกรรม เรียกได้ว่าเกินค่าเฉลี่ยไปร่วมๆ 85%
ไม่พอ แต่ละบริษัทในเครือก็คือกู้แหลกแบบเผื่อชาติหน้า เงินสดบางบริษัทคือติดลบ แถมผู้ถือหุ้นใหญ่หลายคนก็เอาหุ้นตัวเองไปวางค้ำประกันเพื่อกู้เงินส่วนตัวมาใช้อีกที เรียกได้ว่ากู้ทะลุชาติหน้าไปแล้ว ณ จุดๆนี้
ไม่พอ Adani Group ในช่วงที่ผ่านมาได้ถูกสอบสวนการทุจริตจากทางรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฟอกเงิน และขโมยเงินในกองทุน มิหนำซ้ำบรรดาครอบครัว Adani ก็ถูกเพ่งเล็งฐานหนีภาษี และสร้างบริษัทปลอมๆนอกประเทศเพื่อมาสร้างยอดขายปลอมๆหรือสร้างภาพให้งบการเงินดูดี(แรงมาก)🫣
คนแรกที่ผุดออกมาคือน้องชายเจ้าสัว ที่ถูกกล่าวหาว่าสร้างบริษัทซื้อขายเพชรปลอมๆเพื่อระดมเงิน อารมณ์แชร์แม่ชม้อย และต่อมาน้องชายตัวแสบยังถูกจับฐานโกงภาษี แต่ในที่สุดก็ไม่ได้เข้าห้องกรงแต่อย่างใดแถมยังถูกแต่งตั้งเป็นผู้บริหารสูงสุดของ Adani Group อีกต่างหาก ไม่พอค่ะบรรดาน้องเขยกับพี่ชายของเจ้าสัวก็แสบไม่ต่างกันเพราะแต่ละคนก็ถูกมองเป็นตัวคนสำคัญในความปลอมต่างๆ ที่ปั่นหุ้นและตกแต่งบัญชี
ซึ่งการสร้างบริษัทปลอมในต่างประเทศของบรรดาญาติตัวแสบเจ้าสัว ที่นอกจากจะสร้างการซื้อขายปลอมๆแล้ว ยังมีการแอบไปถือหุ้นทางอ้อมอีกด้วย และแบบนี้มันก็จะผิดเกณฑ์ที่ว่าหุ้นต้องถือโดยสาธารณะ 25% (คนภายในถือได้75%) ซึ่งถ้ารวมการถืออ้อมแบบนี้คนภายในก็เกิน75%ไปแล้ว
การสร้างบริษัทปลอมยังสะดวกตรงที่ว่า นางได้มีการโอนสินทรัพย์จากบริษัทเครือ Adani เข้าบริษัทปลอม พอโอนปุ้ป บริษัทปลอมก็ด้อยมูลค่าของสินทรัพย์ทันที เพราะถ้าเก็บสินทรัพย์อันนั้นไว้จะไปสะท้อนการขาดทุนในงบการเงินของ Adani ทันที แถม Adani Group ยังเปลี่ยน CFO เป็นว่าเล่น 5คนในรอบ8ปี ก็ถือว่าบ่อยผิดวิสัย
ด้านผู้ตรวจบัญชีบริษัทในเครือ Adani ก็เป็นบริษัทแบบโป๊ะๆ ไม่มีหน้า Website และลูกค้าก็นับนิ้วด้วยมือข้างเดียวได้เลย แถมผู้ตรวจสอบบัญชีที่เซ็นรับรองบัญชีบริษัท Adani ก็วัยกระเตาะ อายุ23 ซึ่งมันใช่ไหมกับบริษัทซับซ้อนในเครือ Adani Group ที่จะให้คนไม่ค่อยมีประสบการณ์สักเท่าไหร่มาเซ็นรับรอง
บทวิเคราะห์ท้าทาย Adani ที่ว่าในช่วงที่ผ่านมา Adani Group ใช้พลังและคอนเนคชั่นของตัวเองในการกดดัน ฟ้องร้อง คนที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับ Adani Group มาตลอด ซึ่งถ้า Adani Group มั่นจริงว่าตัวเองทำธุรกิจโดยสุจริตก็ต้องยอมตอบคำถามเพื่อคลายความสงสัย ไม่ใช่มาฟ้องๆ แต่ไม่มีคำตอบ
การออกบทวิเคราะห์มาช่วงนี้ ถือว่าจังหวะโบ๊ะบ๊ะพอสมควร เพราะ Adani Enterprise กำลังออกหุ้นเพิ่มทุนมา และกำลังจะปิดรับในวันอังคารที่จะถึงนี้ ซึ่งการเพิ่มทุนน่าจะกระทบพอสมควร และที่สำคัญ Adani Enterprise มีเงินสดค่อนข้างน้อย หนี้ก็เยอะ สภาพคล่องก็ต่ำ ถ้าระดมทุนไม่ได้แบบนี้น่าจะมีปัญหาใหญ่เลยแหละ
ท้ายที่สุดผลกระทบทั้งปวง จะกระทบบริษัทในเครือ Adani Group ทั้งหมด เพราะนอกจากจะโดนสอบสวนโดยคนนอกมากขึ้นแล้ว ความมั่นใจของนักลงทุนก็จะหายไปทันที การระดมทุนจะเป็นไปได้ยากมากๆ แล้วยิ่งบริษัทในเครือโดยรวมก่อหนี้ทะลุชาติหน้าแบบนี้ แล้วมันจะรอดหรอ เสี่ยง Default มากเลยจ้า
อ่ะ ว่าไปก็รีบเช้คกันหน่อยว่ากองทุนต่างประเทศทั้งหุ้นหรือตราสารหนี้ที่เราถือๆกันอยู่เนี่ย ถือบริษัทในเครือ Adani Group กี่ % โดยเฉพาะกองทุนอินเดีย!
ความน่ากลัวของบริษัทแนวนี้ที่ถึงแม้ว่านักลงทุนอย่างเราๆ อาจจะไม่สามารถจับได้ไล่มันทัน 100% แต่อย่างน้อยการที่เราเลือกลงทุนบริษัทที่สนใจด้าน ESG จะช่วยลดความเสี่ยงตรงนี้ได้ เพราะอย่างบริษัทในเครือ Adani เนี่ย นางถูกจัดให้เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เป็นอันดับโหล่ในอุตสาหกรรม เพราะฉะนั้นถ้าเราวิเคราะห์บริษัทด้วย ESG ตั้งแต่แรกก็จะช่วยลดความเสี่ยง หลีกเลี่ยงการลงทุนบริษัทแนวนี้ได้ในระดับนึงเลยแหละ
ในแง่ความเสี่ยงของประเทศอินเดียตอนนี้จะต้องระวังมากๆ เพราะ Adani Group ที่ว่าเป็นบริษัท Too big to fail ก็คือมันใหญ่มากๆ เพราะบริษัทประกันขนาดใหญ่อย่าง LIC ที่รัฐบาลอินเดียเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็มีการลงทุนในเครือ Adani อยู่พอสมควรเลยแหละ การโดนแหกแบบนี้ต้องกระทบกำไรวงการประกันในอินเดียพอสมควรเลยนะ นี้ยังไม่นับเงินกู้จากธนาคารรัฐ/เอกชนในอินเดียอีกเท่าไหร่ แล้วลองจินตนาการดูสิว่าถ้า Adani เป็น NPL มาจะเป็นไง🫣
ใครอยากอ่านแบบแหก Adani Group ขั้นสุด เชิญกดไปใน Reference ได้เลยค่ะ บทความยาวและละเอียดมากกกกก ใครอ่านจบเม้น หรือส่งข้อความมาร่วมนินทาได้เหมือนเดิมคร่า
โฆษณา