29 ม.ค. 2023 เวลา 08:32 • ความคิดเห็น
บางเรื่อง มันก็เป็นไปไม่ได้ เหมือนพระเทวทัต ทั้งบวช ทั้งฟังธรรม จากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่กลับเป็นผู้ที่ไม่รู้จักคำว่าพระคุณ กลับคิด หักล้าง อยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่ คิดครองศาสนา เพราะความหลงทะเยอทะยานของเทวทัต จึงมีการกระทำ ..ทำร้าย..องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเกิดเป็นภัย ต่อเทวทัต คือกรรมที่ตนเองนั้นเป็นผู้กระทำ เป็นอนันตริยกรรมนำพาไปสู่นรกอเวจี
คนเรานั้น..มันมีนิสัย มีอารมณ์ มีกรรมปกปิดจิต ..ให้เห็นกงจักรเป็นดอกบัว จะอยู่ใกล้ในสิ่งที่ดี..ก็เหมือนจับไม่ได้ เอาไปชำระสะสาง จิตใจของตัวเองไม่ได้ เป็นเพราะกรรม นั่นปกปิดสะกัดกลั้น ไม่ให้แก้ไข ในสิ่งที่ตนเองหลงยึดถือ มันก็เลยจมปลักอยู่อย่างนั่น ยากที่จะแก้ไขตัวเอง แล้วก็ไม่พรใด..ที่จะไปช่วยเหลือได้ ในเมื่อเค้าไม่คิดจะแก้ไข
เรื่องราวของคำว่า ทาน บุญกุศล บารมี มันก็มีขั้นตอนอยู่ เริ่มจากทาน ทำทานมาขึ้น จิตก็เริ่มไปหาบุญ ..ทำบุญด้วยความบริสุทธิ์มากขึ้น สวดมนต์ไหว้พระ ก็นำพาจิตไปหาคำว่า บารมี คือการประพฤติปฏิบัติธรรม หนีเวรกรรม .สิ่งเหล่านี้ ..เราไม่สามารถไปดึงคนนั่นคนนี้ มากระทำได้
เราก็ลองสังเกตได้ เวลาชักชวนใครมากระทำสร้างทานบุญกุศลบารมีจะมีสักกี่คนที่รีบกระทำด้วยความเต็มใจ สิ่งเหล่านั้นแหละ ที่จะ เป็นอุปสรรคขัดขวาง มิให้เค้าเข้าถึง .ธรรม ด้วยการประพฤติปฏิบัติธรรม ..ไม่ใช่แค่รู้แล้ว รู้จำ..แต่ปฏิบัติธรรมไม่ได้เลย จิตก็เลยไม่ได้มีการแก้ไข ..ด้วยการปฏิบัติ ..ค่อยๆรู้จักธรรมขึ้นมาจากจิตของตน นั่นก็คือ..สมัยต้นพุทธกาล มีผู้เล่าให้ฟังว่า ท่านสอนกันไม่กี่คำ ..จิตที่สะสมบุญบารมี นำไปปฏิบัติ..จนเข้าถึงมรรคผล พ้นทุกข์ไปได้
เมื่ออยากจะช่วยเค้าจริง ควรเริ่มให้เค้ารู้จัก สร้างทาน ..ไปปล่อยนกปลีอยปลา เอาสัตว์ที่จะถึงที่ตาย แม่ค้ากำลังจะเอาขึ้นเขียงฆ่าให้ตาย ก็ขอซื้อชีวิตเค้า เราก็เอาเค้าไปปลดปล่อย สู่แม่น้ำ ให้เค้าให้ทาน ..แบ่งปัจจัยเล็กน้อยๆ ให้เป็นทาน คนยากคนจน ..คนที่เค้าลำบาก เพื่อให้เกิดจิตเมตตาภายในจิตของเค้า ..ที่จะไปช่วยลดทอน ทิฐิความยึดถือของเค้านั้นออกไป ..แล้วต้องทำบ่อยๆ ใช้เวลา จึงจะเกิดผล เหมือนเอาน้ำดี ไปไล่น้ำเสียออกไป ต้องใช้เวลา..
โฆษณา