29 ม.ค. 2023 เวลา 10:11 • ไลฟ์สไตล์
เมื่อไม่นานมานี้ ก็มีเรื่องมาเล่า เรื่องมีอยู่ว่า มีพระหนุ่มมาบวช ..ก็อยากจะทดลองอดอาหาร ก็อดอาหารมาได้เจ็ดวัน ก็มากราบ พระสะพายบาตร กลดออกธุดงค์เลย ไม่มีใครสามารถ จะห้ามปรามได้ เราก็มาคุยกันเอง ในเรื่องราวของการประพฤติปฏิบัติธรรม ทำความรู้จักในเรื่องของสมาธิ เรื่องของอารมณ์ที่หิวกระหายของกาย มันทุกข์ทรมานที่กาย แล้วเราจะทำจ้ตอย่างไร ไม่ให้มีอารมณ์ที่ฟุ้งซ่านขึ้นมา พออดอาหารได้ครบกำหนด
..ลาสัจจะอธิษฐาน ..อารมณ์.ก็มาปรุงแต่ง เกิดอารมณ์ปิติ เห็นสิ่งนั้นสิ่งนี้สวยงาม ไปหมด จิตก็เบาสบายไปหมด ก็เลยยึดอารมณ์นั้น หลงยึดอารมณ์ที่ปรุงแต่ง หลงคิดว่ามีความสุข ยึดในอารมณ์นั่น
เหมือนจิตนั่นนอนหลับฝันหลงใหล ในมายาที่ปรุงแต่ง ..ก็เลยเดินออกจากวัดไป..เดินไปจนร่างกายอ่อนล้า หมดเรี่ยวแรง ก็โทรกลับมาบอกว่า ..ช่วยเอารถไปรับหน่อย เพราะเดินไปไกลมาก .เป็นวันเป็นคืน เป็นเดือน ..กว่าจะรู้สึกตัว ตื่นจากความฝัน เพราะอารมณ์มายา ที่ปรุงแต่ง..ให้เห็นเป็นของสวยของงาม นั่นค่อยๆ ลดลงไป เวทนาของกายก็ปรากฏขึ้น ..กายเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า จิตก็ต้องรับทุกข์ทรมานจากกาย
เวลาเราหลับฝัน ..นั้น มันไม่มีความรับรู้ รู้สึกว่าไม่มีกาย แต่ความฝันมันก็คืออารมณ์..เป็นอารมณ์ที่เรา ..อยากมี .มันเป็นอารมณ์สะสมนึกคิด ที่เราอยากจะมีความสุข แบบนั้นแบบนี้ ..พอเราหลับใหล ..อารมณ์เหล่านั้น มันก็นำพาไป .ปรุงแต่งไปตามอารมณ์ ที่เราอยากมีอยากได้ อยากจะไปให้ถึงจุดที่เราหลงใหลปรารถนา
จิตมันก็เลย มีอารมณ์ปรุงแต่งเกิดขึ้น เป็นมายา ..ให้จิตเราหลงยึดว่าเป็นสุข สุขของมายา มันไม่เที่ยง ไม่อยากไปรับรู้อะไร อยากจะมีความสุขเหมือนในฝันที่ผ่านมา ตื่นขึ้นมา ก็คือความจริงที่ปรากฏ ไม่เป็นเหมือนในฝัน นั่นแหละ คือ การที่จิตไปหลงใหล ในมายา ยึดถือ ..จมปลักแต่งเรื่องในฝัน จิตมันก็เลย ยึดอารมณ์ฝันนั่นไว้เป็นมายาที่เค้าอุปโลกน์หลอกจิตของตัวเอง ให้ยึดอารมณ์นั่นว่าเป็นสุขไม่อยากตื่นลืมตาเลย
โฆษณา