กุน ขแมร์ จะทำให้กัมพูชาต้องพบกับบทเรียนราคาแพง
กัมพูชาหรือเขมร ประเทศเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่เป็นการจัดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่มีกีฬานี้มา ได้ทำการเปลี่ยนชื่อการแข่งขันมวยไทย เป็นชื่อกุน ขแมร์ ทำให้กลายเรื่องเรื่องราวระหว่างประเทศโดยเฉพาะประเทศต้นแบบอย่างไทย ที่ไม่สามารถจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้
กีฬามวยไทย ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีต้นกำเนิดจากประเทศไทย ถึงแม้ว่าทางกัมพูชาจะมาอ้างว่ามีกำเนิดจากประเทศตนเองก็ตาม หลักฐานก็ฟ้องอยู่อย่างชัดเจน ว่ามวยไทยก็คือมวยไทยไม่ใช่ กุน ขแมร์ ยิ่งได้เข้าไปดูภาพการแข่งขันยิ่งเห็นได้ชัดถึงความแตกต่าง
ล่าสุดคณะกรรมการโอลิมปิก และพาราลิมปิกแห่ง สหรัฐฯ (USOPC) ได้ทำการออกจดหมายรับรองอนุมัติ “มวยไทย” เป็นสัญญาณที่ดีต่ออนาคตกีฬามวยไทย เพราะนอกจากกีฬามวยไทยจะได้รับการยอมรับในระดับสากลแล้ว อนาคตก็มีโอกาสได้รับการบรรจุให้ชิงเหรียญในกีฬาโอลิมปิก
สิ่งที่น่าแปลกใจคือ ทำไมผู้บริหารระดับสูงของกัมพูชาถึงคิดไม่ได้ เพราะยังไงมันก็ไม่เหมือนกันเลย แล้วยังปล่อยให้แอบอ้างเปลี่ยนชื่อเป็นกีฬาของตนเอง
หากผู้บริหารของกัมพูชายังคงยึดถือผลประโยชน์ที่ได้มาโดยมิชอบ โดยการเปลี่ยนชื่อแทนที่จะนำกีฬาของประเทศตนเองมาเป็นกีฬาสาธิตก่อน เพื่อสร้างการรับรู้ต่อชาวโลกดูจะสง่างามกว่าที่จะมาแอบอ้างเปลี่ยนชื่อเอาดื้อๆ
Facebook: Juli Ramayani
นอกจากนี้ก็ยังมีข่าวว่าทางกัมพูชาบอกว่าบัวขาวและนายขนมต้มเป็นขาวเขมรอีกด้วย กลายเป็นว่ากัมพูชากำลังพาลอ้างโน่นอ้างนี้ปนกันไปหมด พูดเรื่องหนึ่งก็จะเอาอีกเรื่องหนึ่งมาปน เหมือนกับการถามวัวแล้วได้ควาย
การที่กัมพูชาดำเนินการแบบนี้โดยระดับผู้นำประเทศกลับทำตัวนิ่งเฉย ไม่ได้ออกมากอบกู้ชื่อเสียงจากสิ่งที่คณะกรรมการจัดงานซีเกมส์ดำเนินการอยู่ในครั้งนี้ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในตัวผู้นำและวัฒธรรมของกัมพูชาต่อชาวโลกแน่นอน
ถึงแม้ว่าการกระทำในครั้งนี้จะสร้างผลประโยชน์ในระยะสั้นให้กัมพูชาก็จริง เพราะได้เอาชนะไทยได้จากความได้เปรียบของการเป็นเจ้าภาพการจัดงาน ที่สำคัญก็คือจะทำให้กัมพูชาได้รับเหรียญทองเป็นกอบเป็นกำ ทั้งจะได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ของประเทศด้วย แต่ว่ามันจะสง่างามหรือ?
ที่มา รัตนะ5 พุทธวจน
ขอบอกตามตรงในฐานะคนทำการตลาด ได้ไม่คุ้มเสียเลยกับพฤติกรรมแบบนี้ เพราะการที่ประเทศจะดำรงอยู่ได้ก็มาจากความเชื่อมั่นและเชื่อถือต่อกันและความเชื่อมันจากภายนอกประเทศด้วย คนในประเทศก็รับรู้ว่าของใครฉันไม่สนฉันอยากได้ฉันก็เอา การติดต่อระหว่างกันก็ต่างคนต่างระแวงกัน
ขนาดอเมริกาที่ใช้ความได้เปรียบของการสร้างภาพลักษณ์ตำรวจโลก พระเอกคนดีของชาวโลก ทั้งยังมีอำนาจทั้งบนดินและใต้ดินที่จะบีบประเทศไทศอะไรก็ได้ ปัจจุบันก็เสื่อมความเชื่อถือลงไปมาก เพราะมาจากการเป็นประเทศหน้าไหว้หลัวหลอก พร้อมที่จะกลืนกินใครก็ได้เพื่อผลประโยชน์ตนเองอย่างไม่ละอายใจ แล้วกัมพูชาจะเหลืออะไร
สิ่งที่ประเทศไทยดำเนินการอยู่ก็เป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว เพราะเราต้องรักษาสิทธิ์ตนเอง ที่ทางสหพันธ์ มวยไทยนานาชาติ ออกมาสั่งลงโทษประเทศที่ส่งนักกีฬาเข้ามร่วมแข่งขันกุม ขแมร์ นอกเหนือจากนั้นก็ปล่อยให้กรรมเป็นผู้ตัดสินกัมพูชาเอง
อีกสิ่งหนึ่งก็คือเราคงต้องมองอย่างเห็นใจ ต่อประเทศที่อยากมีอยากได้แต่ไม่เคยมี ต้องใช้วิธีไม่สง่างามเพื่อให้ได้มา แล้วยังออกพฤติกรรมพาลไปทั่ว อ้างคนโน้นทีคนนี้ทีเพื่อบอกว่าเขาเป็นคนกัมพูชา
ปล่อยเขาไปตามทางของเขาดีกว่าจะไปหาเรื่องทะเลาะ เพราะคนพวกนี้เขาแพ้ตั้งแต่เริ่มอ้าปากแล้ว เพียงแต่แสดงความก้าวร้าวกลบเกลื่อนความด้อยค่าของตนเองมากกว่า
ขอใช้คำพูดของพี่สามารถ พยัคฆ์อรุณ ที่กล่าวไว้ว่า "พวกเรามาไกลเกินกว่าที่จะมาสนใจว่าใครจะใช้เราเป็นบันไดในการใช้สร้างชื่อเสียงสร้างเครดิตให้พวกเขาแล้ว"
Facebook: Samart Payakaroon
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
