29 ม.ค. 2023 เวลา 23:25 • ความคิดเห็น
อ่านแล้วรู้สึกเลยว่า นี่แหละคือปัญหาของประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ความจนไม่ได้เกิดจากความขี้เกียจ คนจนเป็นคนที่ขยันกว่าคนรวยด้วยซ้ำ แต่ที่มันไม่หลุดพ้น เป็นเพราะห่วงโซ่แห่งความเหลื่อมล้ำไม่ยอมปลดปล่อยคนจน ไม่ว่าจะออกแรงเท่าไหร่ก็ไม่มีวันทำได้ เหมือนกับการวิดน้ำออกจากทะเล ต่อให้ออกแรงวิดเท่าไหร่ น้ำก็ไม่มีวันหมด
5
ชีวิตทำงานในเมือง ไม่มีที่ดิน ต้องเช่าบ้าน
ต้องเลี้ยงพ่อแม่เลี้ยงลูก มีลูกติด ภรรยาก็ไม่มีครอบครัวล้มเหลว ทุกอย่างมาจากปัญหาเรื่องเงิน
เรามีไม่พอ แล้วเราจะพอเพียงได้อย่างไร
ลืมไปเลยเรื่องปรัชญาพอเพียง เป็นสภาวะบังคับ
ไม่มีที่ดินทำกิน บ้านก็ต้องเช่า
ต้องกินต้องใช้ ไหนจะชุดนักเรียนค่าน้ำค่าไฟ
พ่อแม่อายุเยอะแก่เฒ่าโรคประจำตัว
บวกกับสิ่งแวดล้อมที่บ้านก็อยู่กันแบบแออัด
ขาดสมาธิ ขาดความคิดสร้างสรรค์ ขาดการส่งเสริม ไม่มีพื้นที่ส่วนตัว ต้องคิดถึงปากท้องเพื่อให้ชีวิตอยู่รอด สิ่งเหล่านี้แหละครับ ที่มันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำจนเกินไป คนจนถึงน่าสงสารที่สุด
ซึ่งกุญแจทั้งหมดมันอยู่ที่การเมือง
การศึกษาที่ล้มเหลว ต้องใช้ทุนเยอะ
สวัสดิการการรักษาไม่มีสำหรับคนจน ไม่มีประกัน
เราต้องวิ่งหาระบบ แต่ระบบไม่วิ่งเข้าหาคน
จึงเกิดการตกหล่นมากมาย
กว่าจะอยู่พอทนได้ต้องมีรถขับ มีโทรศัพท์มือถือ
ไม่มีใครยืนยันได้ว่าโลกทุกวันนี้มีความสุขกว่ายุคปู่ย่าตายาย มือไม้ยาวออก ชีวิตต้องไขว่คว้ามากกว่าเดิม ต้องเรียนให้จบเพื่อทักษะทางวิชาชีพ แต่ทักษะในการมีน้ำใจ ถูกลืม!
3
อีกทั้งคนจนยังมีโอกาสที่จะเกิดเป็นมิจฉาชีพ
มีโอกาสสูงที่จะเป็นคนเห็นแก่ตัว เพราะสภาวะบังคับ คนจนต้องจ่ายแพงมากกว่าคนรวย เนื่องจากมีรายได้น้อยซื้อของได้ทีละชิ้น ต่างจากคนรวยที่ซื้อของเหมาทีละเยอะๆในราคาที่ถูก ก็เลยเกิดเป็นวงจรอุบาท คนรวยยิ่งรวย คนจนยิ่งจน
คนรวยชีวิตเต็มไปด้วยโอกาส กู้ได้ ยืมได้
มี connection ทางธุรกิจ
แต่คนจนยิ่งกู้ยิ่งเป็นหนี้ มีโอกาสล้มเหลวสูง จากสภาวะสังคมที่บีบคั้น ไร้สวัสดิการรองรับชีวิตเปราะบางจนแทบอยากล้มหมอนนอนเสื่อ
1
คนจนที่ประสบความสำเร็จก็มี แต่น้อยมาก แทบไม่มีเลย ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ 1-5% ละมั้ง ที่ทำได้ อยู่กันไปแบบวันต่อวัน กว่าจะถึงสิ้นเดือนแทบสิ้นชีวาวาย ไร้คนมองเห็น
เงินจะใช้ในแต่ละเดือนยังไม่พอ ไม่ต้องถามหาเงินเก็บ อะไรก็จำเป็น ปัจจัยขั้นพื้นฐานต้องมี
สู้หัวชนฝา ปาดน้ำตาทุกเดือนทุกวันทุกปี
1
ถ้าคนจนที่มีคุณธรรม ชีวิตยิ่งลำบาก
ความดีก็ต้องสร้าง ทำงานก็ต้องทำ
คนจนมีโอกาสสูงที่นิสัยจะเป็นคนเห็นแก่ตัว
กลายเป็นคนเลว ไม่ใช่ว่าคนจนอยากเป็นคนไม่ดี
แต่คนจนไม่มีสิทธิ์เลือก ทางเลือกเหลือน้อย
บางครั้งก็ต้องยอมเพิกเฉยเพื่อให้ชีวิตอยู่ได้
สุดท้ายแล้วผมก็ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรและวิธีแก้ไขอย่างไร ชีวิตผมเองก็มืดมิด
นึกถึงบทความของคุณ sarawut ขึ้นมาเลย
ชีวิตเป็นเรื่องที่ยากมาก คนจนมีแต่อุปสรรค
ต่างจากคนรวยที่ชีวิตมีแต่โอกาส
1
คนจน เรียนบ้างไม่เรียนบ้าง
ต้องเจียดเวลามาทำมาหากิน ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ เรียนไม่จบ เกิดเป็นวงจรสืบเนื่องไปไม่หลุดพ้นสักที
ถ้าไม่บวชเรียน ก็คงต้องกลับบ้านนอกไปปลูกผัก
แต่ถ้าไม่มีที่ดินก็จบข่าว ซื้อเขากินเหมือนเดิม
สุดท้ายก็ต้องไปทำงานโรงงาน ทำทำไป
ไร้ทางออก หมดสิทธิ์เลือก
นี่แหละน้อคนจน
1
โฆษณา